ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนนั้น ไม่จำนักหรอกว่าครูจะต้องแสดงบทบาทเป็น “ฮีโร่” สอนเองคนเดียวอยู่ตามลำพังท่ามกลางนักเรียนตัวน้อย ๆ ที่คอยรับฟังคำสั่งและปฏิบัติตามของครูอย่างใจจด ใจจ่อ
เมื่อข้าพเจ้าเข้าสอนภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ จะเริ่มนำเข้าสู่บทเรียนเรื่องการคัดลายมือ โดยถามขึ้นว่า “ใครเอ่ยเขียนหนังสือสวยที่สุดในชั้นเรียน” นักเรียนในชั้นก็จะมองไปที่นักเรียนหญิงคนหนึ่ง คือ เด็กหญิงบุษยา ซำตระกูล ที่มีลายมือสวยกว่าเพื่อนๆ ข้าพเจ้าจึงให้เด็กหญิงบุษยา ออกมาหน้าชั้นเรียน แล้วให้เขียนข้อความบนกระดานหน้าชั้นเรียนและเขียนทีละประโยคให้เพื่อนๆ ในห้องดู พร้อมทั้งให้ทุกคนเขียนข้อความนั้นลงในสมุดของตนเอง
เมื่อนักเรียนทุกคนเขียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ให้ทุกคนเปรียบเทียบลายมือของตนเองกับลายมือของเด็กหญิงบุษยา บนกระดานหน้าชั้นเรียน ว่าต้องแก้ไขพยัญชนะหรือสระตัวใดบ้าง
แล้วข้าพเจ้าก็เริ่มฝึกนักเรียนทั้งห้องด้วยวิธีการจัดกลุ่มตัวอักษรที่คล้ายคลึงกันมาไว้กลุ่มเดียวกัน เช่น ก ถ ภ เป็นหนึ่งกลุ่ม ข ช ซ กลุ่มหนึ่ง พ ฟ ฬ ผ ฝ เป็นอีกกลุ่มหนึ่ง แล้วให้นักเรียนคัดลายมือ ข้าพเจ้าก็จะคอยแก้ไขลายมือของนักเรียนพร้อมทั้งแนะนำให้เป็นแบบตัวอักษรที่ถูกต้อง และให้นักเรียนฝึกเขียนบ่อยๆ ทำซ้ำๆ แล้วเปรียบเทียบว่าดีขึ้นเท่าเพื่อนหรือยัง
นักเรียนทุกคนต่างมุ่งมั่นอยากจะคัดลายมือให้สวยเหมือนเพื่อน ต่างก็ตั้งใจเขียนและแก้ไขตัวอักษร โดยยึดหลัก “ ต.ส.อ.” คือ ความตั้งใจ สังเกต และอดทน ทุกคนในชั้นเรียนจึงพอใจในลายมือของตนเอง แล้วเขียนข้อความเป็นคติเตือนใจว่า “เขียนหนังสือได้ถูกต้อง สวยงาม ด้วยมือเรา”
งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงะออะอะอออองงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงอะอะอะอะะอะะะ