โรคลูกหนู


สมัยเด็กๆ จำได้ว่าเคยเป็นโรคลูกหนู (ก้อนลูกหนูหรือต่อมน้ำเหลืองอักเสบ) ที่บริเวณใต้คาง  ซึ่งไม่ได้เป็นมานานมากแล้ว แต่ตอนนี้กลับมาเป็นอีกครั้ง มีก้อนกลมๆ ที่ใต้คางด้านซ้าย ค่อนข้างบวมและเจ็บคะ

       สมัยก่อน เป็นทีไร แม่ต้องรีบพาไปหาปู่ ให้ปู่เป่า/พ่นให้ อาจจะเป็นไสยศาสตร์นิดหน่อย แต่ทุกครั้งที่ปู่เป่าให้ก็หายทุกที ตอนแรกๆ ก็กลัวเชื้อโรค เพราะปู่เคี้ยวหมากด้วย  แต่หนึ่งก็กลัวเจ็บและกลัวไม่หายมากกว่า ปู่จะเป็นหมอพื้นบ้าน (แต่ไม่ได้จบหมอนะคะ) ช่วยรักษาคนป่วย ไม่ว่าจะเป็น ปวดฟัน เป็นไข้ มาหาปู่แล้วก็จะหายทุกราย  ชาวบ้านแถวนั้นจะเรียกปู่ว่า หมอจารย์ใบ เพราะปู่เคยบวชมาก่อน และชื่อใบ

       เมื่อมาหาปู่ จะต้องเตรียมดอกไม้ธูปเทียนและเสียค่ายกครู (ตามกำลังศรัทธา) หลังจากฟังอาการแล้ว ปู่จะเดินไปที่หลังบ้าน หรือไม่ก็ห้องเก็บสมุนไพร แล้วเดินออกมาพร้อมสมุนไพรบางอย่าง  จากนั้นก็นำมาเคี้ยวๆ โดยมีคาถาพูดพึมพำนิดหน่อย และพ่นเพี้ยงใส่ที่คางหนึ่ง ประมาณ 1-2 วัน ปรากฏว่าโรคลูกหนูก็หายจริงๆ คะ แปลกเหมือนกัน

       แต่ตอนนี้ปู่ไม่อยู่แล้ว ไม่มีใครรักษาโรคลูกหนูให้แล้ว ปู่พยายามที่จะถ่ายทอดวิชาให้ลูกๆ แต่ก็ไม่มีใครสนใจ พ่อก็ไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้ พ่อเชื่อหมอแผนปัจจุบันมากกว่า เชื่อวิทยาศาสตร์มากกว่า ส่วนอาๆ ลุงๆ ก็เช่นเดียวกัน 

       ห้องสมุนไพรตอนนี้ก็กลายเป็นห้องเก็บของไปแล้ว และตอนนี้ก็กำลังจะทุบบ้านเก่าทิ้ง เพื่อสร้างบ้านหลังใหม่ สำหรับสวนหลังบ้านก็นำดินมาถมที่จนหมดแล้ว น่าเสียดายคะ

       มาทำความรู้จักกับโรคลูกหนูคะ

       โรคลูกหนู หรือ ทอลซิลอักเสบ สาเหตุเกิดจากเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย ซึ่งมีอยู่หลายร้อย ติดต่อกันง่าย โดยการหายใจ ไอ หรือจามรดกัน

อาการ

แบบเฉียบพลัน จะมีไข้สูงทันทีทันใด ปวดศรีษะ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ครั่นเนื้อครั่นตัวหรือหนาวสะท้าน รู้สึกแห้งผากในลำคอหรือเจ็บคอจนกลืนน้ำหรืออาหารลำบาก อ้าปากดูจะพบว่ามีหนองจางๆ เหลืองๆ เป็นจุดๆ อยู่บนต่อมทอนซิล ซึ่งเขี่ยออกได้ง่ายบางครั้งจะสังเกตเห็นมีก้อนและเจ็บที่บริเวณใต้คางข้างใด

ข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง ซึ่งบางคนเรียกว่าลูกหนูนั่นเองค่ะ

แบบเรื้อรังผู้ป่วยจะเจ็บคอบ่อยๆ เบื่ออาหาร ไอแห้งๆ หรือมีเสมหะเล็กน้อย มีไข้ต่ำๆ ต่อมทอนซิลจะโต ผิวขรุขระแต่ไม่แดงมาก ผนังหลอดคอแดงเรื่อๆ และสะท้อนแสงไฟต่อมน้ำเหลืองที่คางมักจะโตและเจ็บเรื้อรัง ซึ่งหากไม่รักษาจะเกิดผลแทรกซ้อนตามมา เช่น อาจทำให้เกิดไข้รูมาห์ติก หน่วยไตอักเสบ หรืออาจทำให้ติดเชื้อในเลือด เกิดโลหิตเป็นพิษได้ค่ะ

การรักษา ในรายที่มีอาการไม่มาก ให้ผู้ป่วยกินอาหารอุ่นๆ และดื่มน้ำหวานบ่อย และกลั้วคอด้วยน้ำอุ่นๆ วันละ 2-3 ครั้งในรายที่ทอนซิลอักเสบเป็นหนองผู้ป่วยจะต้องได้รับยาปฏิชีวนะอย่างน้อยๆ 10 วัน เพื่อป้องกันไม่ให้โรคแทรกซ้อน สำหรับในรายที่มีการอักเสบซ้ำๆ บ่อยๆ 6-7 ครั้งต่อปี หรือรักษาโดยการใช้ยาแล้วไม่ได้ผล แพทย์อาจพิจารณาผ่าตัดทอนซิลออกเป็นรายๆ ไป

ทอนซิลอักเสบ เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนที่สามารถป้องกันได้ โดยรักษาสุขภาพอนามัยให้แข็งแรงอยู่เสมอ พักผ่อนมากๆ กินอาหารที่มีประโยชน์ออกกำลังกายสม่ำเสมอ หากมีอาการเป็นไข้ไม่สบายไม่ควรซื้อยากินเองนะคะ ไปพบแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อให้การรักษาตั้งแต่เริ่มเป็น โรคจะไม่ลุกลามไปจนเกิดอาการต่อมทอนซิลอักเสบชนิดรุนแรงอย่างแน่นอนคะ

ขอขอบคุณข้อมูลจากกรมส่งเสริมสุขภาพ

น้ำหนึ่ง

5 ส.ค. 52

 

หมายเลขบันทึก: 283492เขียนเมื่อ 5 สิงหาคม 2009 16:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 23:35 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (17)

ทุกคนไม่อยากเป็นโรคม้่นออกกำลังกายและหากมีปัญหาอะไรติดต่อคุณน้ำหนึ่งครับมีเคล็ดลับด้วยครับ ขอให้มีบทความดีๆอีกนะครับขอให้กำลังใจครับ

เป็นคำแนะนำที่ดีมากค่ะ

ตอนนี้ผมก็เป็นอยู่ ผมอยากจะทราบอาการและการรักษาครับ

ตอนนี้เราก็เป็นอยู่

ตอนนี้เป็นก้อนเล็กๆที่คอด้านซ้ายไม่รู้ใช่หรือเปล่า เจ้บด้วย

 

หนุเป็นโรคลูกหนูค่ะ

ก้เป้นยุอ้ะค้ะตอนนี้ แต่มันเป้นหลั ง หูอ้ะค้ะ !

คนสวย อ่ะ มีไรป่ะ

ตอนนี้เค้าก็เป็น 


เป็นมาหลายวันแล้วเมื่อไหร่จะหาย

เป็นตอนนี้ ทำยังไงดีฮ้ะ มันจะมีเม็ดเหลืองๆอยู่ใต้ลิ้นด้วยเอามันออกมาจากใต้ลิ้นมันก็จะหายไปแต่ก็จะกลับมาเป็นในรอบ 1 ปีอ่ะ

เซงมากมีวิธีแก้ให้หายขาดไหม

ผมก็เป็นครับตอนที่มาโพสตอนนี้ ตอนเเรกผมก็นึกว่าเป็นโรคร้ายเเรงมากๆ อย่างมะเร็ง เนื้องอก ผมก็นอนเเทบไม่หลับ พอมาดูก็โล่งใจไปนิสครับจะดูเเลตัวเองเเว้วววววววววววววววว

ตอนนี้หนูก็เป็นค่ะโรคนี้น่ากลัวมากมั้ยคะ

ตอนนี้หนูเป็นก้อนเท่าหัวแม่มือได้คะ ที่ลำคอข้างขวา เจ็บมากเวลากดลงไป และมีอาการเจ็บคิเวลากลืนอาหารหรือกลืนน้ำลายลงไป และเวลากลางคืนตัวจะร้อนมากแต่กลางวันไม่มีอาการตัวร้อน แต่จะเจ็บคออย่างเดียวคะ

เป็นลูกหนูขนากตั้งท้องเป็นอันตรายไหมค่ะ

มีก้อนกลมๆตรงใต้คางอันตรายไหมคะ

เราเคยเป็นตอนเด็กๆจำได้ลางๆทาปูนหรือแป้งที่เคยเป็นและทัดดอกไม้แดง ดอกชบาไว้ที่หูสองสามวันหายค่ะ วันนี้เราเหมือนจะเป็นรึเปล่าเราก็ลังเลหาดอกไม้แดงไม่ได้เลย เดี๋ยวไปถามแม่และมาเม้นใหม่ค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท