ครอบครัวน้องศรีออนซาบซึ้งในน้ำใจสมาคมนักธุรกิจไทย-จีน

ในความโชคร้ายที่น้องศรีออน ปู่สม กำลังเผชิญและต่อสู้กับโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวซึ่งน้องเองก็ยังยิ้มหัวเราะได้ตามประสาเด็กทั้งๆที่ตอนนี้ตาทั้งสองข้างมองไม่เห็น ขาทั้งสองข้างเดินไม่ได้ มือทั้งสองข้างไม่มีแรงหยิบจับอะไร ปากที่เคยพูดก็พูดไม่ชัด เกิดอะไรขึ้นกับน้องศรีออน??? ทำไมต้องมาเกิดอะไรซ้ำซ้อนกับเธอด้วย.....พ่อกับแม่ไม่เคยได้หลับสนิทเลยซักวันเดียวเพราะสงสารและต้องเคยตื่นดูแลน้องศรีออนตลอดเวลาด้วยที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ **** ในความโชคร้ายของศรีออนและครอบครัว...และแล้วก็มีแสงสว่างเข้ามานั่นคือน้ำใจจากคนไทยทั่วประเทศที่ต่างให้กำลังใจและช่วยบริจาคเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางและการรักษาตลอดจนค่าใช้จ่ายที่จำเป็นของน้องศรีออน....ครูยังได้รับข่าวดีจากทางสมาคมนักธุรกิจไทย-จีน ติดต่อมาซึ่งทางสมาคมยินดีที่จะบริจาคเงินช่วยเหลือ(จำนวนหนึ่ง) ซึ่งพ่อแม่ของน้องศรีออนซาบซึ้งจนแทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่เพราะเงินจำนวนนี้ทั้ง2คนหาทั้งชีวิตก็ไม่ได้ .....น้ำใจงามๆ ที่ทางสมาคมฯ มอบให้โดยเหตุที่ว่าอยากช่วยเหลือและสงสารเมตตาเด็กที่ป่วยและยากไร้คนนี้....วันพรุ่งนี้ ศุกร์ที่ 28 สิงหาคม 2552 ....คุณแม่หน่อย ครูเอี้ยง เจ้าหน้าที่คลินิกกฎหมายชาวบ้านฯ พี่บุญ จะเดินทางไปกรุงเทพฯ เพื่อรับมอบเงินจากทางสมาคมนักธุรกิจไทย-จีน...(เงินส่วนนี้จะมีคณะกรรมการดูแลอย่างโปร่งใสเพื่อประโยชน์ของน้องศรีออน) เสียดายที่น้องศรีออนไม่สามารถเดินทางไปได้ ขอขอบคณะทำงานทุกท่าน(คลินิกกฎหมายชาวบ้านฯ)ที่มีส่วนช่วยเหลือทุกเรื่อง.......ครอบครัวน้องศรีออน และครูเอี้ยง ขอกราบขอบพระคุณทุกท่านที่ได้ช่วยเหลือน้องศรีออนอย่างดีตลอดมา

คุณพ่อ กับ แม่หน่อย พาน้องศรีออนไปโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ (นั่งรถบัส) ซึ่งต้องใช้เวลาเดินทาง 4 ชั่วโมง น้องออนตัวโตขึ้นมากแม่หน่อยคนเดียวคงอุ้มไม่ไหวเหมือนเช่นเคยแล้ว....ดังนั้นคุณพ่อก็ได้ลางานและไปส่งน้องออนกับแม่หน่อยทุกครั้งที่ไปเชียงใหม่ ถ้าน้องออนได้นอน พ่อก็จะกลับบ้านก่อนแล้วได้ออกวันไหนพ่อก็จะไปรับ......สู้ๆค่ะ