ดังเช่นคุณแม่ท่านหนึ่งมีอาชีพรับพยากรณ์ชีวิต เล่าให้ฟังว่า สอนให้ลูกกราบพระพุทธรูป เพราะกราบแล้วได้เงิน แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ลูกยังไม่มีเงินใช้อยู่เลย พอกราบพระเท่านั้น ต่อมาก็มีคนเอาเงินมาให้ถึงบ้าน ทั้งแม่ทั้งลูกกลับมองความปกติของอาชีพว่าเป็นเพราะพุทธคุณบันดาล
การสร้างพระพุทธรูปเพื่อเป็นการระลึกถึงพระพุทธองค์เกิดขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ ๔ หรือก็คือหลังจากพุทธปรินิพพานประมาณ ๕๐๐ ปี ในรัชสมัยพระเจ้าเมนันเดอร์ รัชทายาทของอาณาจักรบากเตรีย ( ครองราชย์ปีพ.ศ. ๓๘๔ ๔๐๙ แต่บางตำราว่าปี ๕๐๐ ) พระองค์เกี่ยวข้องกับพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชคือ เมื่อพระเจ้าอเล็กซานเดอร์บุกมาพิชิตตะวันออก ทรงตีได้เมืองใด ก็แต่งตั้งขุนพล หรือพระญาติของพระองค์ปกครองเมืองนั้น พระเจ้าเมนันเดอร์ หรือมินันเดอร์ทรงเป็นทายาทของผู้ที่พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ได้แต่งตั้งไว้ในตอนนั้น
เมื่อพระเจ้าเมนันเดอร์ ขึ้นครองราชย์ ทรงกรีฑาทัพบุกอาฟกานิสถาน อินเดีย เข้าตีแคว้นปัญจาบ กาศมีระ คันธาระ ไปตลอดลุ่มแม่น้ำคงคาตอนเหนือและตะวันตกเฉียงเหนือ แล้วตั้งเมืองสาคละนครเป็นเมืองหลวง
ความที่ทรงปราดเปรื่องทั้งพิชัยสงครามและปรัชญา เมื่อทรงมีอำนาจเหนือภูมิภาคแถบนี้แล้ว โปรดให้เชิญบรรดาคณาจารย์ นักบวชในลัทธิ หรือศาสนาต่างๆเข้าเฝ้าเพื่อโต้ตอบปัญหากันมิได้ขาด วันหนึ่งได้เชิญพระนาคเสนซึ่งเป็นภิกษุในพุทธศาสนาผู้ทรงปัญญาแตกฉานในพระไตรปิฏกและอรรถกถาไปโต้ตอบปัญหาศาสนาและปรัชญากัน คำปุจฉาวิสัชนาของทั้งสองได้ถูกจารึกเป็นลายลักษณ์อักษร จนเป็นที่รู้จักกันดีในนาม มิลินทปัญหา ( ชาวอินเดียเรียกพระนามพระเจ้ามินันเดอร์เพี้ยนไปเป็น มิลินทะ ส่วนชาวไทยเรียกตามอินเดียอีกที )
หลังการโต้ปัญหา พระเจ้ามินันเดอร์ทรงซาบซึ้งในศาสนาพุทธ จนเปลี่ยนมานับถือพุทธศาสนาแทนการนับถือศาสนาแบบพหุเทวนิยม นั่นคือมีเทพเจ้าหลายองค์ เช่น เทพเจ้าแห่งขุนเขา เทพเจ้าแห่งดวงจันทร์ เทพเจ้าแห่งสุริยะ เป็นต้น เมื่อเคารพเทพองค์ใดก็สร้างรูปเคารพของเทพองค์นั้นไว้กราบไหว้ บวงสรวง พระเจ้ามินันเดอร์ ได้โปรดให้ช่าง หรือศิลปินชาวคันธาระ สร้างพระพุทธรูปขึ้นโดยอาศัยรูปปั้นของเทพเจ้าเปาโลเป็นเค้าต้นแบบ ดังนั้นพระพุทธรูปในยุคแรกๆ จึงมีพระพักตร์แบบฝรั่ง เรียกว่าพระพุทธรูปแบบคันธาระ และนั่นจึงเป็นการริเริ่มพุทธประติมากรรมสืบมาจนปัจจุบัน
ศาสตราจารย์แสง จันทร์งาม ได้ให้ความเห็นไว้ในหนังสือประทีปธรรมถึงการมีพระพุทธรูป ผลดี และผลเสียของการมีพระพุทธรูปไว้ว่า
การสร้างรูปเคารพของพระศาสดาตนนั้น มีประโยชน์หลายประการ เช่น
๑. ทำให้พุทธศาสนิกชนรู้สึกว่าตนได้อยู่ใกล้ชิดพระศาสดา เกิดความอบอุ่นใจ ไม่ว้าเหว่เกินไป แม้พระพุทธองค์จะปรินิพพานไปนานแล้ว
๒. พระพุทธปฏิมาจะทำหน้าที่เป็นอนุสาวรีย์เตือนใจให้ระลึกถึงพระบรมครูและคุณความดีต่างๆของพระองค์ ทำให้เกิดกำลังใจในการทำความดี ทำให้เกิดความละอายใจในการทำชั่ว
๓. ตามปกติ ชาวพุทธจะทุ่มเทศรัทธา แรงงาน ทุนทรัพย์ เวลา และความสามารถทางศิลปกรรมอันสูงส่งให้แก่การสร้างพระพุทธปฏิมา ทำให้พระพุทธรูปกลายเป็นศิลปวัตถุอันล้ำค่า มีความสวยงาม น่าเคารพเลื่อมใส สามารถชักนำจิตใจของผู้ได้พบเห็นให้เกิดศรัทธาปสาทะในพระพุทธศาสนาได้
๔. พระพุทธปฏิมาย่อมเป็นโบราณวัตถุอันคงทนถาวร เป็นพยานส่องให้เห็นสภาพการณ์ต่างๆในอดีต นักโบราณคดีจึงได้อาศัยพระพุทธปฏิมาเป็นเครื่องศึกษาประวัติศาสตร์ของชาติได้เป็นอย่างดี
ข้อเสียในการมีพระพุทธปฏิมา
อย่างไรก็ตาม การมีพระพุทธปฏิมาก็มีข้อเสียอยู่บ้าง เพราะคนผู้มีศรัทธามาก มีปัญญาน้อย เมื่อเห็นพระพุทธปฏิมาเข้า แทนที่จะถือว่าเป็นเพียงอนุสาวรีย์ เป็นสัญลักษณ์แทนพระพุทธองค์ กลับถือว่าเป็นพระพุทธองค์เสียเอง เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แล้วก็กราบไหว้บูชา บวงสรวงพระพุทธปฏิมานั้นโดยตรง ถ้านับถืออย่างนี้ พระพุทธปฏิมาแทนที่จะเป็นอนุสาวรีย์เตือนใจให้ระลึกถึงพระพุทธเจ้า กลับเป็นเครื่องขัดขวางไม่ให้เห็นพระพุทธเจ้า เป็นกำแพงมิให้เข้าถึงพระพุทธรัตนะอันแท้จริงที่อยู่เบื้องหลัง
การกราบไหว้พระพุทธรูป จึงมีทั้งข้อดีและข้อเสียดังที่ได้เล่ามา
ลองถามใจเราเองดูนะคะ
ว่าเราควรจะเลือกเคารพพระพุทธรูปกันในรูปแบบไหน ?
........................................................................
อ้างอิง
ศาสตราจารย์แสง จันทร์งาม ประทีปธรรม สร้างสรรค์บุ๊คส์ ๒๑๗ ซอยสุขุมวิท ๒0 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพ
นวองคุลี เหตุเกิดหลังพุทธปรินิพพาน วัดสุวรรณประสิทธิ์ คลองกุ่ม บึงกุ่ม กรุงเทพ
เพราะสังคมปัจจุบันชอบของปลอมไงขอรับ..
สวัสดีค่ะ คุณณัฐรดา
ท่านพุทธทาสว่าเมืองไทยไสยศาสตร์เยอะครับ
การกราบพระอย่างที่คุณณัฐรดาพูดถึงของสองแม่ลูกนั้นก็เป็นไสยศาสตร์
คนไทยเอาไสยศาสตร์มาพัวพันกับพุทธศาสนาอย่างมาก จนห่างพุทธศาสตร์ทั้งที่กราบพระอยู่
มาร่วมกันแก้ไขแนวคิดที่ไม่ถูกต้องตามสติปัญญาของเรากันนะครับ
สวัสดีครับ คุณณัฐรดา
เรื่องพระนาคเสน โต้ตอบกับ พระเจ้ามิลินท์ นี่ถูกจริตผมเอามากๆ ที่บ้านมีหลายเล่ม มีเล่มหนึ่งเป็นกลอนด้วย (แต่งโดยพระรูปหนึ่ง - แต่ยังไม่มีเวลาไปอ่านรายละเอียด)
นำเรื่องที่เคยบันทึกไว้มาเสริมกับบันทึกนี้ครับ เพราะมีส่วนคาบเกี่ยวกันอยู่มากทีเดียว
ผ้าคลุมโรมัน vs จีวรพระ - ญาติกันนะ..จะบอกให้
ซ้าย : ชุดโทกา (Toga) ของชาวโรมัน
ขวา : พระพุทธรูปศิลปะอินเดียแบบคันธารราษฎร์ [สะกดตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542]
ท่าทีของชาวพุทธต่อกสรนับถือพระพุทธรูป มีหลายแบบครับ
ทั้งนับถือ แบบผี แบบไสยศาสตร์ แบบพราหมณ์
ส่วนที่เป็นแบบพุทธ จริงๆ ไม่ค่อยพบครับ
สำหรับต้อม บางทีเห็นพระพุทธรูปก็จะยกมือไหว้โดยไม่ทันจะรู้ตัวด้วยซ้ำ ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเคารพเลื่อมใสหรือเคยตัวกันแน่ แอบถามตัวเองอยู่เรื่อยค่ะ
สวัสดีครับคุณณัฐรดา วันนี้ผมตามมาขอบคุณที่แวะไปเยี่ยม เข้ามาไม่เสียการมีงานศิลปะให้เรียนรู้มากมายเลยครับ
ท่าน อ.ณัฐพัชร์ เป็นอีกท่านที่เคยให้คำปรึกษาต่างๆและการเรียนอีกมากมาย ขอขอบพระคุณทุกท่านนะครับ