รัชดาวัลย์ วงษ์ชื่น(อิงจันทร์)
รัชดาวัลย์ วงษ์ชื่น(อิงจันทร์) ครูตาล วงษ์ชื่น

พระในบ้าน ตอน เลือดแม่เพื่อลูก(ฟังเพลงคือหัตถาครองพิภพค่ะ)


   สมัยหนึ่ง ที่การคมนาคมทางบกและทางอากาศยังไม่สะดวก เวลาจะเดินทางไปไกลๆ ผู้คนส่วนใหญ่จึงนิยมโดยสารเรือเดินทะเล มีเรื่องเล่าว่า มีเรือขนส่งผู้โดยสารทางทะเลลำหนึ่ง ได้นำผู้โดยสารมีจำนวนนับร้อยมุ่งหน้าสู่ทะเลใหญ่ ซึ่งในการเดินทางครั้งนี้ปรากฏว่า เมื่อเรือไปถึงกลางทะเล เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็บังเกิดขึ้น

    ทันใดนั้นได้เกิดลมพายุพัดโหมกระหน่ำจนทำให้เรือถึงกับอับปางลง ในขณะที่เรือกำลังจะล่มนั้น ได้มีการถ่ายคนจากเรือใหญ่ลงสู่เรือเล็ก ด้วยความกลัวตายของคนในเรือต่างรีบเอาตัวรอด หาได้คิดถึงเสบียงอาหารหรือทรัพย์สินที่นำติดตัวมาไม่ คว้าสิ่งของได้เท่าที่จะหยิบติดมือไปได้เท่านั้น

 

 

 

 

 

 

 

 

       ถึงแม้จะผ่านวิกฤติการณ์อันเลวร้ายมาได้ แต่เรือลำน้อยนี้ได้ลอยคว้างอยู่กลางทะเลอย่างไร้จุดหมายเป็นเวลาหลายวัน ทำให้คนที่อยู่ในเรือหลายชีวิตต้องพบกับความอดอยากหิวโหย เพราะเสบียงที่นำติดตัวมาซึ่งมีจำนวนเล็กน้อยได้หมดลง อีกทั้งน้ำที่มีอยู่โดยรอบก็ไม่สามารถนำมาดื่มเพื่อดับกระหายได้ ทำให้หลายคนต้องจบชีวิตลงกลางทะเลอย่างน่า

เวทนา

       ในจำนวนเรือที่ลอยละล่องเคว้งคว้างกลางทะเลนั้น มีเรือลำหนึ่งได้มีแม่กับลูกน้อยอาศัยมาด้วย แม้เธอจะผ่านพ้นภัยมรสุมมาได้อย่างปลอดภัย แต่ก็ต้องมาเผชิญกับความหิวโหยเช่นกัน ลำพังตนเองนั้นไม่เท่าไหร่ ห่วงแต่เพียงลูกน้อยที่ต้องมารับชะตากรรมอันเลวร้ายกับเธอด้วย

       

ซึ่งตอนนี้ลูกน้อยกำลังร้องไห้เพราะความหิว เสียงร้องของลูกเปรียบเหมือนมีดที่กรีดลงกลางใจของผู้เป็นแม่ ซึ่งไม่รู้จะทำอย่างไรเพื่อให้ลูกได้คลายหิว สิ่งที่แม่ให้ลูกได้ในตอนนั้น มีเพียงน้ำนมจากอกที่ยังพอประทังความหิวให้ลูกได้

          ความร้อนจากแสงแดดในตอนกลางวันแผดเผาผิวอันบอบบางของลูกน้อย ด้วยความรักความสงสาร ห่วงว่าลูก

จะได้รับความทรมาน จึงได้ดึงชายเสื้อของตนขึ้นมาเป็นกำบัง ใช้แผ่นหลังเป็นหลังคาคุ้มแดดให้ลูกได้คลายร้อน ถึงแม้ในตอนนี้หลังแม่จะปวดแสบเพราะถูกแดดแผดเผา แม่ก็ยังทนได้ เธอทนต่อไปถึงแม้หนทางข้างหน้าจะมืดมนไร้จุดหมาย ผู้คนในเรือทยอยกันสิ้นใจไปทีละคนๆ เพราะความหิวโหย แต่เธอก็บอกกับตัวเองว่า เรายังตายไม่ได้เราจะต้องประคองชีวิตให้อยู่ต่อไปเพื่อลูกน้อย

                             

เมื่อเห็นลูกมีอาการจะสิ้นใจเพราะขาดน้ำ จึงคิดว่าจะปล่อยให้ลูกตายไปต่อหน้าต่อตาไม่ได้เป็นอันขาด จะต้องหาทางช่วยลูกให้รอดตายให้ได้ คิดดังนั้นเธอจึงพยายามควานหาสิ่งต่างๆ รอบตัวอีกครั้ง ก็ไม่พบสิ่งใดเลยที่จะนำมาประทังความหิวให้ลูกได้ เมื่อเอามือคลำไปในกระเป๋าก็พบของแข็งมีคมอย่างหนึ่งนั่นคือมีด เธอจึงได้หยิบมีดเล่มนั้นขึ้นมา เธอคิดว่านี่คงเป็นวิธีสุดท้ายที่ช่วยให้ลูกมีชีวิตรอดอยู่ต่อไปได้

ในขณะที่ลูกกำลังร้องอยู่นั้น มือของเธอ

 กำมีดแน่นแล้วรำพึงกับลูกว่าลูกจ๋า ! ถึงแม่จะหาน้ำให้ลูกดื่มไม่ได้ แต่แม่ก็ยินดีที่จะสละเลือดในกายของแม่ ให้เจ้าดื่มกินแทนน้ำเพื่อคลายหิวได้แล้วเธอจึงคว้ามีดเล่มนั้นกรีดลงไปที่ข้อมือของตนเอง เมื่อเลือดไหลออกมา เธอก็รีบประคองปากแผลนั้นแตะลงไปที่ปากน้อยๆ ของลูก ด้วยความไร้เดียงสาและความหิวกระหาย เด็กน้อยจึงได้ดูดดื่มเข้าไปโดยไม่รู้ว่าหยดน้ำที่มาแตะปากของตนนั้น คือเลือดในกายของแม่

เนื่องจากแม่ได้เสียเลือดไปมากจึงทำให้ร่างกายนั้นอ่อนล้า จนในที่สุดเธอก็เป็นลมหมดสติไป เมื่อฟื้นขึ้นมาเห็นลูกน้อยยังมีชีวิตอยู่ก็ดีใจรำพึงว่า ถึงเลือดในกายของแม่จะเหือดแห้งไปจนหมด แต่ขออย่าให้ชีวิตที่แม่รักแม่ถนอมต้องจากแม่ไปเลย แม่ยินดีสละแม้ชีวิตและเลือดเนื้อเพื่อให้ลูกได้มีชีวิตรอดปลอดภัย

ในที่สุดเรือลำนั้นก็ถูกคลื่นซัดเข้าสู่ฝั่ง เมื่อถึงฝั่งทุกคนต้องตะเกียกตะกายลงจากเรือ เหลือเพียงแม่ลูกคู่นั้นที่ไม่มีใครสนใจ ถูกทอดทิ้งให้อยู่เพียงลำพัง หญิงผู้เป็นแม่ได้พยายามประคองลูกน้อยลงจากเรือด้วยความทุทักทุเล มองไปทางไหนก็ไม่มีใครสักคนที่จะช่วยเหลือได้ ด้วยความอ่อนเพลียเพราะเสียเลือดไปมาก และอดอาหารมาหลายวัน จึงไม่มีเรี่ยวแรงที่จะพยุงกายตนให้ลุกขึ้นมาได้

                                

    ส่วนลูกนั้นก็คลานออกห่างแม่ไป แม้แม่พยายามจะรั้งลูกไว้ แต่บัดนี้หูตาของผู้เป็นแม่เริ่มพล่ามัวแทบสิ้นใจอยู่แล้ว ก่อนที่เธอจะสิ้นลมได้ฝากฝังลูกกับพระแม่ธรณีเป็นครั้งสุดท้ายว่า แม่ธรณีจ๋า ! ฉันไม่อาจอยู่เลี้ยงดูลูกคนนี้ต่อไปได้อีกแล้ว ชีวิตฉันคงสิ้นลงเพียงแค่นี้ ขอฝากลูกไว้กับแม่ธรณี ขอให้แม่ธรณีโปรดคุ้มครองรักษาดูแลลูกแทนฉันด้วยเถิดแล้วเธอก็สิ้นลงที่ตรงนั้น !!!

      เย็นวันนั้นมีชาวประมงคนหนึ่งนำเรือเข้าฝั่ง ได้เห็นเด็กน้อยกำลังร้องไห้ คลานอยู่เพียงลำพัง จึงได้เข้าไปอุ้มขึ้นมา

และได้เห็นเลือดติดอยู่ที่ปากของเด็กจึง นึกเอะใจว่าคงจะเกิดเรื่องขึ้นในแถวนี้เป็นแน่ จึงได้เดินดูบริเวณใกล้ๆ ที่เด็กคลานอยู่ สักครู่หนึ่งก็ได้พบศพผู้หญิงคนหนึ่งนอนคว่ำหน้าอยู่ข้างหัวเรือ จึงได้พลิกศพของหญิงนั้นหงายขึ้น ก็ถึงกับตะลึงเมื่อเห็นที่ข้อมือมีรอยบาดแผลและคราบเลือดติดอยู่ ซึ่งเลือดที่ข้อมือนั้นก็เป็นเลือดสีเดียวกับเลือดที่ปากของเด็ก จึงทำให้ชาวประมงสันนิษฐานว่าผู้หญิงคนนี้จะต้องเป็นแม่ของเด็กอย่างแน่นอน เธอคงจะรอนแรมหลงทางมาในกลางทะเล จนน้ำและอาหารหมด ด้วยความรักและสงสารลูกนางคงสละเลือดในกายตนเพื่อให้ลูกได้คลายหิวเป็นแน่

             

ครั้นแล้วชาวประมงได้รำพึงขึ้นว่า โอ้ ! แม่นางเป็นแม่ผู้มีน้ำใจประเสริฐยิ่งนัก แม้ในโลกนี้อาจมีหญิงมากมายที่รักลูกของตนยิ่งกว่าชีวิต แต่หญิงผู้นี้ได้เสียสละครั้งยิ่งใหญ่เพื่อรักษาชีวิตลูกไว้ให้อยู่รอดปลอดภัย นางเป็นแม่ผู้มีน้ำใจแสนประเสริฐยิ่งนัก ขอให้เธอจงไปสู่สุขคติเถิด ฉันจะเป็นผู้เลี้ยงดูลูกของเธอ ให้ความรักความเอาใจใส่ให้สมกับเมื่อครั้งที่เธอยังมีชีวิตอยู่ ได้พยายามเลี้ยงลูกของเธอด้วยความทะนุถนอนรักใคร่อย่างดี ฉันจะเลี้ยงลูกของเธอให้ดีที่สุด
แล้วชาวประมงนั้นก็ได้พาเด็กน้อยกลับไปเลี้ยงดู เมื่อเด็กโตขึ้นก็ได้รบเร้าถามชาวประมงว่า ลุงจ๋า ! หนูคิดถึงแม่เหลือเกิน ลุงพอจะรู้หรือเปล่าว่า แม่ของหนูอยู่ที่ไหน หนูอยากจะพบอยากจะอยู่ใกล้ๆ แม่ หนูอยากจะเรียกแม่ ลุงช่วยพาหนูไปหาแม่หน่อยได้ไม๊จ๊ะชาวประมงเห็นว่า เด็กคนนี้โตพอที่จะรับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับตนเองได้แล้ว จึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง และพาเด็กน้อยไปที่หลุมฝั่งศพของมารดา เมื่อไปถึงหลุมฝั่งศพ เด็กน้อยก็โผเข้าไปกอดหลุมฝังศพ พร้อมกับ

ร้องไห้รำพึงรำพันว่าแม่จ๋า ! ทำไมแม่จึงได้จากลูกไปเร็วเช่นนี้ ทำไมไม่มีโอกาสอยู่ให้ลูกได้ทำหน้าที่ตอบแทน แม่ผู้เป็นผู้ที่เสียสละให้ลูกฝ่ายเดียว แล้วเมื่อไรลูกจึงจะมีโอกาสได้ทดแทนพระคุณของแม่บ้างเมื่อชาวประมงเห็นว่าหนูน้อยคร่ำครวญอยู่นานแล้ว จึงได้ไปรั้งร่างของหนูน้อยขึ้นมา ลูบหลังลูบไหล่พูดปลอบใจว่า เอาเถอะ ! ถึงแม้แม่เจ้าจะสิ้นไปแล้ว ถ้าเจ้าคิดจะตอบแทนล่ะก็ ขอให้เจ้าจงมุ่งมั่นในความดี ทำความดีในความดี ทำความดีทุกวิถีทางในชีวิตของเจ้า เมื่อขณะที่เจ้าร่ำเรียนก็ขอให้เรียนให้ดีที่สุด เมื่อเจ้าโตจะทำกิจการงานใดก็ขอให้เจ้าจงทำงานในหน้าที่ของเจ้าให้ดีที่สุด และเมื่อเจ้าจะบวชเรียนก็ขอให้เจ้าบำเพ็ญให้ดีที่สุด เมื่อแม่ของเจ้าได้รับรู้อยู่ด้วยญาณวิถีอันใด ก็คงจะชื่นใจที่สุดในการให้กำเนิด ในการประคับประคองปกป้อง ยอมสละชีวิตเพื่อเจ้าจนสามารถอยู่รอดมาได้จวบจนทุกวันนี้ แม่ของเจ้าคงจะปลื้มใจอยู่ในสุขคติโลกสวรรค์ ถึงแม้แม่เจ้าจะไม่มีชีวิตอยู่ แต่เจ้าก็ยังสามารถทำความดีให้นางรับรู้ได้

คัดมาจาก :: หนังสือพระในบ้าน
ร้านหนังสือเอกอนันต์

                                                   

หมายเลขบันทึก: 286539เขียนเมื่อ 12 สิงหาคม 2009 18:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:16 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)

เข้ามาอ่านเรื่องราวดีดี ในวันพิเศษแบบนี้ ขอบคุณครับ

เจริญพร โยมครูอิง

มารดาบิดาเลี้ยงลูกมาทั้งทางกายและทางใจ

ฉะนั้นลูกควรเลี้ยงดูท่านทั้งในทางกายคือ ปรนนิบัติรับใช้ท่านในทาง

วัตถุสิ่งของเป็นต้น

ทางใจ อย่าทำให้ท่านเดือนร้อนใจ ทุกข์ใจ จากการกระทำของลูก

เจริญพร

สวัสดีค่ะคุณ กิตติพงศ์  พลเสน

  • ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ครูอิงคงมีโอกาสได้ไปทักทายทำความรู้จักนะคะ
  • ขอบคุณค่ะที่แวะมาทักทายกัน
  • ยินดีแลกเปลี่ยนเรียนรู้นะคะ

 

กราบนมัสการพระคุณเจ้า พระปลัด เจ้าค่ะ

  • เท่าที่จำได้ ตัวครูอิงยังไม่เคยทำให้พ่อแม่เดือดร้อนเลยเจ้าค่ะ
  • เป็นลูกที่ดี รักการเรียน ไม่เคยออกนอกลู่นอกทางให้ท่านต้องรำคาญใจ
  • ครูอิงก็หวังว่า ลูก ๆ ของครูอิง ก็น่าจะไม่ทำตัวเหลวไหลให้ครูอิงต้องเป็นทุกข์
  • หนังสือ "พระในบ้าน"  เล่มบาง ๆ แต่เนี้อสาระเกี่ยวกับเรื่องพ่อแม่ล้วน ๆ เลยค่ะ รู้สึกจะหนักไปทางแม่มากกว่าค่ะ
  • ครูอิงเชื่อว่าพระคุณเจ้า คงได้อ่านจากหนังสือแล้ว
  • แต่ก็กรุณาแวะเข้ามาทักทาย ให้กำลังใจครูอิงใน "ลานดินกลิ่นหญ้าอีก
  • กราบขอบพระคุณอย่างสูงเจ้าค่ะ

สวัสดีค่ะครูอิง

แวะมาทักทายค่ะ

ขอบคุณเรื่องราวดีๆค่ะ

สวัสดีค่ะคุณมณีวรรณ

  • แวะไปปลื้มกับครอบครัวอบอุ่น
  • กับกิจกรรมดี ๆ ที่บันทึกคุณมณีวรรณมาค่ะ
  • รู้สึกว่ามีเรื่องขำ ๆ ในความสะเหร่อ เซ่อซ่า ของครูอิงด้วยหล่ะ
  • ขอบคุณค่ะที่แวะมาทักทายกัน

สวัสดี ครับ ครูอิงจันทร์

ชอบบันทึกนี้ นะครับ

 ลูกจ๋า..."ถึงแม่จะหาน้ำให้ลูกดื่มไม่ได้ แต่แม่ก็ยินดีที่จะสละเลือดในกายของแม่ ให้เจ้าดื่มกินแทนน้ำเพื่อคลายหิวได้”

ภาพและภาษา น่าจดจำเป็นอย่าง ยิ่ง

ขอบพระคุณ ครับ

ชีวิตลูกทุกคนบนโลกนี้                       ต่างก็ได้ชีวีที่แม่ให้

สละเลือดเชือดความสุขทุกข์เจียนตาย  กว่าจะคลอดลูกได้ให้ทรมาน

เมื่อเกิดมาเลี้ยงดูอยู่ชิดใกล้                ไม่ห่างไกลดูแลแม่ขับขาน

อดตาหลับขับตานอนแทบรอนราน       เพื่อดวงมาลย์เติบใหญ่แม่ให้เธอ

ทั้งชีวิตทั้งหัวใจแม่ให้หมด                 ยอมรันทดอดยากรักเสมอ

ลูกต้องการสิ่งใดๆแม่ให้เธอ                มีไหมเออลูกกตัญญูรู้พระคุณ 

สวัสดีค่ะ  แสงแห่งความดี

  • ขอบพระคุณค่ะ

        "อันมือไกวเปลไซร้แต่ไรมา  คือหัตถาครองภิภพจบสากล"

  • เนื้อเรื่องนี้แสดงให้เห็นว่า คนเป็นแม่สละได้ทุกอย่างเพื่อลูก
  • ถึงแม้จะมีแม่บางคนที่ชัวช้า ไม่เลี้ยงลูก
  • แต่นั่นเป็นเพียงส่วนน้อย
  • มีความสุขเสมอ ๆ นะคะ
            

สวัสดีค่ะ . นายวิโรจน์ พูลสุข

เรื่องเดียวกันท่านแต่งได้หลายแนวคิด  ชี้ถูกผิดหลากมุมมองของปัญหา

มีมุมมองต่างคนอื่นชื่นอุรา      เรานี้หนาชอบแนวคิดจึงติดตาม

วิสัยทัศน์กว้างไกลในรอบรู้     เฉกเช่นครูแห่งแผ่นดินถิ่นสยาม

คือคุณค่าควรคบค้าค่าเพชรงาม    ล้างสิ่งทรามเพื่อมวลชนเถิดคนดี

ยี่สิบห้าปีก่อนตอนพบท่าน           ภาพตระการติดตาใจไม่หน่ายหนี

เหมือนมีญาณบอกแต่ต้นเจอคนดี  ให้ท่านนี้เป็นฮีโร่ในดวงใจ
           

เมื่อคืนก็ฟังเพลงนี้ค่ะ ฟังแล้วก็ซึ้งมากๆ ค่ะ

.. ความเป็นแม่ที่ยิ่งใหญ่ เป็นรักที่ไร้เงื่อนไข จริงๆ ค่ะ ...

มีความสุขนะคะพี่อิงจันทร์

  • ฟังเพลงแล้วน้ำตาจะไหล  คิดถึงแม่ค่ะพี่อิงตอนหนูตีลังกาออกมาจากท้องแม่อายุตั้ง 38 ปีค่ะ ท่านนึกว่าจะไม่มีลูกอีกแล้ว  พอมีหนูอีก ใคร ๆ ก็รักค่ะเพราะหนูน่ารักว่านอนสอนง่าย ทั้งเพื่อนของพ่อและแม่หนูเรียกท่าน ๆ ว่าพ่อ-แม่หมดเลยค่ะ ถึงแม้ว่าตอนนี้หนูยังไม่แต่งงานยังไม่มีลูก   แต่หนูยังจำได้เสมอว่าพ่อ - แม่รักเรามากแค่ไหนค่ะพี่อิง (ไม่ใช่ว่าฝืนธรรมชาตินะคะ  อาจยังไม่เจอพระเอกตัวจริงก็เท่านั้นเองค่ะ)ขอให้ทุกท่านที่มีลูกจงรักและดูแลเขาให้ดีนะคะ
  • มีรูปมาฝากค่ะ   ดูภาพขนาดใหญ่                        
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท