งานวิจัยเรื่องที่ 1
ส่วนที่ 1 สรุปงานวิจัย
1. ชื่อเรื่อง ผลการเรียนรู้ด้วยบทเรียนมัลติมิเดียปฏิสัมพันธ์ ตามกระบวนการซิปปา
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศ
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ผู้วิจัย นายธีระพร ภาคมฤกษ์
มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ปีที่พิมพ์ 2548
2. ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา
1. ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ประกอบกับศักยภาพของระบบข้อมูล จนเป็นเหตุให้แนวทางการพัฒนาด้านการศึกษาก้าวตามไปเป็นลำดับ ด้วยการประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์ให้สามารถนำเสนอข้อมูลที่จำเป็นต่อการเรียนรู้ได้ทุกรูปแบบ ทุกระดับ ในลักษณะของตัวอักษร ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว เสียง ภาพจำลอง รวมถึงวีดิทัศน์ เพื่อช่วยให้กระบวนการเรียนรู้มีชีวิตชีวาน่าสนใจ ชวนให้ติดตามหรือที่เรียกกันทั่วไปว่า มัลติมีเดีย (Multimedia) (กิดานันท์ มลิทอง. 2539 : 255)
2. การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่มุ่งเน้นให้นักเรียนศึกษาค้นคว้า รวบรวมข้อมูลด้วยตนเอง การมีส่วนร่วมในการสร้างความรู้ การมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นและการแลกเปลี่ยนความรู้ การได้เคลื่อนไหวร่างกาย การเรียนรู้กระบวนการต่าง ๆ และการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ กิจกรรมการเรียนรู้ที่แปลกใหม่จะทำให้บรรยากาศในการเรียนรู้เต็มไปด้วยความรู้สึกกระตือรือร้น ตื่นเต้น ไม่เบื่อหน่าย มีโอกาสแสดงความคิดเห็น และการสร้างความรู้ได้ด้วยตนเอง (ปราณี กรุณวงษ์. 2546 : 37 ; อ้างอิงมาจาก ทิศนา แขมณี. 2542 ข : 10)
3. จากปัญหาที่พบในการจัดการเรียนการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี วิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ นักเรียนที่เรียนช้าไม่สามารถเรียนรู้ได้ทันเพื่อนมีเวลาเรียนจำกัด ขาดแคลนสื่อที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ นักเรียนไม่ได้ลงมือปฏิบัติจริงในทุกขั้นตอนนั้น มีงานวิจัยที่สามารถยืนยันได้ว่าการเรียนด้วย บทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย ทำให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนดีขึ้น เสรี สามาอาพัฒน์ (2545 : 77)ได้ทำการวิจัยการพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนระบบมัลติมีเดีย เรื่องการคำนวณงานไฟฟ้าในบ้าน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นวิจัยกับนักเรียน 30 คน ผลการวิจัยปรากฏว่า นักเรียนที่เรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนระบบมัลติมีเดีย ที่พัฒนาขึ้นมีความรู้เพิ่มขึ้นกว่าเดิม ร้อยละ 70 และมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนรู้เพิ่มขึ้น
4.จากทฤษฏีและงานวิจัยที่เกี่ยวกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้และบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดีย ซึ่งเป็นสื่อการเรียนการสอนที่ครอบคลุมเนื้อหาและกิจกรรม หรือวิธีการเรียนที่จัดเตรียมไว้ล่วงหน้า มีทั้งภาพ เสียง ตัวอักษร สามารถมีปฏิสัมพันธ์ หรือโต้ตอบกับผู้เรียนได้ทันที สะดวกในการแก้ไขข้อผิดพลาดของการเรียนแต่ละครั้งแต่ละปัญหา มารวมกันเพื่อแก้ปัญหา
ผู้วิจัยมีแนวคิดและสนใจที่จะศึกษาค้นคว้า และพัฒนาบทเรียนมัลติมีเดียปฏิสัมพันธ์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ด้วยกระบวนการเรียนแบบซิปปา เพื่อใช้ในการจัดการเรียนการสอนและแก้ปัญหานักเรียนที่เรียนช้าไม่สามารถเรียนรู้ได้ทันเพื่อน และมีเวลาเรียนจำกัดให้นักเรียนสามารถได้เรียนรู้ด้วยตนเองและเป็นการค้นหาวิธีการที่เหมาะสมในการจัดการเรียนการสอน ทั้งยังเป็นแนวทางในการพัฒนาบทเรียนมัลติมีเดียปฏิสัมพันธ์ในรายวิชาอื่น ๆ ให้มีประสิทธิภาพในวงการศึกษาต่อไป
3. วัตถุประสงค์ของการวิจัย
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายของการวิจัย ดังต่อไปนี้
1. เพื่อพัฒนาบทเรียนมัลติมีเดียปฏิสัมพันธ์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและ
เทคโนโลยี เรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
2. เพื่อศึกษาประสิทธิภาพบทเรียนมัลติมีเดียปฏิสัมพันธ์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงาน
อาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่พัฒนาขึ้น
3. เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของบทเรียนมัลติมีเดียปฏิสัมพันธ์ที่พัฒนาขึ้น
4. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ก่อนการเรียน และหลังการเรียน
ด้วยบทเรียนมัลติมีเดียปฏิสัมพันธ์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
5. เพื่อศึกษาความคงทนในการเรียนของนักเรียน ที่เรียนด้วยบทเรียนมัลติมีเดียปฏิสัมพันธ์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานาอาชีพและเทคโนโลยี เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
6.เพื่อศึกษาความพึงพอใจในการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยบทเรียนมัลติมีเดียปฏิสัมพันธ์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
4. สมมติฐานการวิจัย
การวิจัยครั้งนี้มีสมมติฐานในการวิจัย ดังนี้ ผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนที่เรียนด้วยบทเรียนมัลติมีเดียปฏิสัมพันธ์ ตามกระบวนการซิปปา กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลังการเรียนสูงกว่าก่อนการเรียน
5. ขอบเขตของการวิจัย
ผู้วิจัยได้กำหนดประชากรและกลุ่มตัวอย่าง สำหรับการทดลอง ตลอดจนวิธีการในการคัดเลือกกลุ่มตัวอย่าง ดังนี้
1. ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียน
ชุมชนยอดแก่งสงเคราะห์ อำเภอนามน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3 ภาคเรียนที่ 1 จำนวน 2 ห้องเรียน 67 คน
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 จำนวน
32 คน โรงเรียนชุมชนยอดแก่งสงเคราะห์ อำเภอนามน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3 ได้มาด้วยการใช้วิธีการแบบสุ่มอย่างง่ายโดยวิธีการจับฉลากมา 1 ห้อง
2. ตัวแปรที่ศึกษา
2.1 ตัวแปรอิสระ ได้แก่ บทเรียนมัลติมีเดียปฏิสัมพันธ์ เรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
2.2 ตัวแปรตาม ได้แก่ ผลการเรียนรู้ แยกเป็น
2.2.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยบทเรียนมัลติมีเดียปฏิสัมพันธ์ เรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
2.2.2 ความคงทนในการเรียนรู้ของนักเรียนที่เรียนด้วยบทเรียนมัลติมีเดียปฏิสัมพันธ์ เรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
2.2.3 ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อบทเรียนมัลติมีเดียปฏิสัมพันธ์ เรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
3. ระยะเวลาที่ใช้ในการทดลอง คือ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2548 จำนวน 16 ชั่วโมง
4. เนื้อหาบทเรียนมัลติมีเดียปฏิสัมพันธ์ เรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 สาระที่ 4 เทคโนโลยีสารสนเทศ จำนวน 4 หน่วยการเรียน ประกอบด้วย
4.1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 มารู้จัก IT กันเถอะ จำนวน 4 ชั่วโมง
4.2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 มีอะไรเอ่ย.......อยู่ในคอมพิวเตอร์ จำนวน 4 ชั่วโมง 4.3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เครือข่ายใยแมงมุม จำนวน 4 ชั่วโมง
4.4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ท่องโลกอินเทอร์เน็ต จำนวน 4 ชั่วโมง
6. วิธีดำเนินการวิจัย
ในการดำเนินการวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยแบบกึ่งทดลอง (Quasi – experimental Research) การพัฒนาบทเรียนมัลติมีเดียปฏิสัมพันธ์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและพื้นฐานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ผู้วิจัยได้ดำเนินการตามขั้นตอน ดังนี้
1. ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
2. เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
3. วิธีดำเนินการสร้างเครื่องมือในการวิจัย
4. วิธีการหาประสิทธิภาพเครื่องมือในการวิจัย
5. วิธีการดำเนินการทดลองและเก็บรวบรวมข้อมูล
6. การจัดกระทำข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูล
7. สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล
เรียน อาจารย์ sayamon
ผมเป็นคนหนึ่งที่สนใจงานวิจัย อยากแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ขอความอนุเคราะห์อาจารย์ช่วยลง "การวิจารณ์วิทยานิพนธ์หรืองานวิจัย" ให้มีตัวอย่างงานวิจัยที่ หลากหลายนะครับ เพราะผมคิดว่า คนในแวดวงวิชาการอีกหลายคนยังไม่รู้ บางคนรู้แบบงูๆปลาๆ อายไม่กล้าถามกลัวหน้าแตก ทั้งที่อยากรู้ และอีกหลายๆ คน อาจมีข้อจำกัดในเรื่องของเวลา ทรัพย์สินเงินทอง ฯลฯ
หวังว่า คงได้เห็นผลงานของอาจารย์ตลอดไปนะครับ