การให้กำลังใจลูกน้อง
เมื่อคุณเป็นลูกน้อง ความสำเร็จของคุณวัดที่งานของคุณเพียงคนเดียวเท่านั้น ความสำเร็จของคนเป็นหัวหน้าวัดกันที่การทำงานของลูกน้องทั้งหมด ทำอย่างไรคุณจึงจะได้เป็นหัวหน้าที่ประสบความสำเร็จ สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับคุณยิ่งกว่างานที่ได้รับมอบหมาย คือ “ลูกน้อง” ลูกน้องนับเป็นฟันเฟืองที่ช่วยส่งให้งานของคุณประสบความสำเร็จ นำคุณไปถึงฝั่งฝันได้อย่างที่คุณต้องการ แต่หลังจากเลิกงานแล้วลูกน้องของคุณก็เป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้อง ซึ่งคุณควรให้ความไว้วางใจและให้เกียรติเขาเช่นเดียวกัน
บางครั้งพวกเขาอาจเหนื่อยล้า ท้อแท้ ประสบปัญหาทั้งทางบ้านหรือปัญหาในการทำงาน รายละเอียดเหล่านี้หัวหน้าอย่างคุณไม่ควรพลาด เพราะหน้าที่อีกอย่างหนึ่งของคุณ คือ การคอยดูแลเอาใจใส่พวกเขาเช่นเดียวกับลูกหลานหรือญาติผู้ใหญ่ของคุณเช่นเดียวกัน เมื่อเขาหิวก็ควรกินข้าว เมื่อป่วยก็ควรกินยาหาหมอเช่นกัน
ทำอย่างไรให้พวกเขารู้สึกเสมอว่า คุณอยู่เคียงข้างพวกเขาอยู่ตลอดเวลา ทำให้ลูกน้องรู้สึกอบอุ่นใจเสมอ คอยเป็นกำลังใจในเวลาที่เขาพลาดพลั้ง สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องง่าย และต้องประสบความสำเร็จได้ไม่ยากเลย
ของรางวัลเล็กๆ น้อยๆ
ทุกๆ หน่วยงานก็มักจะมีการให้ของขวัญแก่ลูกน้องเนื่องในโอกาสต่างๆ กันอยู่แล้ว บางแห่งถือโอกาสให้ในงานเลี้ยงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ที่จะแจกของขวัญโดยให้ลูกน้องจับฉลาก บางแห่งมอบให้เนื่องฝนโอกาสตรุษจีน ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นทองคำเส้นเล็กๆ สักเส้น นั่นถือเป็น เรื่องปกติ แต่แรงจูงใจในการทำงานอยู่ที่ของขวัญชิ้นพิเศษ
คุณอาจจะแจ้งให้ลูกน้องทุกคนทราบว่า คุณจะพิจารณาเลือกลูกน้องที่ทำงานได้ดีที่สุด เพื่อเป็นรางวัลล่อใจ การแข่งขันก็จะดุเดือดขึ้นอีกหลายเท่า นับแต่นั้น ลูกน้องตัวดีของคุณก็จะตั้งหน้าตั้งตามาทำงานแต่เช้า และกลับจนดึกดื่นกันแทบทุกคน
บอร์ดชมเชย
เวลาที่คุณเดินเข้าไปในห้างสรรพสินค้าหรือตามร้านอาหาร คุณก็จะสังเกตเห็นว่าทางร้านจะมีการติดบอร์ดเพื่อยกย่องพนักงานดีเด่นประจำเดือน หรือพนักงานที่ทำความดีให้กับทางร้านหรือลูกค้า คุณสามารถนำแนวความคิดนี้มาประยุกต์ใช้กับหน่วยงานของคุณได้เช่นเดียวกัน
คุณลองมองไปรอบๆ ตัวแล้วเลือกลูกน้องที่คุณคิดว่าเขาทุ่มเททำงานให้กับคุณอย่างเต็มที่ที่สุด หารูปของเขามาติดบอร์ดพร้อมกับข้อความยกย่อง เช่น “ คุณมาดี พนักงานดีเด่นที่ทุ่มเทให้กับงานมากที่สุดในเดือนนี้” แล้วติดบอร์ดเพื่อให้ลูกน้องทั้งแผนกได้เห็นกันทั่วกัน งานนี้นอกจากคุณมาดีจะยิ่งขยันหนักกว่าเก่าเป็นสองเท่าแล้ว เพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ก็จะยิ่งตั้งหน้าตั้งทำงานเพื่อให้รูปของตัวเองได้ติดบอร์ดตามอย่างคุณมาดีบ้าง คราวต่อไปอาจจะเป็นการโหวตจากเพื่อนร่วมงานด้วยกันเอง หรือเปิดโอกาสให้ลูกค้าเป็นผู้โหวตก็ได้ผลดีเช่นกัน
ให้รางวัลลูกน้องที่ทุ่มเท
ลองคิดดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าจู่ๆ ท่ามกลางการประชุมสรุปงาน หรือท่ามกลางงานเลี้ยงของบริษัท คุณก็ลุกขึ้นมากล่าวว่า “นี่เป็นรางวัลแห่งความทุ่มเททำงานถึงวันละกว่า 12 ชั่วโมง ของคุณสมศักดิ์ตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา ดิฉันขอมอบรางวัลพิเศษให้เขาด้วยตั๋วเครื่องบินไปกลับ กรุงเทพ - ภูเก็ต พร้อมวันพักร้อนอีก 1 สัปดาห์”
รับรองว่าคำพูดประโยคนี้ของคุณจะสร้างการะแสให้ลูกน้องทั้งหมดหันหน้าเข้าทุ่มเทให้กับงานของเขามีผลตอบแทนที่ดีรออยู่เบื้องหน้า การยกย่องให้เกียรติต่อหน้าสาธารณะจะส่งผลประโยชน์เป็นสองเท่า ทำให้เขาทำงานหนักยิ่งขึ้นไปอีก รวมทั้งยังทำให้เพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ รู้สึกอิจฉาและหันมาทำงานอย่างไม่ลืมหูลืมตาบ้าง
ให้โอกาสอีกครั้ง
ไม่มีใครที่ไม่เคยทำผิดพลาดมาก่อน หรือไม่มีใครเก่งไปเสียหมดทุกด้าน ดังนั้น แน่นอนว่าลูกน้องของคุณก็อาจจะทำผิดพลาดได้ สมศรีอาจจะทำบัญชีไม่เรียบร้อย เด่นชายอาจจะอบขนมเสียไหม้เพราะมัวแต่คุยโทรศัพท์ ข้อผิดพลาดเหล่านี้ คนเป็นหัวหน้ามักจะพบเห็นอยู่เป็นประจำ แทนที่คุณจะเอ็ดตะโรจนลูกน้องทั้งหลายกลัวจนลนลาน คุณก็มีทางออกที่นุ่มนวลสำหรับทุกฝ่าย
เพราะคุณเป็นหัวหน้า สิ่งแรกที่คุณควรทำ คือตั้งสติ แม้ว่าเรื่องนั้นจะร้ายแรงเพียงใดก็ตาม ความผิดพลาดนั้นอาจจะทำให้หน่วยงานเสียชื่อเสียงหรือเสียเงินมากโข แต่ลูกน้องของคุณก็ควรได้รับโอกาสอีกสักครั้งในการแก้ไขสิ่งต่างๆ ให้ดีขึ้นเช่นกัน แทนที่คุณจะแก้ปัญหาด้วยการตัดเงินเตือน หรือการไล่ออกซึ่งอาจทำให้ครอบครัวของเขาต้องเดือดร้อน คุณก็ยอมให้โอกาสในการแก่ตัวแก่เขา ต่อจากนี้เขาก็คงทำงานด้วยความรอบคอบขึ้นอีกมากโข จนคุณไม่ต้องหนักใจอีกต่อไป
โทรศัพท์แสดงความเป็นห่วง
หลังจากก้มหน้าก้มตาทำงานจนหลังขดหลังแข็งให้คุณในที่สุดลูกน้องคนขยันก็ถึงคราวนอตหลวม ถึงเวลาที่จะต้องไปพักผ่อนที่บ้านหรือเข้าโรงพยาบาล เพราะร่างกายอ่อนล้าและต้องการการบำรุงร่างกายสักหน่อย แม้ว่างานของคุณกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเต็มที่ แต่เรื่องของการเจ็บป่วยก็เป็นเรื่องที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
หากลูกน้องของคุณมีอันต้องลาป่วย หากคุณยังพอมีเวลา หลังเลิกงานก็ควรไปเยี่ยมสักครั้ง หากคุณยังคงยุ่งอยู่กับงานจนหัวปั่น ก็ควรโทรศัพท์หรือส่งดอกไม้ไปอวยพรให้เขาหายเร็วๆ แถมด้วยคำอวยพรสั้นๆ ว่า “หายเร็วๆ นะ เราทุกคนเป็นห่วงคุณมาก” หรือแม้แต่ในกรณีที่ลูกน้องของคุณโทรมาลาป่วย คุณก็ควรจะโทรศัพท์ไปแสดงความเป็นห่วงว่าเขาเป็นอย่างไรบ้าง แต่ไม่ควรโทรไปจับผิดว่าเขาใช้ข้ออ้างว่า ”ป่วย” ถือโอกาสหยุดไปเที่ยว เพราะถึงแม้ว่าลูกน้องของคุณจะทำอย่างนั้นจริงก็เป็นสิทธิส่วนตัวของลูกน้องเช่นเดียวกัน
เมื่อเกิดเรื่องเศร้ากับลูกน้อง
คนเรามีการ เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมดา แน่นอนว่าวันใดวันหนึ่งลูกน้องคุณคงต้องขอลาหยุดด้วยสาเหตุว่า “ญาติป่วย” หรือคนในครอบครัวของเขาเกิดเสียชีวิตลงหัวหน้าที่ดีอย่างคุณควรทำอย่างไรเมื่อเกิดเรื่องเศร้าขึ้นกับครอบครัวของลูกน้อง
แม้ว่างานที่บริษัทหือที่ร้านของคุณจะยุ่งแสนยุ่ง แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์อันน่าเศร้านี้ขึ้น อันดับแรกคุณควรปล่อยให้เขาลาพักได้จนกว่าจะจัดการกับเรื่องต่างๆ ได้เรียบร้อย เพราะหากคุณฝืนให้เขามาทำงานทั้งๆ ที่ยังกังวล เขาก็คงไม่สามารถทำงานให้คุณได้อย่างเต็มที่และอาจจะเกิดความผิดพลาดได้ง่าย
นอกจากนี้ คนเป็นหัวหน้ายังควรเป็นห่วงเป็นใยในเรื่องเศร้าที่เกิดกับตัวเขา คุณอาจจะส่งข้อความไปให้เขาว่า “ เพื่อนๆ ในที่ทำงานต่างคิดถึงและเป็นห่วงคุณ ” เพื่อให้เขารู้สึกว่าคุณและเพื่อนร่วมงานทุกคนต่างก็เป็นห่วงและคอยให้กำลังใจ และพร้อมที่จะยืนเคียงข้างเขาอยู่เสมอ นั้นคือ ความอบอุ่นที่จะเป็นแรงกระตุ้นให้เขาฝ่าฟันกับอุปสรรคและความสูญเสียครั้งนี้ไปได้อย่างสวยงามที่สุด
