วิทยาลัยประชากรศาสตร์ จุฬาฯ ตีพิมพ์บทความคัดลอกจาก "มติชน" 22 มกราคม 2552 เรื่อง "เบี้ยบำนาญผู้สูงอายุ "ผลดีต่อเศรษฐกิจ-สังคม"
ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อส่งเสริมการ "มองหลายๆ มุม" ถ้าท่านได้รับประโยชน์จากบทความนี้ เรียนเสนอให้แวะไปเยี่ยมชม "มติชน" ครับ > [ มติชน ]
...
ผู้สูงอายุของประเทศไทยเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว ภายในปี ค.ศ.2050 สัดส่วนของประชากรที่มีอายุมากกว่า 60 ปี จะเพิ่มขึ้น 10.7% ในปี ค.ศ.2007 เป็น 27% ซึ่งมากกว่า 1 ใน 4 ของประชากรทั้งหมด [ cps.chula ] และเป็นอุปสรรคต่อการใช้ศักยภาพของตนเองให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม ลิดรอนสิทธิที่จะมีศักดิ์ศรี และความมั่นคงในบั้นปลายชีวิต หากไม่หยิบยกปัญหานี้มาแก้ไข ประชากรจำนวนมากของประเทศก็จะเผชิญกับความยากจนเมื่อแก่ตัวลง ... หลายประเทศทั่วโลกเริ่มใช้เบี้ยบำนาญทางสังคม (Social pension) มาเป็นหลักประกันมาตรฐานการครองชีพขั้นต่ำสำหรับผู้สูงอายุ เบี้ยบำนาญเหล่านั้นเป็นแบบผู้รับไม่ต้องจ่ายสมทบ และใช้เงินภาษีของประชาชน ขณะเดียวกันจะช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัว ทั้งนี้ ปัจจุบันเบี้ยยังชีพสำหรับผู้สูงอายุในประเทศไทย ให้ผู้สูงอายุที่ยากจนที่สุดเดือนละ 500 บาท ... เหตุใดเบี้ยบำนาญทางสังคมจึงเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ ก็เพราะเงินนี้จะช่วยเสริมศักยภาพของเศรษฐกิจของผู้สูงอายุและชุมชน สำหรับผู้สูงอายุพวกเขามีรายได้ประจำและคาดหมายได้ ทำให้สามารถลงทุนและวางแผนอนาคตได้ ขณะเดียวกัน เบี้ยบำนาญยังเพิ่มกำลังซื้อในชุมชน ช่วยกระตุ้นความต้องการสินค้าในระบบเศรษฐกิจท้องถิ่น อันส่งผลให้เกิดความเติบโตทางเศรษฐกิจทั้งในท้องถิ่นและทั่วไป ... ประเทศไทยหากระยะเริ่มแรกประมาณการว่าให้เบี้ยยังชีพ 1,500 บาทต่อเดือน แก่ผู้สูงอายุที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป เมื่อคิดค่าใช้จ่ายโดยรวมประมาณ 1.2% ของจีดีพี แม้ว่าเศรษฐกิจจะเติบโตไม่มากนักตัวเลขนี้ก็จะไม่เพิ่ม หากออกแบบโครงการอย่างเหมาะสมและให้ข้อผูกพันทางการเมืองที่จำเป็นการให้เบี้ยบำนาญแบบถ้วนหน้า อาจจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจในบริบทที่สังคมมั่นคง [ cps.chula ]
ไม่มีความเห็น