การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม NCD (ภาค1) << เวียงสา << น่าน

ทำอย่างไรจะให้ประชาชนเห็นความสำคัญของสุขภาพของตนเองมากกว่าพึ่งหมอพึ่งยา

• เวียงสา 127 หมู่บ้าน 17 ตำบล มี 26 สถานีอนามัย 1 โรงพยาบาล
• โรคเรื้อรังที่ป้องกันได้มีเพิ่มขึ้นทุกวัน จากกระแสการบริโภคที่เข้ามากระหน่ำ ถึงบันไดบ้าน
• อาหารเสริมสาระพัด ที่อวดอ้างสรรพคุณ กินเข้าไป ลูกหลานก็พากันซื้อให้
• ไม่ออกกำลังกาย พอถามว่า ออกกำลังกายมั๊ย ยาย ออกเจ้า บิดแข้งบิดขาวันละนิดๆ  บ้างก็บ่น ปวดขาไปไม่ได้
• " กิ๋นเค็มก่อ ยาย " บ่กิ๋นเจ้า " บ่หู้เหมือนกั๋นลูกซื้อมาจากกาด"
•  ใส่ผงชูรสก่อ  ยาย" บ่ใส่ ใส่แต่รสดี"
• จ้างมันเต๊อะวันเดียว บ่ ดาย 

นโยบายของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดน่าน โดย นายแพทย์พิศิษฐ์  ศรีประเสริฐ  นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดน่าน มอบสโกแกน ไว้ว่า

3 ต้อง 6 ไม่  ต้องกินอาหารที่สุกสะอาด ปลอดภัย  ต้องออกกำลังกาย อย่างน้อยวันละ 30 นาที ต้องมีอารมณ์ดี

ไม่กินอาหารหวาน ไม่กินอาหารมัน ไม่กินอาหารเค็ม  ไม่อ้วน  ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่สูบบุหรี่หรือสารเสพติด

การสร้างสุขภาพด้วยตัวเอง รวมพลังสร้างสุขภาพ ในหมู่บ้าน จากตัวเอง ครอบครัว ชุมชน ดำเนินชีวิตตามรอยพ่อ ด้วยเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้ชุมชนเข้มแข็ง ปลูกผักพื้นบ้าน กินอาหารพื้นเมือง   อย่างนี้แล้วความสุขและสุขภาพที่ดีจะไปไหนเอ่ย  เย้ๆๆๆๆ

 เมื่อนำปัญหามาพูดคุยในระดับอำเภอ เกิดการรวมพลรวมพลังสร้างรูปแบบการอบรมใหม่ โดยมีพี่อิชยา เป็นหัวหน้า นำน้องๆในสถานีอนามัยที่ได้รับงบประมาณ NCD จาก สสจ.น่าน เป็นสถานีอนามัยนำร่อง 6 แห่ง ให้ผู้รับผิดชอบงานรักษาพยาบาลใน สอ.นั้นเป็นเจ้าของ

1.พี่อิชฝึกน้องๆก่อนตั้งแต่เอามาเป็นวิทยากรคนไทยไร้พุง

2.พี่อิชสอนการพูด พูดอย่างไรไม่ให้คนเบื่อ สนุกสนาน

3.พี่อิชสอนการพูดวิชาการไม่ให้เบื่อ สอดแทรกอารมณ์ขันไปกับภาพต่างๆ

4.พี่อิชฝึกให้น้องๆร้อง รำ เต้น เล่นเกมส์ มีความกล้าในการแสดงออก ได้ดี

5.สอง สาม สนาม น้องๆ เก่งมากเลยค่ะ

6.พี่อิชสอนให้น้องๆคิดบวก  ส่งน้องไปอบรมแทนพี่อิช

สอ.ทรายทอง ปรับเปลี่ยนที่วัด

ก่อนอบรม เรามั่งสมาธิก่อนค่ะ ปรับอายุให้เท่ากัน แล้ว คิด บวก ค่ะ

สอ.ป่าแพะ  เพลงดอกไม้บาน และเตรียมความพร้อม

สอ.ท่าเลอ  ผมจะสู้ๆๆๆ  ผมเป็นคนเก่ง YES YES

วิทยากรมีความสุข ผู้อบรมก็เป็นสุขสนุกสนาน 

น้องๆกล้าพวกเราก็กล้าๆ ไม่เอาหวาน มัน เค็ม เย้ๆ

อยู่บ้านก็พากันออกกำลังกายได้ค่ะ

 ทั้งหมดนี่คือวิธีการ ดึงจิตดึงใจคนที่เป็นโรคเรื้อรังและกลุ่มเสี่ยงเข้ามาเพื่อรวมพลก่อน ครั้งแรกนัดเจออย่าให้เบื่อ  นัดครั้งที่ 2 ต้อง อยากมาอีก

1.เกิดความรักตัวเอง รักเพื่อน ไม่มีความอิจฉา หรือต่อว่าให้กัน กล้าแสดงออก กล้าที่จะบอกว่า อดีตพฤติกรรมเป็นอย่างไร  อนาคตจะปรับปรุงตัวเองอย่างไร

2. อสม เป็นผู้รุกลงพื้นที่ มีเจ้าหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง ดูแลในละแวบ้านของตนเอง เขียนรายงานความก้าวหน้า ในสมุดบันทึก รายงานเจ้าหน้าที่ สอ.และผู้ใหญ่บ้าน แกนนำ

3. ผู้ใหญ่บ้าน ส.อบต ร่วมกิจกรรม เพราะเป็น DMและ Hypertension เหมือนกัน เห็โครงการดี เอาเข้าแผน เพื่อพัฒนาศักยภาพ ฟื้นฟู สุขภาพนในชุมชน

4.ผู้ใหญ่บ้านรายงานความก้าวหน้าเช่น บ้านทรายทอง เมื่อก่อนไม่มีใครมาออกกำลังกาย พอ ลงไปจัดกิจกรรม ออกกำลังกายทุกวัน สนามข้างวัด

5.บ้านป่าแพะเป็นชุมชนม้ง ร่วมใจกันลดละเลิก หวาน มันเค็มโดยเฉพาะ มันหมูบนดอยที่ชอบกิน ไม่เคยสนุกในการอบรม  มีความสุข  ด้วย

6. บ้านท่าเลอ อายุ16 เป็นเบาหวาน อ้วน ชอบกินขนมตั้งแต่เด็ก

7.บ้านทุ่งผง  ประธานแม่บ้านสัญญาว่าทำอาหารในหมู่บ้าน จะไม่ใส่ผงชูรส รสดี ถ้าใส่ขอให้ตัวเองเป็นความดันเบาหวานเอง แต่รองประธานไม่อยู่ ทำไงดี

8 บ้านสันนาเคียนขับเคลื่อนด้วย เยาวชน กับอสม เป็นผู้ดูแลกลุ่ม

สอนเยาวชนและ อสม อย่างไร

1.วัดความดัน

2.คิดคำนวณค่า BMI เป็น

3.เจาะเลือดปลายนิ้ว

4,วัดปรอท

5..ให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น

6..ห้ความรู้เรื่อง DM -HT อาหารควบคุมแบบง่าย

7.ลงพื้นที่ปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมในบ้าน ตู้เย็น ของกิน ต่างๆ

 

[พ่อน้องซอมพอ]

• พี่อิชครับ เยี่ยมมากเลยครับ
• ตอนนี้ผมว่างาน NCD แต่ละพื้นที่ไปได้สัก ๙๐ แล้ว แต่ยังไม่ถึง ๑๐๐ ขาดการถอดบทเรียนออกมาเป็นความรู้ที่ชัดแจ้ง (Explicit Knowledge) ตรงนี้สำคัญครับ เพราะความรู้จากการปฏิบัติที่ได้ทำมาจะไม่สูญหาย แต่จะได้รับการพัฒนาต่อยอดและขยายออกไปอีก
• อยากให้พี่อิชลองชวนทีมเอางานแต่ละพื้นที่มาเล่าสู่กันฟัง แบบ Story telling แล้วช่วยกันสะกัดความรู้ออกมา
• แล้วให้แต่ละพื้นที่เขียนบทเรียนการทำงาน NCD ของตนเองออกมา เดี๋ยวจังหวัดจะมีเวที Sharing กันในปลายปีนี้ครับ
• ผมจะส่งบทความการเขียนบทเรียนไปให้ครับ
• ด้วยจิตคาราวะ
• 

[คุณน้อยหน่า]

ชื่นชมในผลงานของทีมเวียงสาค่ะ ไม่ว่าพี่อิชยาจับงานไหน ต้องสำเร็จทุกงาน เป็นการ empower โดยเริ่มที่แกนนำชุมชน  อย่าลืมงาน IC ในสถานีอนามัยนะคะ