3:04
2:20
ทำให้เห็นว่า..
อาวุธเส้นแสงนั้นมิใช่นิยายวิทยาศาสตร์อีกต่อไป!!
มองอนาคตจากอดีต
-หากพิจารณาย้อนกลับไปในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง หลังจากอเมริกาประสบความสำเร็จในการวิจัยอาวุธนิวเคลียร์สดๆร้อนๆ อาวุธชนิดนี้ก็ถูกนำมาทดลองใช้จริงในฮิโรชิม่าและนางาซากิ
เหตุผลที่สหรัฐตัดสินใจใช้อาวุธนิวเคลียร์นี้ นอกจากจะทำให้ญี่ปุ่นยอมแพ้เพื่อยุติสงครามแล้ว ยังเป็นสงครามจิตวิทยาชิงความเป็นผู้นำโลก ในสงครามเย็นกับรัสเซียอีกด้วย
-การที่สหรัฐตัดสินใจทำสงครามกับอีรัก เกิดจากการหายไปของขีปอาวุธนิวเคลียร์จำนวนหนึ่ง ในช่วงการล่มสลายของประเทศรัสเซีย การที่สหรัฐเข้าใจว่าอาวุธนิวเคลียร์นี้อยู่กับประเทศอีรักจึงเป็นสาเหตุหลักในการทำสงคราม โดยมีผลประโยชน์ด้านน้ำมันเป็นสาเหตุรอง(หรือไม่!?)
และเรื่องนี้น่าจะเชื่อมโยงกับการที่...
สำนักข่าวเอพีระบุว่า ศาลไทยตัดสินไม่ส่งผู้ร้ายข้ามแดนที่เป็นพ่อค้าอาวุธ
เนื่องจากถูกรัสเซียขู่ว่า...
อาวุธรัสเซียจะเกลื่อนภาคใต้ของไทย!!
คดีนี้ มีความสำคัญมากต่อการควานหาอาวุธนิวเคลียร์ที่หายไป แม้แต่ประธานาธิปดีบุชเองก็ย้ำกับนายกสมัคร(นายกในสมัยนั้น)ว่าเรื่องนี้สำคัญมากเพียงใดกับสหรัฐ
ปัจจุบันมี 8 ประเทศที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ คือ สหรัฐฯ รัสเซีย จีน สหราชอณาจักร ฝรั่งเศส อินเดีย ปากีสถาน และอิสราเอล ในที่นี้ไม่รวมประเทศที่กำลังพัฒนาเทคโนโลยีนิวเคลียร์เช่น เกาหลีใต้และอิหร่าน
คำถามก็คือ...ในปัจจุบันที่มีกำแพงสกัดกั้นการยิงอาวุธนิวเคลียร์ทั่วทั้งในสหรัฐและยุโรปนี้
จะมีเหตุผลอะไรที่บังคับให้สหรัฐจำเป็นต้องใช้อาวุธที่มีอนุภาพทำลายล้างมากกว่านิวเคลียร์เพื่อประหัตประหารกันอีกด้วยหรือ? (และนั่นคือจุดเริ่มต้นของสงครามระหว่างยักษ์นอกศาสนาในพุทธทำนาย)
เหตุผลคงจะไม่ต่างกับการตัดสินใจใช้อาวุธนิวเคลียร์กับประเทศญี่ปุ่นและการทำสงครามในประเทศอีรักมากนัก
เพราะหากสมดุลนิวเคลียร์ถูกทำลายลงและมีการใช้อาวุธเชื้อโรค
หรือมีผู้ก่อการร้ายนำอาวุธนิวเคลียร์ที่หายไปมาใช้ ประเทศต่างๆก็จะระเวงซึ่งกันและกัน
อันบังคับให้ ผู้ที่ชิงลงมือก่อนย่อมได้เปรียบ
รวมถึงความเชื่อเรื่องวันพิพากษาในศาสนาที่มีพระเจ้าทั้งสองศาสนานั้น
พอจะเป็นเหตุผลที่ให้อ้างถึงความชอบธรรมในการทำลายล้างมวลมนุษยชาติกันเองได้!!!?
แต่เหตุผลประการหนึ่งที่น่าตกใจและมิอาจอ้างความชอบธรรมใดๆได้เลยก็คือ
เพื่อเป็นการควบคุมและลดประชากรโลกที่มีอัตราเพิ่มขึ้นมากเกินไป ในแผน new world order
ก่อน Tipping point เพื่อให้โลกปลอดภัยจาก climate change
ซึ่งในขณะนี้ เหลือเวลานับถอยหลังเพียง 88 เดือน!!

1:59

1. Wake Up, Freak Out - then Get a Grip
11 months ago
2:26