การให้คำปรึกษาครอบครัว: ปัญหาครอบครัว (1)


การได้รับความรัก ความอบอุ่น การดูแลเอาใจใส่อย่างแท้จริง การเป็นกำลังใจให้กันและกัน เป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนหรือผลักดันให้บุคคลก้าวไปข้างหน้าอย่างเต็มศักยภาพ

ครอบครัว เป็นสถาบันที่มีขนาดเล็กที่สุดของสังคม แต่มีความสำคัญมากที่สุดในการถ่ายทอดวัฒนธรรม จัดเตรียมสภาพแวดล้อมสำหรับพัฒนาการ ทั้งทางร่างกาย ทางจิตใจ และทางสังคม ครอบครัว เป็นศูนย์กลางในการอยู่รวมกันของสมาชิกที่มีสัมพันธภาพเกี่ยวข้องกันอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างและพัฒนาบุคคลให้มีคุณภาพ

การพัฒนาบุคคลให้มีคุณภาพนั้น ขึ้นอยู่กับว่า "บุคคลได้รับความรักและความอบอุ่นในครอบครัวหรือไม่" เพราะการได้รับความรัก ความอบอุ่น การดูแลเอาใจใส่อย่างแท้จริง การเป็นกำลังใจให้กันและกัน ส่งผลต่อสุขภาพจิตที่ดี ทำให้บุคคลเกิดสภาวะสมดุลทั้งทางร่างกาย ทางจิตใจ และจิตวิญญาณ ซึ่งถือเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนหรือผลักดันให้บุคคลก้าวไปข้างหน้าอย่างเต็มศักยภาพต่หากครอบครัวใดไม่ได้รับการสนองตอบหรือตอบสนองในสิ่งเหล่านี้แล้ว ย่อมทำให้สัมพันธภาพของสมาชิกครอบครัวไม่เหนียวแน่น ไร้ซึ่งความสุข และนำมาซึ่งปัญหาครอบครัว

ปัญหาครอบครัวส่วนใหญ่ เกิดจากสมาชิกครอบครัวขาดการสื่อสารแบบตรงไปตรงมา กำกวม คลุมเคลือหรือไม่ชัดเจน ทำให้สมาชิกครอบครัวตีความในทิศทางที่แตกต่างกัน จึงเกิดความไม่เข้าใจกัน ทำให้สัมพันธภาพในครอบครัวแยกห่าง และเมื่อสมาชิกครอบครัวมีปัญหาจึงไม่สามารถปรึกษาใครได้... 

 

หมายเลขบันทึก: 287854เขียนเมื่อ 16 สิงหาคม 2009 03:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:18 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (30)

ไม่ได้มาทักทายนานมากแล้ว อาจารย์สบายดีนะครับ ขอให้ประสบความสำเร็จในสิ่งที่มุ่งหวังทุกประการครับผม

สวัสดีค่ะ...ผอ.บวร

สบายดีค่ะท่าน ผอ. หวังใจยิ่งว่าท่าน ผอ.คงสบายดีเช่นกัน

นานแล้วเช่นเดียวกันค่ะ...ที่ห่างหายไปจากพื้นที่แห่งนี้

----------------

เมื่อชีวิตไม่สิ้นก็คงต้องดิ้นต่อไป...

เหนื่อยกาย-เหนื่อยใจ ขอเป็นกำลังแรงใจให้ท่าน ผอ.สู้ต่อไปนะคะ

เพื่อตัวตน และคนรอบข้าง...ขอให้ท่าน ผอ.พบเจอแต่ความสุขสมหวังนะคะ

-----------------

ขอบพระคุณมากค่ะ

ธรรมะยามบ่ายใกล้ค่ำอาจารย์..

ธรรมฐิตขอนำเสนอหลักเพื่อให้ชีวิตครอบครัวดำเนินไปได้แม้มีปัญหา..

-ต้องจริงใจ

-ต้องรู้จักข่มใจ

-ต้องอดใจให้ได้

-และต้องให้ใจกันและกัน

ว่างๆจะมาขยายนะขอรับ

ตอนนี้ต้องไปสวดมนต์ก่อนเพื่อจะได้แผ่กุศลจิตให้สรรพสัตว์ทุกรูปนามขอรับ..

นมัสการค่ะ...หลวงพี่

น้อมรับความรู้...เพื่อจะได้น้อมนำไปปฏิบัติเจ้าค่ะ...หลวงพี่

ต้องจริงใจ...รู้จักข่มใจ..อดใจให้ได้ และต้องไว้ใจซึ่งกันและกัน

---------------

ขอบพระคุณค่ะ

ตามเข้ามาอ่านตามหัวข้อ น่าสนใจดี ขอบคุณทุกท่านครับ

สวัสดีค่ะ...คุณ "วิบูลย์ศักดิ์"

ขอบคุณมากค่ะสำหรับการเข้ามาแวะเติมความรู้...

----------

รักครอบครัวมาก ๆ นะคะ

สวัสดี เจ้า

มารายงานตัวว่า รักครอบครัว มาก ๆค่ะ

สวัสดี...ค่ะ "ครูใหม่ น้องพอ และน้องเพียง"

คุณ "ครูใหม่"...ยิ้มละไม แววตาเอื้ออาทรซะขนาดนั้น...(ดูจากภาพ)

แถมมีคำยืนยันซะขนาดนี้...เชื่อแล้วค่ะว่ารักครอบครัวมาก ๆ

--------------

ขอบคุณมากค่ะ

ครูใหม่"...ยิ้มละไม แววตาเอื้ออาทรซะขนาดนั้น

สวัสดี ยามเย็น เจ้า

ข้อความ จากสาวใต้ ทกเอา สาวเหนือ ยิ้ม ยิ้ม เจ้า

สบายดี เน้อเจ้า

พิมพ์ผิด ทำเอา ทำเอา ทำเอา ทำเอา

มาขำครูใหม่ ทกเอา เอ้ย ทำเอา ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

สาวใต้ขอแหลง (พูด) ว่า "บายดี...นิ"

สาวเหนืออู้หว๊านหวานเจ้า...ส่วนสาวใต้แหลงหยาบ...แล้วกะทองแดงทังเพ (ทั้งหมด)

บายดีช่ายม้าย (สบายดีหรือเปล่า)...ยิ้ม ๆ

-----------------

ขอบคุณมากค่ะ "สาวเมืองเหนือ"

คุณ "ขจิต" มาช่วยขำหรือค่ะ...เสียงดังไปหรือเปล่าค่ะ

เดี๋ยวคุณ "ครูใหม่"...เค้าได้ยิน...พาหนุ่มเหนือมาตี...ไม่ช่วยนะ

แต่จะคอยให้กำลังใจ...(ยิ้มๆ)

โดนพาดพิง เลยเข้ามาอีกรอบค่ะ

คนข้างบน อยู่ในช่วง เอา คืน ค่ะ

ปล. พาหนุ่มเหนือมาตี ไม่ มี๊ ไม่มีค่ะ มีแต่ จะพาสาว มาเป็นคู่ ให้ลุงขจิต 5555555

ไม่รู้ใครจะหัวเราะดังกว่ากัน...

แต่หากยืนยันตาม ปล. ของคุณครูใหม่...งานนี้คุณ "ขจิต" ได้เสีย...ได้เสีย...ฟันธง

  • ตามมาขอบคุณถึงบ้านของ ดญ.วิจิตรา สายอ๋อง ค่ะ
  • ขอบคุณมากนะคะ ที่แวะไปเยี่ยมเยียน
  • กำลังใจอยู่ที่มีผู้เข้าเยี่ยมและทักทายนี่แหละค่ะ
  • เขียนอะไรให้อ่านอีกนะคะ ชอบอ่านทุกเรื่องค่ะ

คุณ..."ครูโต๊" มาแล้ว เพื่อน ๆ นั่งนิ่ง ๆ แล้วก็เงียบ ๆ หน่อย

แน่ะ...ถือไม้เรียวมาด้วย...หอบสื่อการสอนภาษาอังกฤษตามเป็นกระบุงเลย

ท่าทางวันนี้พวกเราไม่รอดแน่...การบ้านเพียบ!!

-----------

ขอบคุณมากค่ะ...รักษาสุขภาพนะคะ

ขอบคุณ ที่ comment ครับ

พอดี เรียน จิตวิทยาการให้คำปรึกษา

กับ รศ.ดร.ทิพาวดี เอมะวรรธนะ อยู่

เรียนมา 2 ปี แล้วครับ

การให้คำปรึกษา

ผู้ป่วยเรื้อรัง

ผู้ป่วยระยะสุดท้าย

ผุ้ติดสุรา

คือการบ้านที่ผมเต็มใจทำที่สุด

จากคนเกลียดการบ้าน

ยินดี ลปรร.กับเพื่อนร่วมศาสตร์เดียวกันค่ะ

มีคำกล่าวว่า "ถ้าไม่เข้าใจถึงปัญหา แม้พบคำตอบ ก็จะยังคงไม่ทราบว่า...พบแล้ว" เป็นการบ้านที่น่าสนใจติดตามค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ...

  • เป็นลูกศิษย์ของท่านอาจารย์ ดร.ทิพาวดี เช่นกันกับท่านศุภรักษ์ค่ะ
  • ใช้ทฤษฎี Satir ทำ family therapy จนได้พบกับคุณสามี ซึ่งเขาก็ทำ family therapy ในคลีนิคให้คำปรึกษาที่แคนาดา ซึ่งเป็น Business clinic ของเขาเอง จนได้แต่งงานและย้ายมาอยู่ที่นี่ล่ะคะ
  • เรียกว่า Satir ทำให้เราได้พบรักแท้เลยนะคะ อิอิ
  • ได้เข้าไปอ่านงานป.เอกของอาจารย์ Vij อยู่หลายครั้งเลยค่ะ
  • วันนี้ดีใจและเล่าให้คุณสามีฟังด้วย ว่าได้พบคนที่ชื่นชอบ Satir ที่นี่อีกคนแล้ว
  • แต่ความรู้เรา ทิ้งมานานหลายปีแล้วค่ะ ต้องเข้าไปอ่านงานของอาจารย์ Vij บ่อยๆ ซะแล้ว

ครอบครัว...สถาบันอันดันหนึ่ง                 เป็นที่ซึ่งผูกพันนั้นแน่นเหนียว

คนในครอบครัวต้องรักกันมั่นกลมเกลียว   เป็นหนึ่งเดียวเกี่ยวใจไม่แยกกัน

..อยากรู้อยากถามทำไงคะ...family therapy..เมืองไทยมีไหมค่ะ

อิๆๆๆ เป็นปลื้มค่ะ...ที่คุณ "Jen" พบรักแท้เพราะ Satir เชื่อเลยว่าคุณ Jen และคุณสามีต้องเป็นคนอารมณ์ดี จิตใจดี อย่าง Satir แน่ ๆ เลยค่ะ...ดีใจมาก ๆ ค่ะที่พบคนรัก Satir เหมือนกัน และเห็นความสำคัญของสถาบันครอบครัว...แต่สงสัย "Vij" ต้องไปฝึกต้นฉบับจริงจากคุณสามีคุณ "Jen" แล้วละคะ...
-----------------
เด็กน้อยด้อยประสบการณ์อย่าง Vij รือจะอาจหาญเทียบทานผู้เชี่ยวชาญด้วยประสบการณ์ด้านอาชีพ...ฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่ะคุณ "Jen" ศิษย์ขอคาระวะด้วยน้ำใจ 1 ดวงเจ้าค่ะ
-----------------
ครอบครัวคุณ Jen มีความอบอุ่นเป็นพื้นฐาน(อ่านจากประวัติ) คุณ Jen จึงเห็นคุณค่าและให้ความสำคัญกับสถาบันครอบครัว...ขอให้มีความสุขกับครอบครัวนะคะ...และประสบความสำเร็จในอาชีพ...พัฒนาสมาชิกครอบครัวให้มีความสมบูรณ์ เท่ากับพัฒนาสังคม ประเทศชาติค่ะ
-----------------

ขอบพระคุณค่ะ...ท่าน "วิโรจน์" Vij เข้าไปอ่านบันทึกเรื่องนักการเมืองของท่านมาแล้วค่ะ...แต่ไม่ได้ทิ้งรอยไว้ค่ะ...ท่านเขียนได้ดุเด็ดเผ็ดมันมากค่ะ...
-----------------
สมาชิกครอบครัวต้องมีความรักผูกพันกันเป็นหนึ่งเดียว...ครอบครัวจึงจะดำรงอยู่อย่างมีความสุขค่ะ...ขอบพระคุณบทกวีอันไพเราะค่ะ...
ครอบครัว...สถาบันอันดันหนึ่ง       เป็นที่ซึ่งผูกพันนั้นแน่นเหนียว คนในครอบครัวต้องรักกันมั่นกลมเกลียว  เป็นหนึ่งเดียวเกี่ยวใจไม่แยกกัน -----------------

สวัสดีค่ะ...คุณ "ยายธี" ที่เคารพและนับถืออย่างสุดซึ้ง
ไอ้ปี้ ๆ ที่เขาว่านี่...(family therapy) ตามโรงพยาบาลก็มีแผนกให้คำปรึกษาหรือบำบัดค่ะยาย...มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน...
คุณยายธี...ผู้ฉลาดหลักแหลมค่ะ...หนูทำลิงค์ไว้ให้เผื่อคุณยายกับคุณตาสนใจจะอ่านค่ะ...แต่ผู้ผ่านประสบการณ์มาโชกโชนอย่างคุณยายดูแค่ผ่าน ๆ ก็คงพอมั้งค่ะ...http://webdir.livetogether.org/foundation/f_family/

ขอบพระคุณมากค่ะ

ขอบใจสำหรับแง่มุมที่ดีๆ ที่มีให้แก่กัลยาณมิตร ขออนุญาติแบ่งปันความคิดในประเด็นนี้ว่า ปัญหาในครอบครัวในยุคโลกาภิวัตน์ซึ่งประเมินจากประสบการณ์ที่หลายท่านนำมาแบ่งปันโดยการเล่าสู่กันฟังกัน คือ

๑. ขาดความซื่อตรง (สัจจะ)

๒. ขาดความจงรัก (เมตตากรุณา)

๓. ขาดความหนักแน่น (ทมะ)

เพราะ ๓ อย่างดังกล่าวจึงนำไปสู่การเปิดพื้นที่ของ "บาดแผลทางใจ"

๑. ไม่ยินดีและเต็มใจที่จะฟังอย่างมีสติ (Mindfull Listening)

๒. ขาดความไว้วางใจในคู่ครองของตัวเอง (Mistrust)

๓. ความสัมพันธ์ (Relationship)ที่เหินทาง และแยกทาง (Withdrawal)

ขอให้ต้นไม้แห่งความรัก จงได้โปรดงอกเงยและงอกงามภายในใจของพวกเราทุกคน

ด้วยธรรมะ พระ และเมตตา

นมัสการเจ้าค่ะ...ปัญหาครอบครัวก่อเกิดจากหลายประเด็น และใน 3 ประเด็นดังกล่าวเป็นประเด็นสำคัญ สมาชิกครอบครัว "ไม่ยินดีและเต็มใจที่จะฟังอย่างมีสติ...ขาดความไว้วางใจในคู่ครองของตน...ทำให้ความสัมพันธ์เหินห่างและแยกทางกันในที่สุด"...

ขอบพระคุณมากเจ้าค่ะ...

ตามมาเก็บบล๊อกที่ยังไม่ได้เข้า ทำลายสถิติ อิอิ

คุณป้าเหมียว แอบเข้ามาตอนไหนเนี่ยะ...จะมาทำลายอะไรในบันทึกหนูล่ะป้าจ๋า...อ้อ ทำลายสถิติ อิ อิ อิ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท