โรคมะเร็งตับ ภัยใกล้ตัวจากการกินอาหารสุกๆ ดิบๆ


โรคมะเร็งตับ ภัยใกล้ตัวจากการกินอาหารสุกๆ ดิบๆ

โรคมะเร็งตับ ภัยใกล้ตัวจากการกินอาหารสุกๆ ดิบๆ  

โรคมะเร็งตับนับเป็นปัญหาสำคัญของสาธารณสุขไทย ที่เกิดจากพฤติกรรมการกินอาหารที่ผิดสุขลักษณะของประชาชน และนับวันยิ่งจะมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น รายละเอียดติดตามจากรายงาน
สถาบันมะเร็งแห่งชาติเปิดเผยสถิติการเกิดโรคมะเร็งตับของประเทศไทย พบในชาย 80 คน และหญิง 40 คนต่อประชากร 100,000 คน ในขณะที่ประเทศแถบตะวันตกพบเพียง 1 คน ต่อประชากร 100,000 คนเท่านั้น ทำให้ไทยมีสถิติเป็นมะเร็งตับชนิดเซลล์ท่อน้ำดีมากที่สุดในโลก
นั่นเป็นคำยืนยันของ นายแพทย์ธีรวุฒิ คูหะเปรมะ ประธานมูลนิธิสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ซึ่งสาเหตุหลักของโรคมะเร็งตับชนิดเซลล์ท่อน้ำดีที่คนไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นกันมาก เนื่องมาจากพยาธิใบไม้ตับ ซึ่งเป็นพยาธิที่มีอยู่ในปลาน้ำจืดมีเกล็ด เช่น ปลาตะเพียนทราย ปลาสร้อยนกเขา ปลาสูตร และปลากะมัง รวมถึงสารไนโตรซามีนที่ไม่ควรเกิน 125 มิลลิกรัมต่อเนื้อ 1 กิโลกรัม ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งที่พบในอาหารพวกโปรตีนหมัก เช่น ปลาร้า ปลาส้ม หมูส้ม แหนม ฯลฯ และอาหารพวกเนื้อสัตว์ที่ผสมดินประสิว เช่น กุนเชียง ไส้กรอก เนื้อเค็ม และปลาเค็ม
พฤติกรรมการบริโภคของชาวบ้านในแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่เชื่อกันว่าใช้ความเปรี้ยวจากน้ำมะนาว และไข่มดแดงทำให้อาหารสุกนั้น เป็นพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อโรคโดยไม่รู้ตัว อย่าง นายแสน หลักชัย วัย 51 ปี ชาวสกลนคร ที่เพิ่งรู้ว่าพฤติกรรมการกินของเขาทำให้ทุกวันนี้ต้องทุกข์ทรมานกับโรคมะเร็งตับชนิดเซลล์ท่อน้ำดีระยะสุดท้าย และได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินมากินสุกแล้ว ซึ่งรสชาติของอาหารไม่ต่างไปจากเดิมและมีความปลอดภัยกับร่างกายมากกว่า
สำหรับอาการของผู้ป่วยมะเร็งตับชนิดเซลล์ท่อน้ำดี นายแพทย์บัญชา ตันชวลิต ศัลยแพทย์ ศูนย์มะเร็งอุดรธานี ระบุว่า อาการของโรคมะเร็งตับชนิดเซลล์ท่อน้ำดี เริ่มต้นด้วยอาการเบื่ออาหาร แน่นท้อง ท้องผูก อ่อนเพลีย น้ำหนักลด และมีไข้ต่ำ ๆ ปวดหรือเสียดชายโครงด้านขวา ตัวเหลือง ตาเหลือง ท้องโต และบวมบริเวณขาทั้ง 2 ข้าง ซึ่งมะเร็งตับชนิดนี้ในระยะเบื้องต้นทำการตรวจพบได้ยาก เมื่อตรวจพบจะอยู่ในระยะสุดท้ายแล้ว ซึ่งการรักษาผู้ป่วยระยะสุดท้ายอย่างกรณีนายแสน ยังคงต้องเจาะท่อเพื่อระบายน้ำดีออกทางช่องท้อง และการรักษายังคงเป็นเพียงให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นเท่านั้น ซึ่งไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้
ทั้งนี้ประชาชนทั่วไปหากไม่อยากทุกข์ทรมานกับโรคมะเร็งตับชนิดเซลล์ท่อน้ำดีควรปรับเปลี่ยนทัศนคติที่ผิด ๆ ลด ละ เลิก พฤติกรรมการรับประทานสุก ๆ ดิบ ๆ และควรมาพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพเป็นระยะ

 

ที่มา:http://thainews.prd.go.th

คำสำคัญ (Tags): #มะเร็งตับ
หมายเลขบันทึก: 281764เขียนเมื่อ 31 กรกฎาคม 2009 12:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 18:56 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (18)

คนไข้ ที่กินปลาดิบ เกือบทั้งหมด ไม่ได้ยาถ่ายพยาธิครับ

ไม่มีนโยบาย ถ่ายพยาธิในคนกินปลาดิบครับ

หากได้ยาถ่ายพยาธิเป็นประจำ อาจทำให้

การเกิดมะเร็งตับลดลงได้ครับ

ยา praziquantel อยู่ รพ. เหลือ หมดอายุประจำครับ

สวัสดีครับ

ดีใจที่มีการช่วยแพร่ข่าว เรื่องมะเร็งกับการกินอาหาร(โดยเฉพาะปลา)สุกๆดิบๆ เพราะปลาพวกติดอาจมีพยาธิปนหรือติดมากับตัวปลา

ส่วนการกินยา Praziquantal เป็นาฆ่าพยาธิ ก็จริงอยู่

แต่จะให้ดีที่สุด ต้องงดการกินอาหารสุกๆดิบๆ เพราะหากยังกินอาหารแบบนี้อยู่ โอกาสติดพยาธิ ก็สามารถกลับมาได้อีก

มีการศึกษาพบว่า การติดพยาธิซ้ำๆ ทำให้เกิดการอักเสบซ้ำ เมื่อเกิดการอักเสบบ่อยครั้ง จะเพิ่มโอกาสการเป็นมะเร็ง ครับ

ขอบคุณมากครับที่ให้ข้อมูลความรู้

ยินดีมากค่ะ

ขอบคุณทุกท่านที่ร่วมแสดงความคิดเห็นนะคะ

สำหรับเรื่องการรณรงค์งดกินอาหารสุกๆดิบๆในภาคอีสานของเรานี้คงต้องใช้เวลากันยาวนานแน่ๆค่ะกว่าที่จะมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

ไม่อยากเชื่อเลยค่ะว่าประเทศไทย(โดยเฉพาะเขตภาคอีสาน)จะมีผู้ป่วยมะเร็งท่อน้ำดีเป็นอันดับ 1 ของโลกซะแล้ว

ตอนนี้ศูนย์มะเร็งอุดรธานีจัดกิจกรรมรณรงค์ป้องกันมะเร็งตับและท่อน้ำดีค่ะ

เริ่มต้นจากบุคคลากรภายในศูนย์ฯก่อนค่ะ

- จัดอบรมความรู้เจ้าหน้าที่ทุกคน

- ให้เจ้าหน้าที่ทุกคนเซ็นต์พันธะสัญญา งดกินอาหารที่เสี่ยงต่อการเกิดโรค

- ตรวจ stool exam

ฯลฯ

สวัสดีคะตอนนี้คุณพ่อดิฉันอายุ67ปีกำลังป่วยด้วยโรคมะตับ หมอบอกว่าอยู่ในระยะที่3 อยากได้คำแนะนำจากผู้รู้คะ ว่าจะรักษาที่โรงพยาบาลใหน ที่เชี่ยวชาญในด้านนี้ อยากทราบด่วนมากคะ ขอบคุณมากคะ

สวัสดีค่ะคุณกันธิมา

ถ้าทราบว่าเป็นมะเร็งตับระยะไหนแสดงว่าแพทย์ผู้แจ้งผลการรักษาน่าจะ

แนะนำแผนการรักษาคร่าวๆแล้วใช่ป่าวคะ

คุณกันธิมาต้องการทราบโรงพยาบาลที่มีแพทย์เชี่ยวชาญเฉพาะทาง

มีหลายโรงพยาบาลที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ค่ะ

ไม่ทราบว่าคุณกันธิมาอยู่ที่จังหวัดไหนคะ

ถ้าอยู่ในกทม.ก็มีที่ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ

ต่างจังหวัด ศูนย์มะเร็งอุดร ศูนย์มะเร็งอุบล

โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยก็มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากค่ะ

เช่น รพ.ศรีนครินทร์ (ขอนแก่น) รพ.ศิริราช รพ.รามา รพ.ราชวิถี

และมีเครื่องมือทันสมัยด้วย

เอาเท่าที่รู้จักดีกว่านะคะ ทำงานที่ศูนย์มะเร็งอุดรอ่ะค่ะ

ที่ศูนย์มะเร็งอุดร มีแพทย์เฉพาะทาง onco med =>พญ.กฤติยา (แพทย์เคมีบำบัด)

ศัลยแพทย์ onco =>นพ.รวินท์ และ พ.ท.นพ.บัญชา

พญ.ผลินท์ => รังสีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการทำ RFA

ไม่แน่ใจว่าต้องการข้อมูลแบบไหนอ่ะค่า

อยากทราบรายละเอียดข้อมูลบริการตรวจสุขภาพประจำปีของศูนย์ค่ะ

สวัสดีค่ะคุณจาริ รายละเอียดการตรวจสุขภาพประจำปี ที่ลิงค์นี้ค่ะ ^____^

ขอบคุณที่แวะมาทักทายนะคะ ^^

สวัสดีคุณหมอฮานะ

อั่นคุณหมอคับ อาหารสุกๆดิบๆ กินแล้วเป็นพยาดบ้อคับ แล้วตำหมากฮุ่งเหิ่มบ้านเฮา จะบ่อได้เอาไปขั่วก่อนบ้อคับ จั่งจะกินได้ มันกะสุกๆดิบๆ คือกันเดคับ

สวัสดีค่ะคุณหม่อมนักบิณ

พยาธิจะอยู่ในปลาน้ำจืดมีเกล็ดค่ะ ถ้าเราจะกินตำบักหุ่ง ใส่ปลาร้า ก็คงต้องทำให้ปลาร้าสุกก่อน

แต่ไม่ต้องทำให้บักหุ่งสุกก็ได้ค่ะ อิอิ ถ้าบักหุ่งสุก ก็เอามาตำบ่แซ่บสิค้า 555

ขอบคุณสำหรับความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติ(เหมือนผู้พิทักษ์โลกยังงัยยังงั้นขอรับ)

แหะๆ ท่านอาจารย์กู้เกียรติ มาสำนวนผู้พิทักษ์โลกซะงั้น ฟังดูยิ่งใหญ่อลังการไงไม่รู้อ่ะค่า อิอิ

ขอบคุณที่แวะมาทักทายค่ะ ^^

สวัสดีหมอฮานะ

ถ้าเป็นพยาธิใบไม้ในตับทำอย่างไรถึงจะหาย หมอฮานะ กินยาก็หายค่ะ กินยาก็แพง ไม่มีเงินซื้อ เอทำอย่างไรดีนะหมอฮานะคิด หม่อมนักบิณเลยบอกว่าไม่ยาก ไปขอตัวหม่อนกับคุณยายปล่อยลงไปในท้อง เดี๋ยวมันก็ไปกินใบไม้หมด เราก็ไม่เป็นอีก 6666

แหม..คุณหม่อมนักบิณมามุขนี้ ฮา..อีกแล้วนะคะ

จริงๆแล้ว ถ้าเป้นพยาธิใบไม้ตับ แล้วเราเข้าใจว่าแค่กินยาถ่ายพยาธิก็หาย นั้น ไม่ใช่เลยค่ะ

เพราะมะเร็งท่อน้ำดีเกิดจากการติดเชื้อพยาธิซ้ำๆ ได้เช่นกัน ถึงแม้เราจะกินยาถ่ายพยาธิไปแล้ว

ในตัวเราไม่มีพยาธิ แต่พิษของพยาธิที่เคยอยู่ในตัวเรามันยังคงอยู่ค่ะ

เอางี้ เล่าให้ฟังคร่าวๆ เวลาเรากินของดิบๆสุกๆ(โดยเฉพาะปลาน้ำจืดมีเกล็ด) มีโอกาสติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับ

เมื่อพยาธิใบไม้ตับเข้าไปอยู่ในตัวเรา มันจะต้องดูดอาหารจากเราใช่ป่าวคะ

ทีนี้เวลามันจะเคลื่อนที มันจะใช้ปากเจาะบริเวณผนังท่อน้ำดีของเรา

และปล่อยสารบางชนิดทีทำให้เกิดการหนาตัวขึ้นของผนังท่อน้ำดีค่ะ ถ้าแค่นี้ ยังไม่เกิดเป็นมะเร็งค่ะ

แต่เมื่อเรากินอาหารที่มีไนโตรซามีน ได้แก่อาหารหมักดอง ปลาร้า แหนม หรือพวกกุนเชียง ฯลฯ เข้าไปด้วย

คราวนี้จะก่อให้เกิดความผิดปกติของเซลได้ค่ะ ทีนี้กลับมาที่ถึงกินยาถ่ายพยาธิ แต่ผนังท่อน้ำดีที่หนาตัวขึ้นนั้นก็ไม่ได้ยุบลงไปค่ะ

ยิ่งถ้าเราติดเชื้อพยาธิซ้ำเข้าไปอีก ก็จะเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้นอีกด้วยค่ะ

จะเห็นว่ากลไกการเกิดมะเร็งต้องใช้เวลานาน แต่ถ้าดูดีๆเราจะพบว่าเราสามารถป้องกันได้ค่ะ

แหะๆๆๆ ตอบเม้นยาวซะ....

ขอบคุณที่แวะมาทักทายสร้างความฮาได้ทุกครั้งเลยนะคะ^^

ถ้าท่อน้ำดีตันเฉยๆ ไม่ใช่มะเร็งก็ได้ใช่มั้ยคะ

ญาติไปตรวจ CT สงสัยที่ตับแต่หมอ รพ.ศรีนครินทร์บอกเป็นท่อน้ำดีตัน

แนวทางรักษา 3 ทาง มีต่อท่อระบาย

ผ่าและอีกวิธีจำไม่ได้ ถ้าผ่าจะหายขาดหรือไม่

รบกวนตอบทางเมล์ด้วยนะคะ

สวัสดีค่ะคุณจารุวรรณ

งั้นต้องขอเมล์คุณจารุวรรณด้วยค่ะ แหะๆ

ขอโทษคะลืมบอกเมล์ [email protected] ตอนนี้ญาติผ่าตัดแล้วทำท่อระบายน้ำดี

และพบว่าเป็นมะเร็งตับ หลังผ่าตัดพทย์ให้พักฟื้น1 เดือนเพื่อทำการรักษามะเร็งต่อ

แต่วันที่ 16 พ.ย.53 ต้องเจาะท่อใหม่เนื่องจากท่อรั่ว และมีอาการถ่ายเป็นเลือดต้องใมห้เลือด

ทานอาหารไม่ค่อยได้ แต่ยังแอบต่อว่า รพ.ว่าคนป่วยก็มีหัวใจ ให้กินข้าวต้ม 3 มื้อเกือบทุกวัน

คนธรรมดาก็ยังเบื่อ ลักษณะอาการนี้ ไม่ทราบว่ายังสามารถดำเนินชีวิตได้ประมาณกี่เดือน

เนื่องจากผู้ป่วยยังใจสู้ต่อการรักษาอยู่

ขอบคุณคะ

สวัสดีค่ะคุณจารุวรรณ

ตอบทางเมล์แล้วนะคะ

"จิตเป็นนายกายเป็นบ่าว"ค่ะ ไม่ว่ายังไงถ้าใจยังสู้ก็ยังไม่หมดหวัง

ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยและญาติด้วยอีกหนึ่งกำลังใจค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท