แผนชุมชน..กับความเสียโอกาสของประชาชน


แผนชุมชนนั้น เจ้าภาพใหญ่ก็คือตัวชุมชนนั่นเอง ต้องเป็นคนทำ

   สองเดือนมานี้ ผู้เขียนไม่ค่อยได้เข้ามาเขียนบล็อก หรือเขียนก็จะเป็นเรื่องสั้นๆ หรือนำภาพสวยๆงาม มาให้ชมกัน ที่จริงแล้วผู้เขียนกำลังทำงานในชุมชนอย่างหนัก เป็นเพื่อน เป็นพี่เลี้ยง เป็นกำลังใจ ให้เขาเดินเข้าสู่เขตของคำว่า ชุมชนเข้มแข็ง

  ผู้เขียนขอใช้กิจกรรมที่คุ้นหูกันมาก ในยุคสมัยนี้ คือการทำประชาคม เพื่อจัดทำแผนชุมชนที่แท้จริง

ใช่แล้วค่ะแผนชุมชน กลายเป็นคู่มือสำคัญของชุมชน จะได้งบ จะได้พัฒนา หรือจะได้รับการดูแลหรือไม่ เขาดูกันที่มีในแผนชุมชนหรือเปล่า เพราะสิ่งที่อยู่ในแผนชุมชน คือความต้องการของชาวบ้าน

 ครั้งหนึ่งหลายหมู่บ้านที่อยู่ในเขตรับผิดชอบของผู้เขียน เกือบจะพลาดโอกาส ที่จะได้รับงบอยู่ดีมีสุข ให้มาใช้ในการดูแลด้านสุขภาพ เพราะเมื่อข้อหนึ่งของการใช้งบประมาณนั้น ระบุว่า ต้องเป็นเรื่องที่มีอยู่ในแผนชุมชน

 แผนชุมชนคืออะไร ใครทำ แล้วทำไมไม่มีเรื่องราวของการพัฒนาคุณภาพชีวิต ด้านสุขภาพเลย มีอยู่บ้างระดับแผนตำบล ก็ล้วนแต่เรื่องทำถนน ขุดสระ ฝังท่อ เป็นต้น เรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวตนของประชาชนไม่มีเลย

  ดีที่ทางผู้ใหญ่เห็นใจ เลยยอมให้ใช้งบนั้นมาใช้เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพได้บ้าง ที่ผู้เขียนเคยนำมาเล่าให้ฟังกันแล้ว ว่านำมาตัดแว่นสายตา ให้แก่ผู้สูงอายุทุกคน ประมาณ ๕๕๐ อัน งบประมาณที่ใช้ ก็เทียบไม่ได้กับด้านอื่น เช่นขุดสะเกือบล้านบาท

 เป็นความรู้สึกเสียโอกาสสำหรับประชาชนอย่างยิ่ง กับการที่ไม่รู้ว่าใครหนอจะเป็นผู้ทำแผนชุมชนให้เขา ซึ่งผู้เขียนเอง ก็เฝ้าดูความเคลื่อนไหว ในการทำแผนชุมชน ของหน่วยงานที่รับผิดชอบ มาเป็นปีที่ ๓ แล้ว จึงพบว่า การประชาคมชุมชนแต่ละครั้ง คือการเอาเรื่องราว ที่จะทำในปีหน้านั้น มาขอมติ และอาจมีการสอบถามบ้าง แต่ประชาชนก็ไม่ได้มีส่วนสักเท่าไหร่ ที่สุดแผนชุมชนก็เหมือนทุกๆปี จะมีแต่เรื่องถนนหนทาง สาธารณูปโภค ไม่มีการเตรียมแผนการเกี่ยวกับภัยต่อชีวิตของประชาชน ไม่มีการแก้ไขปัญหาสุขภาพประชาชน ซึ่งสำคัญที่สุด เพราะการที่ชุมชนจะเข้มแข็ง ประชากรต้องมีสุขภาพดี ไม่อ่อนแอ จากภัยทางสุขภาพ เปรียบเหมือนกองทัพ ที่มีทหารขี้โรค รบอย่างไรก็แพ้ คนที่เจ็บป่วย จะไม่มีเวลานึกถึงใคร หรือจะพัฒนาอะไร ไปมากกว่าจะดูแลให้ตัวเอง ไม่ทุกข์ทรมานไปมากกว่านี้

  ผู้เขียนจึงตัดสินใจ จะชวนชาวบ้านทำแผนชุมชนด้านสุขภาพ ประจำหมู่บ้านของตนเองกัน ใช้กิจกรรมประชาคม ระดมสมอง ค้นหาปัญหาตัวเอง หาทางแก้ไขปัญหากันเอง และที่สำคัญ แก้ความไม่รู้ของตนเอง ให้รู้ว่า แผนชุมชนนั้น เจ้าภาพใหญ่ก็คือตัวชุมชนนั่นเอง ต้องเป็นคนทำ จะได้หลุดพ้นวงจร แห่งการให้คนอื่นมากำหนดชะตาชีวิตเสียที

  งานของผู้เขียนเริ่มเมื่อปีงบประมาณกำลังจะสิ้นสุด หลายคนคงกำลังสรุปผลงาน แต่ผู้เขียนกำลังจะเริ่มต้น ทำงานที่อยากจะทำให้แก่ชุมชน คงไม่ผิด เพราะกาลเวลา ก็ไม่ได้มาเป็นอุปสรรคในการเรียนรู้ของประชาชนแต่อย่างใด

 มีหมู่บ้าน ๗ หมู่ ผู้เขียนลงทำทุกหมู่ ไปแล้ว หมู่ละ ๒ รอบ และรอบที่ ๓ กำลังจะเริ่ม เป็นรอบสุดท้าย ที่จะได้เห็นแผนชุมชนของตนเองเสียที

  บางวันชาวบ้านนัดเช้า บางวันบ่าย บางวันก็ค่ำ สองเดือนที่ผ่านมา จึงสุดๆกับงาน แต่ผลงานที่ได้รับน่าชื่นใจเหลือเกิน

  บันทึกหน้า ผู้เขียนจะนำมาเล่าสู่กันฟัง ว่าที่จริงที่เราคิดว่า สอนให้ชาวบ้านคิดนั้น แท้จริงแล้วไม่ใช่เลย การจะเรียนรู้ชุมชนที่แท้จริง คือการหยุดฟังเสียงเขาบ้างต่างหากค่ะ

หมายเลขบันทึก: 289142เขียนเมื่อ 19 สิงหาคม 2009 20:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:20 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

สวัสดีครับ ป้ารุ่ง

รูปใหม่เกือบจำไม่ได้ แต่รอยยิ้มนี้ยังอยู่ในใจเสมอ

สบายดีไหมครับ

ระลึกถึงเสมอครับ

ส่วนใหญ่เป็นอย่างนั้นแหละ

ชาวเขาไม่รู้.ไม่มีใครบอกเขา

มีคนมาชี้นำและเขาก็เคยแต่ถนน ท่อ

สุขภาพก็สำคัญ

ถ้าคนตายไปแล้วอย่างอื่นจะมีประโยชน์อะไร

ขอบคุณมากครับ

สวัสดีครับ. โย่โย่งโก๊ะ แซ่เฮ~natadeeเหมือนพี่สาว

ขอบใจนะที่ยังจำป้าได้ดี

โดยเฉพาะรอยยิ้ม

เวลายิ้มป้าก็นึกว่ากำลังยิ้มให้ใครๆอยู่จ้ะ

หลานเป็นไงบ้าง คุณแม่และพี่สาวสบายดีหรือเปล่า

อย่าตากฝนนะ

จะทำให้ร่างกายอ่อนแอได้

อ้อ ลืมไป เป็นนักกีฬานี่นะ เข็งแรงๆๆ ชุมชนจะได้เข้มแข็ง

สวัสดีค่ะพี่เกษตรยะลา

จริงค่ะ มีคนคอยนำ เขาเลยไม่ต้องคิด

พอเกิโรคระบาดในหมู่บ้านโทษกันวุ่นวาย

หางบประมาณควบคุมโรคไม่ได้

เพราะไม่ได้ตั้งไว้

จะทำแผนชุมชนแบบเต็มรูปแบบ

ให้ชาวบ้านคิดเองล้วนๆ

ต้องมาเขียนบันทึกไว้

เพราะมีบางคนเริ่มมองว่าเราไปสอนให้ชาวบ้านคิดเป็น

หุหุ

ขอให้กำลังใจเพื่อนนะ แต่ต้องระมัดระวัง ในการทำงานงบประมาณที่เป็นก้อนใคร ๆ ก็อยากปริหารจัดการ บ่อยมากสิ่งที่ชุมชน อยากได้ไม่จัดให้แต่ ยัดเยียดสิ่งที่ไม่ต้องการมาให้

สวัสดีค่ะคุณredlotus

ขอบคุณค่ะ

ได้พบข้อมูลที่แท้จรองแล้วเหมือนที่คุณบอกเลยค่ะ

มีสิ่งมหัศจรรย์ที่ไม่เคยเป็นประโยชน์ต่อชาวบ้านเลยมากมาย

การช่วยให้ชาวบ้านเข้าใจชุมชนตัวเอง

ย่อมเสียประโยชน์กับอีกฝ่ายหนึ่งเสมอ

จึงคิดจะบันทึกเอาไว้ว่า

ณ ที่แห่งหนึ่งของประเทศไทยเรานี้

ได้เริ่มการเปลี่ยนแปลงไปสู่วิถีชุมชนที่แท้จริง

เพิ่มขึ้นอีกจุดหนึ่ง

จะทำงานด้วยความระมัดระวังค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท