นับจากมติคณะรัฐมนตรีฉบับวันที่ ๔ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๔๖
เกี่ยวกับการใช้สื่อของรัฐเพื่อส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้ของเด็ก
เยาวชนและครอบครัว ได้ถูกกำหนดขึ้นและมีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ ๑
มกราคม พ.ศ.๒๕๔๗ เป็นต้นมา
หลายคนเริ่มหั่นวิตกว่ามติคณะรัฐมนตรีฉบับนี้จะนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายที่เป็นเพียงเสือกระดาษเท่านั้น
ไม่ได้นำมาสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างเกี่ยวกับรายการโทรทัศน์เพื่อส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้ของเด็ก
เยาวชนและครอบครัวอย่างแท้จริงและยั่งยืน
หลายคนเริ่มสงสัยว่า
“การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง”
เพื่อให้เกิดรายการโทรทัศน์เพื่อส่งเสริมเพื่อส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้ของเด็ก
เยาวชนและครอบครัวอย่างแท้จริงและยั่งยืนเป็นอย่างไร
???
จากการทำงานเชิงวิจัยเพื่อแสวงหาองค์ความรู้ในการพัฒนารายการโทรทัศน์ตามมติคณะรัฐมนตรีฉบับนี้ของคณะผู้แสวงหาองค์ความรู้และเครือข่ายที่เกี่ยวข้องกว่า
๑๗๐ คน หรือ กว่า ๖๖ องค์กรนับแต่พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๔๖ เป็นต้นมา
ได้รวบรวมแนวความคิดในการพัฒนารายการโทรทัศน์เพื่อเด็กฯจนในที่สุดได้พัฒนามาเป็น
ชุดโครงการวิจัยและพัฒนารายการโทรทัศน์เพื่อส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้ของเด็ก
เยาวชนและครอบครัว หรือ TV4Kids
ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนการสร้างเสริมสุขภาพหรือ
สสส.
หลายคนก็ยิ่งเกิดความกังขาเพิ่มขึ้นว่า ชุดโครงการวิจัยและพัฒนาฯ
ชุดนี้จะเข้ามาทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างได้อย่างไร
???
นับแต่มีการวางแผนครอบครัวในรูปของมติคณะรัฐมนตรี
จนกระทั่งมีการพบแพทย์ (สสส.) เพื่อให้เกิดการตั้งครรภ์ ตัวอ่อน หรือ
โครงสร้างในการพัฒนารายการโทรทัศน์เพื่อเด็กฯ อย่างยั่งยืน
ก็ได้มีการพัฒนาขึ้น ซึ่งการพัฒนาตัวอ่อนนี้มีโครงสร้างหลายประการ
กล่าวคือ
จุดตั้งต้นของการพัฒนา “ตัวอ่อน”
ที่สำคัญก็คือ การเกิดขึ้นและการพัฒนาด้านสมอง
โดยในการพัฒนารายการโทรทัศน์เพื่อเด็ก เยาวชนและครอบครัวนั้น
จำเป็นที่จะต้องมีหัวสมองทางวิชาการ
โดยรวบรวมนักวิชาการและผู้มีประสบการณ์ในสายอาชีพ
ตลอดจนบุคคลที่เกี่ยวข้องในการจัดทำโครงการศึกษาวิจัยเชิงสังคมเพื่อเข้ามาทำหน้าที่เชิงวิชาการเกี่ยวกับการพัฒนารายการโทรทัศน์เพื่อเด็กฯ
และจุดนี้เองจะทำให้การประสานกันระหว่างองค์ความรู้ด้านการพัฒนารายการโทรทัศน์เพื่อเด็กฯที่กระจัดกระจายเข้ามารวมศูนย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ความสำคัญของสถาบันด้านการวิจัยและพัฒนารายการโทรทัศน์
ในรูปแบบขององค์กรในลักษณะเต็มเวลา เรียกว่า “สถาบัน”
จึงเปรียบเสมือนของหัวสมองของตัวอ่อนที่เป็นโครงสร้างในการพัฒนารายการโทรทัศน์เพื่อเด็กฯ
นอกจากจะต้องมีสมองแล้ว กลไกเชิงโครงสร้างนี้จำเป็นต้องมี
“แขน” เพื่อใช้ในการพัฒนารายการโทรทัศน์เพื่อเด็กฯ
โดยแขนซ้าย ก็คือ
เกณฑ์ในการชี้วัดระดับคุณภาพของเนื้อหารายการ
ที่มิใช่เป็นแต่เพียงการชี้วัดระดับคุณภาพโดยอาศัยระดับความนิยมของผู้บริโภคเป็นตัวชี้วัดคุณภาพของรายการ
แต่การเข้าไปเพ่งดูถึงเนื้อหาของรายการโดยพิจารณาที่คุณภาพของเนื้อหา
หรือที่เรียกว่า Quality Rating เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง
ส่วนแขนขวา ก็คือ รูปแบบที่เหมาะสมในการนำเสนอรายการ
เนื้อหาและการนำเสนอเนื้อหาผ่านทางรูปแบบของรายการเป็นสิ่งที่คู่กันเสมอ
รายการที่มีเนื้อหาที่ดี แต่หากขาดรูปแบบการนำเสนอที่ดี
ก็ไม่อาจทำให้เป็นที่ดึงดูดใจของผู้บริโภคได้
ยิ่งกลุ่มผู้บริโภคเป็นเด็ก เยาวชนด้วยแล้ว
รูปแบบการนำเสนอรายการที่น่าสนใจจึงไม่อาจถูกละเลยได้
กลไกเชิงโครงสร้างนี้ไม่อาจยืนและเดินได้ หากขาด ส่วนที่เรียกว่า
“ขา”
ในการจัดทำหรือผลิตรายการโทรทัศน์เพื่อส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้ของเด็ก
เยาวชนและครอบครัวนี้
ผู้ผลิตส่วนใหญ่มักจะประสบปัญหากับการไม่อาจยืนอยู่บนระบบเศรษฐกิจแบบเสรีนิยมได้
ดังนั้นผู้ผลิตส่วนใหญ่จึงมักไม่อาจต้านทานต่อผู้ผลิตรายใหญ่ที่สามารถครองใจผู้บริโภคด้วยความนิยมเชิงปริมาณได้
ดังนั้นผลิตรายเล็ก เงินทุนน้อย
ที่มุ่งหวังสร้างรายการโทรทัศน์เพื่อเด็กๆจึงล้มหายตายจากกันไป
ดังนั้น การต่อเติมขาเทียมให้กับผู้ผลิตรายการ
โดยใช้มาตรการด้านภาษี และมาตรการด้านเงินทุน
จึงเป็นหนทางแห่งการเสริมสร้างกลไกให้ผู้ผลิตรายการเพื่อเด็ก ฯ
สามารถยืนหยัดและก้าวต่อไปข้างหน้า
หลังจากที่ตัวอ่อนเชิงโครงสร้างนี้ได้รับการพัฒนาด้านสมอง แขน ขา แล้ว
ระบบการไหลเวียนของเลือดเป็นสิ่งสำคัญอีกส่วนหนึ่ง
หากว่าเรากำลังพูดถึงเด็ก เยาวชนและครอบครัว
คงขาดไม่ได้ที่จะต้องมีการไหลเวียนของเด็ก เยาวชนและครอบครัวในร่างกาย
เรากำลังพูดถึงกระบวนการการมีส่วนร่วมของเด็ก
เยาวชนและครอบครัว
ในระหว่างการเจริญเติบโตของตัวอ่อนนี้
จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีอาหารเพื่อไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกาย
เพื่อให้การพัฒนาระบบโครงสร้างนั้นเป็นไปอย่างสมบูรณ์
การเข้าไปศึกษาประสบการณ์ในการจัดการของต่างประเทศ
และประสบการณ์ในการจัดการในประเทศไทย
จึงเปรียบเสมือนกับอาหารชั้นยอดที่จะทำให้ตัวอ่อนนี้มีพัฒนาการด้านการพัฒนารายการโทรทัศน์เพื่อเด็กๆอย่างสมบูรณ์
จากทั้งหมดข้างต้น
ถือได้ว่าเราได้อวัยวะอันเป็นโครงสร้างเกือบสมบูรณ์แบบแล้ว
สิ่งที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่ากันก็คือ “ระบบเอ็นยึด”
ซึ่งจะยึดเอาอวัยวะต่างๆเข้ามาอยู่ด้วยกัน
การประชุมร่วมกันเพื่อสร้างประชาคมนักวิจัยและนักพัฒนา
เพื่อผนวกเอา “องค์ความรู้หรืออวัยวะ”
ต่างๆเข้ามาติดกันอย่างเป็นระบบระเบียบ
สิ่งสุดท้าย ที่สำคัญที่สุดก็คือ ลมปราณ หรือ วิญญาณ
ของโครงสร้างนี้
เป็นที่น่าแปลกใจที่ลมปราณหรือวิญญาณนี้ไม่ได้เกิดจากลมปราณ
หรือวิญญาณของใครคนใดคนหนึ่งเท่านั้น แต่เกิดจากลมปราณของ
“เครือข่าย” ดังนั้น
การเชื่อมต่อเครือข่าย หรือ Network Connection
ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนารายการโทรทัศน์เพื่อส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้ของเด็ก
เยาวชนและครอบครัว
เพื่อให้เกิดลมปราณหรือวิญญาณร่วมกันในรูปแบบของ”สัญญาประชาคม”เพื่อการพัฒนารายการโทรทัศน์เพื่อเด็กฯ
ถือเป็นหัวใจสำคัญที่สุดของเรื่องอันจะทำให้ตัวอ่อนนี้คลอดออกมาได้และมีชีวิตที่สมบูรณ์
ณ วันนี้ “ตัวอ่อน”
ในการพัฒนารายการโทรทัศน์เพื่อส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้ของเด็ก
เยาวชนและครอบครัวได้คลอดออกมาแล้ว
โดยตัวอ่อนนี้ใช้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า
ชุดโครงการวิจัยและพัฒนารายการโทรทัศน์เพื่อส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้ของเด็ก
เยาวชนและครอบครัว หรือมีชื่อเล่นว่า TV4Kids
ภาพและเรื่องราวของเด็กน้อยคนนี้
ถูกถ่ายทอดและนำเสนอให้สังคมได้รับรู้ผ่านทางเว็บไซต์ www.tv4kids.org
ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นห้องภาพไว้บอกเล่าเรื่องราวที่เด็กน้อยคนนี้ได้พบเจอระหว่างการดำเนินชีวิต
และตอนนี้เด็กน้อยคนนี้กำลังเริ่มหัดเดิน หัดพูด
และกำลังเติบโตขึ้นเพื่อกลายเป็น “เขา” หรือ
“เธอ”
ที่จะมาพัฒนารายการโทรทัศน์เพื่อส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้ของเด็ก
เยาวชนและครอบครัวได้อย่างสมบูรณ์แบบในไม่ช้านี้
อย่าลืมเฝ้าดูการเติบโตของเด็กน้อยคนนี้ต่อไป...
อ.โก๋ อ่านความเห็นของท่านอาจารย์วิจารณ์ต่อ TV4Kids แล้วยังคะ
http://gotoknow.org/archive/2005/12/26/09/42/26/e10663
เรายกพวกไปเยี่ยมท่านอาจารย์อีกทีไหมคะ ?
ชวนอาจารย์สายฤดี อาจารย์สีน้อย คุณหมอพรรณ คุณจิราพร ฯลฯ ไปทดลองทฤษฎีกันกับท่านอาจารย์วิจารณ์กันไหมคะ ?
เอ..หรือจัดที่สถาบันเด็กฯ เชิญคนสัก ๒๐ คน หลังทดลอง เชิญท่านอาจารย์วิจารณ์ ให้ข้อสังเกตและความเห็นต่อการทดลอง .....
หรือไกลไป...
เอาที่ มธ.ท่าพระจันทร์ ? หรือที่ กก.สิทธิ ?