• เมื่อจำความได้ปู่ของผมอายุประมาณ 70 ผมขาวทั้งศีรษะ คิ้วก็ขาว ปู่ไม่ได้ทำอะไรแล้ว นั่งๆ นอนๆ ตักบาตร ไปวัด ปลูกต้นไม้ เขียนหนังสือ และคุยกับ “ลูกศิษย์” ที่มาเยี่ยม ซึ่งก็เป็นคนที่ไม่มีอะไรทำเหมือนกัน จึงมาคุยธรรมะกัน
ปู่ถ่ายกับครอบครัวพ่อ ประมาณปี ๒๔๙๘ - ๙๙ เป็นการถ่ายรูปครั้งแรกในชีวิตของผม (คนขวาสุด) อายุ ๑๔ - ๑๕ ปี
• ปู่จะนั่งๆ นอนๆ
อยู่ที่ชานหน้าบ้าน
เป็นพื้นไม้กระดานยกสูงขึ้นจากพื้นดินประมาณศอกเศษๆ
ผู้ใหญ่นั่งห้อยเท้าได้สบาย
ความลึกของชานหน้าบ้านนี้ประมาณสองวา
ผู้ใหญ่นอนเล่นได้สบาย
หลังคามุงจาก
ชานหน้าบ้านนี้แล่นตลอดความกว้างของบ้าน ซึ่งคงจะประมาณ 5 วา
• ของใช้ที่ปู่มีพิเศษกว่าคนอื่นมี 3 อย่าง
คือฟันปลอม เข็มขัดไส้เลื่อน
และช้อนส้อม
ที่บ้านผมทั้งบ้านมีช้อนแบบที่เป็นช้อนคู่กับส้อมอยู่คู่เดียว
นอกนั้นเป็นช้อนสังกะสี
คนส่วนใหญ่กินข้าวด้วยมือ
บางครั้งปู่ก็กินข้าวด้วยมือ
• เข็มขัดไส้เลื่อนทำด้วยเหล็กเป็นวงกลมค่อนวง
ปลายข้างหนึ่งมีหัวไม้ขนาดและรูปร่างคล้ายลูกตาลอ่อนที่เป็นเนื้อใน
(ไม่ใช่ลูกตาลทั้งเปลือก)
เวลารัดก็สอดเข้าไปที่เอว ให้หัวไม้กดลงไปข้างหัวเหน่า
ตรงขาพับที่มีไส้เลื่อน กันไม่ให้ไส้เลื่อนลงมา
ผมไม่เคยขอปู่ดูว่าเวลาไส้มันเลื่อนลงมาเป็นอย่างไร
ตอนเรียนหมอรู้สึกเสียดายมาก
• ไส้เลื่อนเป็นโรคประจำตระกูล
พ่อผมก็เป็น น้องชายบางคนก็เป็น
แต่พ่อและน้องชายรักษาหายโดยการผ่าตัด
สมัยปู่การผ่าตัดยังไม่แพร่หลาย
และไม่แน่ใจในความปลอดภัย
โรงพยาบาลชุมพรตั้งก่อนปู่ตายไม่กี่ปี
• ปู่ตายอายุ 77
ถ้าเป็นสมัยนี้ปู่คงจะมีชีวิตยืนยาวมาอีกหลายปี
เพราะโรคที่ปู่เป็นและค่อยๆ ทำให้สุขภาพเสื่อมโทรมลงไปเรื่อยๆ
คือโรคต่อมลูกหมากโต
ซึ่งพ่อผมก็เป็น และผมก็เป็นอยู่ในเวลานี้
• สมัยนั้นเราไม่รู้แน่ว่าปู่เป็นอะไร
คิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาของคนแก่
ปู่ถ่ายปัสสาวะไม่ออกจนในที่สุดการอุดตันท่อปัสสาวะอั้นขึ้นไปถึงไต
ทำให้เป็นโรคไตวาย
ผมเข้าใจภายหลังว่าปู่ตายเพราะไตวาย
• ปู่ชอบปลูกต้นไม้ ได้หาต้นไม้แปลกๆ
ในสมัยนั้นมาปลูก และพูดว่า “ปลูกไว้ให้พวกมึงกิน
กูคงไม่อยู่จนได้กิน” ที่ผมจำได้เช่น
ชมพู่มะเหมี่ยว มะเฟืองหวาน
ทั้งสองต้นยังอยู่แม้เวลาจะล่วงมากว่า 50 ปีแล้ว
วิจารณ์ พานิช
๑๘ พค. ๔๙