วิจารณ์อย่างตรงไปตรงมา
ลูกน้องทุกคนของคุณต่างก็มีข้อดีข้อด้อยที่แตกต่างกันไป คุณก็คงอยากให้พวกเขายังคงรักษาส่วนที่ดีเอาไว้ และค่อย ๆ ปรับปรุงส่วนที่ด้อยของเขาให้ดียิ่งขึ้นไปอีก แต่หาดคุณไม่บอกเขา ใครล่ะจะรู้ว่าคุณคิดว่าคุณคิดอย่างไร หรืเขาควรปรับปรุงแก้ไขตรงส่วนใดบ้าง
“คุณเป็นคนรอบคอบ ผมรู้สึกไว้ใจให้คุณทำงานเอกสาร แต่เรื่องการพูดคุยหรือการไปพบลูกค้าคุณควรแต่งตัวให้เรียบร้อยกว่านี้นะ” เชื่อไหมว่า หากลูกน้องของคุณได้ยินคุณพูดประโยคนี้ แทนที่เขาจะรู้สึกน้อยใจ แต่หัวใจเขากลับจะพองคับอกเพราะเขารู้ได้เลยทันทีว่าคุณให้ความสนใจในตัวเขา คุณรู้ว่าเขายังมีข้อบกพร่องที่ไหนบ้าง และส่วนไหนที่เขาทำได้ดีแล้วและการที่คุณได้ชี้ให้เขาเห็นว่าควรปรับปรุงส่วนใด ก็จะช่วยให้เขาพัฒนาตัวเองได้ถูกที่และง่ายดายยิ่งขึ้น
เมื่อลูกน้องทำงานดีขึ้น
ติเพื่อก่อเป็นการช่วยลูกน้องของคุณทำงานได้ดีขึ้นก็จริง แต่ในขณะเดียวกันของคุณก็ไม่ควรมองข้าม “การชมอย่างสร้างสรรค์” เมื่อลูกน้องของคุณปรับปรุงตัวให้ทำงานดีขึ้น ละเอียดรอบคอบมากขึ้น สิ่งที่พวกเขาควรได้รับเป็นอันดับแรกนั่นคือ “คำชมเชย” จากคุณนั่นเอง
แม้ว่าลูกน้องของคุณจะทำงานได้ดีขึ้นเพียงเล็กน้อยก็ตาม หากคุณสังเกตเห็นความพยายามก็ลองบอกเขาว่า “ทำดีขึ้นแล้วนะ พยายามเข้าล่ะ” ตบหลังตบไหล่เขาสักหน่อย คนดีก็ย่อมต้องการให้มีคนมองเห็นหรือมีคนเห็นค่าความพยายามของเขา หากคุณไม่สังเกตเห็น ลูกน้องก็รู้สึกว่าคุณเฉยชาหรือไม่สนใจเขาเอาเสียเลย ก็อาจจะทำลายกำลังใจของเขาลงได้ คำชมของหัวหน้าจึงเป็นเหมือนน้ำหล่อเลี้ยงที่ช่วยสร้างกำลังใจให้ลูกน้องได้เป็นอย่างดี แน่นอนว่าเขาจะยิ่งทุ่มเททำงานให้ดียิ่งขึ้นไปอีก
ปาร์ตี้หลังงานเสร็จ
คราวนี้หน่วยงานของเราประสบความสำเร็จ หลังจากที่ทุ่มเททำงานหนักมาตลอด หรือลูกน้องทั้งหมดต่างร่วมมือร่วมแรงฝ่าฟันงานสุดหินจนผ่านพ้นไปด้วยดี และแน่นอนประสบความสำเร็จจนเกินคาด
ถึงเวลาแล้วที่คุณควรจ่ายโบนัสให้ลูกน้อง ส่งท้ายงานชิ้นเก่าและเติมไฟในการทำงานชิ้นใหม่ให้ลูกน้องด้วยปาร์ตี้ ภายในแผนกที่แสนอบอุ่น ถ้าบริษัทของคุณไม่มีนโยบาย หัวหน้าอย่างคุณก็ควรควักกระเป๋าลงทุนสักหนึ่งพันบาท ซื้อข้าวเหนียวส้มตำ ลาบน้ำตก มานั่งสังสรรค์หลังเลิกงานในมุมหนึ่งของที่ทำงานก็ยังดี ปาร์ตี้ภายในจะช่วยผ่อนคลายความเครียด จากการทำงานและเป็นรางวัลในการทุ่มเทที่คุณสามารถมอบให้กับลูกน้องของคุณโดยไม่ต้องจ่ายเงินก้อนโต แต่ก็สามารถสร้างความรู้สึกอันแสนอบอุ่นมากโขเช่นกัน
รางวัลของลูกน้องที่ทุ่มเท
ถ้าลูกน้องคนขยันของคุณทุ่มเททำงานหามรุ่งหามค่ำ มาทำงานแต่เช้า กว่าจะกลับก็ค่ำมืด แถมยังหอบงานกลับไปทำในวันเสาร์ - อาทิตย์อีกด้วย หากคุณปล่อยให้เขาทำงานอย่างโดดเดี่ยวอยู่อย่างนั้นต่อไป ไม่นานเขาคงหมดไฟในการทำงานเพราะคิดว่าทำเท่าไหร่ก็ไม่มีใครเห็นความสำคัญของเขาหรอก
มองหารางวัลเล็กๆ น้อยๆ ให้กับความตั้งใจของเขาบ้าง หากคุณมามีนโยบายเกี่ยวกับเงินล่วงหน้าก็ลองให้รางวัลลูกน้องรายนี้ด้วยการจัดให้มีวันหยุดพิเศษสำหรับเขา หรือค่าตอบแทนพิเศษอื่นๆ ที่อยู่ภายใต้ระเบียบข้อบังคับของแต่ละหน่วยงาน ลูกน้องคนขยันก็จะรักและทุ่มเททำงานให้คุณไปอีกนานแสนนาน
การ์ดแสดงความยินดี
หลังจากนั่งทำงานเป็นลูกน้องของคุณอยู่นานหลายปี ก็ถึงคราวที่ลูกน้องที่แสนขยันขันแข็งของคุณจะได้รับการเลื่อนตำแหน่ง อย่างเช่น การก้าวขึ้นมาเป็นรองหัวหน้าซึ่งมีอำนาจน้อยกว่าคุณเพียงนิดเดียว หรือเลื่อนชั้นขึ้นมาเป็นผู้ช่วยของคุณ
คุณ คือ คนแรกในหน่วยงานที่ทราบข่าวการเลื่อนตำแหน่ง เพราะคุณคือผู้ที่เซ็นอนุมัติ หรือเป็นผู้ทำเรื่องขอเลื่อนตำแหน่งให้เขาด้วยตัวเอง ดังนั้นควรเป็นคนแรกที่แจ้งข่าวดีนี้ หรือเป็นคนแรกที่แสดงความยินดีกับลูกน้อง ลองแอบเซอร์ไพรส์ ก่อนวันที่จะแจ้งข่าวการเลื่อนตำแหน่งให้เจ้าตัวทราบอย่างเป็นทางการ ลองวางการ์ดแสดงความยินดี ไว้บนโต๊ะทำงานของเขา พร้อมกับข้อความแสดงความยินดีสั้นๆ แค่นี้ก็ซึ้งใจสุดๆ แล้ว
************************************************************************************
แหล่งอ้างอิง
ฐิติกร แสนเจริญ. ก้าวสู่ความสำเร็จ เคล็ดลับหัวหน้างาน. กรุงเทพฯ : ไพลิน, 2549. 144 หน้า.
ดีมากครับ ขอนำไปใช้ครับ
ผู้บริหารทุกคนและผู้ที่จะก้าวไปสู่ตำแหน่งนี้หรือผู้ที่ต้องการพัฒนาตนเองควรอ่านทุกคนค่ะ
อย่างนี้ ลูกน้องรักตายเลย
ควรนำไปใช้ผู้บริหารอ่านดูบ้างคงจะดี
การให้กำลังใจลูกน้องเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานได้เป็นอย่าง เป็นการเพิ่มMargin ให้กับองค์กรครับ