ประสบการณ์ชีวิตหรือการอ่านที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของข้าพเจ้า


นรุตน์... ข่าวร้ายที่มาพร้อมๆกับข่าวดี

  

ปาฏิหาริย์มีขายที่ไหน?

               คำถามเล็กๆ ที่รอคอยความหวัง ของคนที่ได้รู้จัก "นรุตม์ มงคลศิริภัทรา" เด็กหนุ่มวัย 19 ปี ที่ป่วยเป็น "โรคมะเร็งกระดูก" ...

              "นรุตม์ มงคลศิริภัทรา" เด็กหนุ่มวัย 19 ปี มีนิสัยร่าเริง อารมณ์ดี ขี้เล่น ขยันเรียนและเป็นที่รักของทุกคน กลับต้องมาผจญกับความเจ็บปวด เนื่องจากทราบผลว่าตัวเองเป็นโรคมะเร็งกระดูก      ห่างเพียงแค่หนึ่งวัน หลังจากทราบผลว่าตัวเองสามารถทำตามความฝันสำเร็จ นั่นคือการเอ็นทรานซ์สอบเข้าคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่เมื่อสอบได้แล้วกลับไม่เคยได้สวมใส่        เครื่องแบบนิสิต และไม่เคยได้เข้าไปสัมผัสบรรยากาศของการเป็นน้องใหม่ เพราะนรุตม์ต้องเข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาลเสมอ เพื่อรักษาอาการ "โรคมะเร็งกระดูก"

             ผลจากการทำ MRI และตัดชิ้นเนื้อจากก้อนเนื้องอกที่สะโพก สรุปออกมาว่า นรุตม์ เป็น "มะเร็งกระดูก" วันนั้นพ่อของนรุตม์ปฏิเสธการแจ้งข่าวร้ายแก่เขา และพ่อก็ยังหวังและยืนยันหนักแน่นว่า

   "ตราบที่ยังมีลมหายใจ...ชีวิตต้องมีความหวัง"

 

  

 

 

           เมื่อข้าพเจ้าได้อ่านเรื่องราวของนรุตม์  จากที่เคย ใช้ชีวิตเล่นๆไปวันๆ ก็เปลี่ยนความคิดใหม่ได้ว่า "ต้องทำทุกวันให้มีค่า และอยากทำอะไรก็รีบทำ ถ้ามันไม่เดือดร้อนผู้อื่น" เพราะจะได้ไม่ต้องกลับมาเสียใจทีหลังว่าเราไม่ได้ทำ "วันนั้นน่าจะทำซะก็ดี"

           เรื่องราวของนุรตม์นี้ คงจะเป็นแรงบันดาลใจให้หลายๆคนไม่ใช่เพียงแค่คิด แต่ต้องลงมือทำตามที่คิด เพราะเราจะมีชีวิตถึงวันไหนก็ไม่อาจรู้ได้ และยังเป็นแรงบันดาลใจให้คนที่กำลังจะยอมแพ้ ท้อถอยแต่เมื่อเทียบกับเรื่องของนรุตม์แล้ว ก็อาจถือว่าอุปสรรคเล็กน้อยมาก เพราะนุรตม์ ต้องอดทนรักษาโรค ื่อรอคอยความหวัง ว่าซักวันหนึ่ง คงจะได้กลับไปสวมเครื่องแบบนิสิต ได้ใช้ชีวิต แบบคนอื่นๆ ต่แล้ว นรุตม์ก็ทนต่อโรคที่ร้ายแรงนี้ไม่ได้ เค้าได้จากพวกเราไป เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2551 ที่ผ่านมา 

 

และนี่คือจดหมายของพ่อของนรุตม์ที่ได้บรรยายความรักของพ่อที่มีต่อนรุตม์

...พ่อครับ รุตม์ปวด
          ...พ่อครับ รุตม์ทนไม่ไหวแล้ว
          ...พ่อครับ รุตม์กลัว

          เป็นเสียงร้องของนรุตม์ยามปวด ซึ่งเป็นเสียงที่ทรมานใจพ่อมาก
          อาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์นรุตม์ปวดมาก ทรมานมาก
          พ่อจะช่วยลูกได้อย่างไร จะทำยังไง พ่อช่วยอะไรลูกไม่ได้เลย

          มันเป็นความเจ็บปวดทรมานใจมาก
          ที่ไม่สามารถช่วย หรือทำอะไรได้เลย
          พ่อร้องไห้ทุกวัน แต่ไม่เคยให้ลูกได้เห็นน้ำตาพ่อ

          พ่อได้แต่ปลอบและให้กำลังใจแก่นรุตม์
          ทั้งๆ ที่รู้ว่าอะไร เป็นยังไงเกี่ยวกับตัวโรคที่นรุตม์เป็นอยู่
          แต่ละวันที่ผ่านไปหัวใจของพ่อที่เคยพองโต
          ด้วยความรักของพ่อที่มีต่อลูก มันเหลือเพียงนิดเดียว
          พ่อรอวันที่มันจะกลับมาเหมือนเดิม

 จากพ่อที่รักลูกสุดชีวิต...

 

 

 

อ้างอิง

 http://video.showded.com/watch?vdoId=46102

http://dek-d.com/board/view.php?id=1194303

 

 

 

 

คำสำคัญ (Tags): #learning process
หมายเลขบันทึก: 293162เขียนเมื่อ 1 กันยายน 2009 03:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 มิถุนายน 2012 15:20 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (28)

อ่า นะ ฉะนั้นไหนๆเราก้อได้เรียนละ

ตั้งใจเรียนๆ เด้อ หำ

อ่านแล้วก็คิดว่าคนดีๆ ที่มีโอกาสมากกว่าคนอื่นก็ต้องพยายามทำให้เต็มที่ไม่เสียดายกับโอกาสที่ได้มานะครับ ^^

ชณุตพร ตันติพยัคฆ์

เราต่างจากพ่อของนรุตม์ ตรงที่เราทำอะไรได้มากกว่า ก็ตั้งใจเรียน ไปช่วยผู้ป่วยนะ

ง่าา ..

น้ามตาซึม

อื้อออ

เคยได้ยินมาเหมือนกัน

ดีละเพื่อนนน

สู้ๆนะ

ปุถุชนมิอาจชนะฟ้า ลิขิตมาต้องก้มรับมิอาจฝืน

เพราะโลกนี้ไร้สิ่งที่ยั่งยืน เหนือแผ่นผืนฟ้าสูงจ้าวหมู่เรา

ทุกเรื่องราวล้วนกำหนดมาอยู่ก่อน คิดอุธรณ์ฝืนชะตาคือขลาดเขลา

เพราะชะตาคนอาจถูกคาดเดา แต่คนเราก็ไม่อาจจะเปลี่ยนแปลง

ชะตาเราเราเลือกเองนั้นจริงหรือ ปราชญ์หนังสือล้วนพูดล้วนแถลง

ความผิดหวังคือบทเรียนอันแสนแพง และสุดท้ายก็แจ้งใจว่าไม่จริง

ธัญญารัตน์ สิงห์แดง

เป็นประสบการณ์ที่ดีค่ะ

ให้แรงบันดาลใจและกำลังใจที่ดีกับคนอ่านได้

ขอบคุณที่นำมาให้อ่านค่ะ

วันปิยะ ศรีพัฑฒางกุระ

เราก็จะพยายามให้เต็มที่เหมือนกัน

รู้อย่างงี้แล้วก็หัดใช้ชีวิตให้คุ้มค่าบ้าง

อย่าไร้สาระไปวันๆนะเพื่อน

น่าสงสารอ่าาา

 

ชีวิตกำลังจาเจอก่าสิ่งดีๆ แต่กลับหายไปในพริบตา

ชีวิตคนเรามานสั้นเนาะ มีสิ่งไม่คาดฝันเกิดขึ้นเสมอออ..

เศร้า..

ในเมื่อเรามีโอกาส

ก็ต้องทำตามฝันให้สำเร็จ

ดีครับ พี่ก็เคยติดตามเรื่องนี้เหมือนกัน อ่านแล้วมีกำลังใจดีครับ ^_^

เศร้า

ชีวิตคนก็เป็นแบบนี้แหละ

เกียรตินรินทร์ เชื้อศิริพัฒน์

เรื่องราวแบบนี้

อ่านที่ไร ชวนให้หวนกลับมาคิดถึงชีวิตตัวเองตลอด

ว่าเราได้ทำวันนี้ ให้สมกับเวลาที่เหลืออยู่ หรือไม่

บางคนเวลาเพียงน้อยนิดกลับมีค่ามหาศาล ขอแค่ได้ลาจาก

คนที่รักเพียงเสี้ยววินาที

บางคนเวลามากเพียงใด ก็คงมิอาจจะ

เปลี่ยนใจเขา ให้คิดทำสิ่งดีๆ ได้เลย

ขอบคุณ สำหรับบทความดีๆ นะครับ

โอ๊ยยย เศร้า

เคยดูในเจาะใจ(รึเปล่านะ)ด้วย

เรานี่โชคดีจริงๆเลยเนอะเพื่อน

โห เอาเรื่องเศร้าจัง

แต่ก็ดี เป็นที่เตือนใจคนปกติ

ที่ไม่ใช้เวลาที่เหลืออยู่ ให้คุ้มค่า

เศร้าอ่ะ

ไม่มีใครฝืนชะตาลิขิตได้หรอกเนอะ

ชีวิตเราฟ้ากำหนด...แต่คนเขียนบทคือตัวเราเอง

ทำทุกวันให้มีความสุขก็คงพอ

อิอิ

อ่านแล้วได้กลับมามองตัวเอง

ไร้สาระไปวันๆ

ทั้งๆ ที่มีโอกาสมากมายกว่าใครหลายๆ

เฮ้อ

จากนี้

ต้องคิดบ้างอะไรบ้างแล้วล่ะ

ขอบคุณสำหรับข้อคิดดีๆ นะจ๊ะ

^^

แจ่มไปเลยเพื่อนนนนนน

เพื่อโรคร้ายได้สิ้นไป

เพื่อมะเร็งที่ก่อไว้ได้ลดลง

อืมม~ เวลาที่เรามีอยู่ต้องใช้ให้คุ้มค่าที่สุด ^^"

รุ่งโรจน์ สัจจะไพบูลย์กิจ

ยอดเยี่ยมครับเพื่อน

อ่านแล้วรู้สึกว่าตัวเองโชคดีจัง

มีโอกาสแล้วต้องไม่ท้อ

รู้สึกมีกำลังใจทำส่วนอื่นๆเผื่อคนอื่น

ให้ข้อคิดที่ดีมากเลย

วันเวลาย้อนคืนกลับไม่ได้

เเล้วเราก็ไม่รู้อนาคตว่าจะเปนยังไง

ทำได้เพียงใช้ชีวิตเเต่ละวันให้คุ้มค่าที่สุดก็พอ

โอกาสไม่ได้มีมาง่ายๆ

เมื่อเรามีโอกาสที่ดีแล้ว

เราควรจะรักษามันไว้ให้ดีที่สุดนะ ตั้งจายเรียนๆๆ^^

เคยได้ยินมาเหมือนกันเรื่องนี้ครับเน

น่าสงสารเค้าอ่ะ คนเราเลือกเกิดไม่ได้เนอะ

แต่เห็นแล้วมีกำลังใจในการดำเนินชีวิตต่อมาก ๆ

เรื่องมันเศร้าอะ

ข้อคิดจากเหตุการณ์นี้เยอะแยะเลยนะเน

หวังว่าเนจะนำมาปรับใช้ได้เด้อ

^^

เคยดูข่าวนี้เหมือนกัน

เศร้าเนอะ

งั้นเราก็ใช้ชีวิตให้คุ้มค่า!!!

คนเราเลือกเกิดไม่ได้

ไม่มีใครรู้ว่าพรุ่งนี้มันจะเกิดอะไรขึ้นหรอก

เราแค่ทำวันนี้ให้ดีที่สุด

ทำในสิ่งที่เรายังสามารถทำได้ให้ดีที่สุด

แล้วเราจะได้ไม่ต้องมานึกเสียใจภายหลัง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท