ปรากฏการณ์เครดิต กินฟรีเสี่ยงอ้วน [EN]


 

...

เป็นที่ทราบกันดีว่า เครดิต (เช่น บัตรเครดิต ฯลฯ) เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คนเราใช้จ่ายเกินตัว การศึกษาใหม่พบว่า ของฟรีเป็นปัจจัยที่ทำให้คนเรากินเกินตัว เรื่องนี้ปรากฏชัดในผู้หญิง เลยอ้วนเลย [ Reuters ]

US มีระบบสวัสดิการ 'U.S. Food Stamp Program' หรือโปรแกรม (program = ชุดโครงการ ชุดโปรเจคท์; food = อาหาร; stamp = สแตมป์; รวม = โปรแกรมสแตมป์แลกอาหาร)

...

โปรแกรมนี้จัดอยู่ในกลุ่ม 'anti-hunger program (anti- = แอนตี้ ต่อต้าน ต้านทาน; hungry = ซึ่งหิว; hunger = ความหิว)' โดยแจกสแตมป์ให้คนยากจนไปซื้ออาหารตามร้านของชำ

ทีมวิจัยนำโดย อ.เจย์ ซากอร์สกี (U Ohio; U = university = มหาวิทยาลัย), และ อ.แพทริเชีย สมิต (U Michigan) US ทำการศึกษากลุ่มตัวอย่างเกือบ 4,000 คนที่ใช้บริการสแตมป์อาหาร เปรียบเทียบกับคนที่ไม่ได้ใช้เกือบ 6,000 คน ติดตามไปกว่า 14 ปี

...

ผลการศึกษาพบว่า ผู้หญิงที่ใช้สแตมป์อาหาร (กินฟรี) อ้วนกว่าคนที่ไม่ได้ใช้ (non-user; non- = ไม่; use = ใช้; user = ผู้ใช้) โดยทำให้มี BMI สูงกว่า = 1.15 หน่วย

BMI = ดัชนีมวลกาย = น้ำหนักเป็นกิโลกรัม หารด้วยส่วนสูงเป็นเมตร 2 ครั้ง

...

ผู้หญิง US สูงเฉลี่ย 5 ฟุต 4 นิ้ว (1 นิ้ว = 2.54 ซม.) = 172.72 ซม. > ค่า BMI 1.15 คิดเป็นน้ำหนักได้ประมาณ 5.8 ปอนด์ (1 ปอนด์ = 0.454 กก.) = 2.63 กก.

ปัจจัยที่ทำให้อ้วนคือ การกินฟรี และระยะเวลากินฟรี... ยิ่งนานยิ่งบาน

...

ก่อนกินฟรี BMI เพิ่ม 0.07 > ช่วงกินฟรีเพิ่ม 0.4 > หยุดกินฟรีเพิ่ม 0.2 (หน่วย/ปี)

ปี 2551... คนสหรัฐฯ 28M จาก 307.211M (ประชากรปี 2552; M = ล้านคน) = 9.11% หรือประมาณ 9% (ประชากร US เพิ่มปีละ 1%) ได้รับสแตมป์อาหาร [ Census ], [ PopClock ]

...

อาหารฟรีมีแนวโน้มจะเป็นอาหารราคาถูก ไขมันสูง ผ่านกระบวนการผลิต (สำเร็จรูป) และให้กำลังงานสูง สแตมป์มีค่าเดือนละ $81 = ฿2,835 ในปี 2545

หลักคิดหนึ่งที่ใช้กัน คือ สวัสดิการของประเทศใดๆ เป็นการใช้ภาษีจากคนชั้นกลางค่อนข้างมาก คนรวยเสียเหมือนกัน แต่เสียภาษีในสัดส่วนน้อยกว่าเมื่อคิดจากรายได้ หรือสินทรัพย์ที่มีทั้งหมด

... 

เงินสวัสดิการจึงมีลักษณะเป็นการ "สูบภาษี" คนชั้นกลางไปให้คนที่ทั้งจนแท้และจนเทียม (ตามหลักภาษี... คนจนเสียภาษีเงินได้กว่าคนชั้นกลาง หรือไม่เสีย)

ประเทศที่ใช้นโยบายรัฐสวัสดิการมากเกิน... ส่วนใหญ่จะพบกับวิกฤตทางเศรษฐกิจ และสังคมแตกแยก เพราะ "คนจนอยากได้(มากๆ)-คนชั้นกลาง(คนทำงาน)ไม่อยากจ่าย(ภาษี)มาก"

...

ประเทศสุดท้ายที่ประกาศลดการใช้นโยบายรัฐสวัสดิการคือ สหราชอาณาจักร (หมู่เกาะอังกฤษ) หรือ UK ซึ่งเดิมร่ำรวยจากการปล้นสะดมคนทั้งโลกในยุคอาณานิคม รวยสุดๆ

พอใช้นโยบายสวัสดิการมากไปนานๆ... ประเทศถดถอยไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นประเทศที่การเงินยอบแยบ ถูกจอร์จ โซรอสและนักปั่นเงินถล่ม

...

ต่อมารัฐบาลท่านมาร์กาเร็ต แธตเชอร์จึงประกาศยกเลิกนโยบายสวัสดิการส่วนใหญ่ ทำให้ UK รอดวิบัติมาจนทุกวันนี้ แต่ไม่ได้เลิกไปเสียทั้งหมด เช่น ยังคงมีการประกันสุขภาพให้คนทั้งประเทศ ฯลฯ

คน US มองว่า ระบบสแตมป์อาหารมีด้านดี คือ ทำให้คนจนไม่ลำบากมากเกิน ด้านเสียคือ ทำให้คนบางกลุ่มไม่หางานทำ และทำให้ต้นทุนของประเทศสูงขึ้น บริษัทโรงงานย้ายออกนอก US ไปเรื่อยๆ เพราะภาษีที่เรียกเก็บจากคนทำงานทำให้ค่าแรงสูงขึ้น

...

ไม่มีประเทศใดในโลกที่ไม่ใช้รัฐสวัสดิการให้คนจนและด้อยโอกาสเลย แต่ละประเทศจะใช้ในสัดส่วนที่ไม่เท่ากัน ถ้าใช้น้อยไป... เสี่ยงต่อความเหลื่อมล้ำต่ำสูงมากเกิน,

ถ้าใช้มากไป... เสี่ยงบ้านเมืองพัง และชาติบ้านเมืองแตกเป็นฝักฝ่าย เพราะคนชั้นกลางจ่ายภาษีมากกว่าคนรวยและคนจน (คนรวยนั้นลอยตัวเสมอ ไม่ว่าจะใช้นโยบายแบบใด) คนชั้นกลางมักจะไม่พอใจ ส่วนคนจนพึงพอใจ ทำให้เสี่ยงทะเลาะกัน

...

ไม่ว่าจะเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร... ความจริงของโลกนี้ คือ ยิ่งกินฟรีบ่อยยิ่งอ้วน

ปรากฏการณ์นี้พบในคนที่ไปงานเลี้ยง หรือกินอาหารบุฟเฟต์บ่อย... เพราะฉะนั้นถ้าอยากมีสุขภาพดี แนะนำให้ "ลด-ละ-เลิก" การไปงานเลี้ยงและกินอาหารบุฟเฟต์ ณ บัดนี้

...

ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ > แนะนำให้อ่าน [ ใครใช้สวัสดิการรักษาพยาบาลมาก ] 

 [ Twitter ]

ที่มา                                                                      

  • Thank ReutersFood stamp users risk weight gain: study. Aug 18, 2009. / Source > Economics and Human Biology, 2009.
  • นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ รพ.ห้างฉัตร ลำปาง สงวนลิขสิทธิ์. ยินดีให้นำไปเผยแพร่โดยอ้างอิงที่มาได้. ห้ามนำไปใช้เพื่อการค้า > 19 สค. 52.
  • ข้อมูล ทั้งหมดเป็นไปเพื่อการส่งเสริมสุขภาพ ไม่ใช่วินิจฉัยหรือรักษาโรค ท่านที่มีโรคประจำตัวหรือความเสี่ยงต่อโรคสูงจำเป็นต้องปรึกษาหมอที่ดูแล ท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้.
หมายเลขบันทึก: 288957เขียนเมื่อ 19 สิงหาคม 2009 09:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน 2012 02:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท