แถลงการณ์สมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย ในวิกฤตการณ์หวัด 2009


 

ฉบับที่ 1 / 2552    

เรื่อง  อันตรายจากหวัดมรณะ 2009 และ ความไร้ประสิทธิภาพ

ให้รัฐบาลเร่งป้องกันและเพิ่มมาตรการรักษาผู้ป่วยโรคหวัดมรณะอย่างจริงจัง

-----------------------

ออกกำลังกาย ใส่หน้ากากอนามัย

ใช้ช้อนกลาง  ล้างมือบ่อย คอยแจ้งข่าว

ดูแลตนเอง  พึ่งพาตนเอง  อย่าหวังพึ่งรัฐบาลและนักการเมือง

 

              จากแถลงการณ์องค์การอนามัยโลกและแถลงการณ์ของรัฐบาลประเทศต่าง ๆ เกี่ยวกับการระบาดของโรคหวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 ยืนยันตรงกันว่าการระบาดเข้าสู่ระยะวิกฤตขั้นสูงสุด ( มากกว่าระยะที่ 6 - Phase 6 ) คือระบาดไปทุกประเทศทั่วโลกแล้วจนไม่อาจยับยั้งการระบาดได้ จึงมีการระบาดอย่างกว้างขวางและมีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก และโรคหวัด 2009 ดังกล่าวเป็นโรคที่ทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ในเวลาอันรวดเร็ว

นอกจากนี้ มีความชัดเจนมากขึ้นว่าในเดือนสิงหาคม 2552 ศกนี้ ประชากรของประเทศต่าง ๆ อาจจะได้รับเชื้อโรคหวัดเป็นจำนวนมาก ทั้งมีข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขไทยประมาณการณ์ว่า ประชากรไทยอาจติดเชื้อ ประมาณถึงร้อยละ 50 -80 ของประชากร คือประมาณ 30 - 50 ล้านคน ขึ้นกับว่ากระทรวงสาธารณสุขและรัฐบาลจะมีมาตรการดูแลประชาชนอย่างจริงจังและมีประสิทธิภาพอย่างไร

และในจำนวนผู้ติดเชื้อดังกล่าว อาจมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก อย่างน้อยโดยเฉลี่ย ร้อยละ 0.4 ของผู้ได้รับเชื้อ แต่ปรากฏว่านับถึงขณะนี้รัฐบาลยังมิได้ตระหนักถึงอันตรายร้ายแรงของหวัดมรณะ ดังกล่าว ยังมีความพยายามที่จะก่อให้เกิดความเชื่อว่าเป็นหวัดที่ไม่ต่างจากหวัด ธรรมดา ระบาดไม่รุนแรง และถึงแก่ความตายเฉพาะคนบางจำพวกเท่านั้น ตลอดทั้งไม่มีมาตรการที่จะควบคุมการระบาดที่ชัดเจนมากเพียงพอ และไม่มีมาตรการใด ๆ ที่จะแก้ไขเยียวยาเพื่อถนอมรักษาชีวิตของประชาชนชาวไทย

              สมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทยได้ติดตามข่าวสารเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ทราบว่าในเดือนสิงหาคม ศกนี้ อาจจะมีประชาชนชาวไทยติดเชื้อหวัดมรณะนับล้านคน จนเกินกำลังของโรงพยาบาลและแพทย์ที่จะเยียวยารักษา รวมทั้งเกิดความกังวลว่าจะไม่มียาเพียงพอที่จะรักษาโรคดังกล่าวได้ จนอาจ มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากมาย แต่เป็นที่น่าเสียใจที่รัฐบาลไม่ตระหนักและป้องกันหรือกำหนดมาตรการเยียวยา แก้ไขให้ทันท่วงที คงปล่อยให้ความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนเป็นไปตามยถากรรม

              สมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทยจึงขอตำหนิรัฐบาล ที่ทะนุถนอมและเอาใจใส่ในความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนชาวไทยน้อยเกินไป กระทั่งประจักษ์ว่าระหว่างความห่วงใยต่อผลกระทบจากการท่องเที่ยวและการส่งออก กับชีวิตของประชาชนไทยนั้น รัฐบาลเลือกที่จะไม่ยืนอยู่ข้างประชาชน

              เพราะเหตุนี้สมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทยจึงขอแถลงแจ้งให้พี่น้องร่วมชาติ ทั่ว ประเทศได้รับทราบถึงอันตรายร้ายแรงที่จะบังเกิดแก่ชีวิตของพี่น้องประชาชน และบุตรหลาน และหาทางคุ้มครองป้องกันตนเองให้มีความปลอดภัย เพราะไม่อาจพึ่งพาอาศัยรัฐบาลได้อีกแล้ว

              สมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทยขอเสนอให้พี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ได้โปรดปฏิบัติร่วมกันดังต่อไปนี้

 

              ข้อ 1.              ในสถานการณ์ระหว่างเดือน กรกฎาคม - สิงหาคม 2552

  1. ต้องทำให้ตนเองแข็งแรงมากขึ้น เช่น หมั่นออกกำลังกาย เพื่อเป็นหลักประกันว่า เราจะมีระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเข้มแข็งมากพอที่จะต่อสู้กับเชื้อไวรัส
  2. ต้องป้องกันตนเอง จากการแพร่ระบาดของเชื้อ
    1.  
      1. พกพาและสวมใส่หน้ากากอนามัยเป็นประจำ ในสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดและติดเชื้อ
      2. ล้างมือบ่อยๆ หากต้องสัมผัสจุดร่วมสาธารณะ ด้วยน้ำและสบู่นาน 20 วินาที หรือใช้เจลแอลกอฮอล์หากท่านมี
      3. หลีกเลี่ยงการเข้าสู่สถานที่ และรถโดยสารสาธารณะ โดยปราศจากการระบายอากาศที่พอเพียง แออัด มีคนมาก หากจำเป็นให้กระทำตามข้อ i  และข้อ ii
  3. ต้องป้องกันครอบครัว เครือญาติ และเพื่อพ้อง จากการแพร่ระบาด ด้วยการแนะนำ ให้ข้อมูล และทำตามข้อ ก. และข้อ ข.
  4. ต้องให้ข้อมูลข่าวสารที่ตนเองรู้อย่างถูกต้องปากต่อปากให้มากที่สุด และกว้างขวางที่สุด
  5. สำหรับผู้ที่มีอาการเป็นหวัด ขอให้แยกตัวออกจากสังคมและเก็บตัวอยู่อย่างเงียบ ๆ พร้อมดูแลตนเองอย่างเข้มงวดตามคำแนะนำของแพทย์ ต้องส่งเสริมจิตใจเสียสละกล้าหาญ ละทิ้งความคิดในทางร้าย ที่จะนำพาโรคไปเผยแพร่แก่คนอื่น และพักผ่อนให้มาก ดื่มน้ำให้มาก กินยาสมุนไพรของไทยคือฟ้าทะลายโจร และตำรายาไทยอื่น ๆ

 

ข้อ 2. ในสถานการณ์ระหว่างเดือนกันยายน - เดือนธันวาคม 2552ซึ่งอาจจะมีการระบาดใหญ่ระลอกสองเกิดขึ้น

  1. ดำเนินกิจกรรมดังข้อ 1 ให้เข้มงวดต่อไป
  2. ห้หยุดกิจกรรมทุกประเภท ตั้งแต่วันที่ 10 กันยายน 2552 เป็นเวลาอย่างน้อย 10 วัน และพักผ่อนอยู่กับบ้าน หรือในสถานที่ที่มีความปลอดภัยตลอดระยะเวลา 10 วัน เพื่อป้องกันไม่ให้โรคภัยระบาดมากกว่าที่เป็นอยู่ และเพื่อคุ้มครองชีวิตของพี่น้องประชาชนด้วยประชาชนเอง โดยถือหลักว่าหยุดกิจกรรมต่าง ๆ เพียง 10 วัน ถึงแม้มีผลกระทบบ้างก็ยังน้อยกว่าการสูญเสียชีวิตของตนเอง หรือผู้คนในครอบครัว ตลอดจนบุตรหลานมากมายนัก
  3. ให้เตรียมจัดซื้อข้าวสารอาหารแห้ง ยารักษาโรคที่จำเป็น และของบริโภคอุปโภคให้เพียงพอไว้ในครัวเรือนท่าน ตลอดระยะเวลา 10 วันที่หยุดกิจกรรม และสำรองไว้เผื่อใช้อย่างเพียงพอทุก 3 เดือน

              ด้วยมาตรการดังกล่าวนี้ เชื่อว่าจะสามารถคุ้มครองชีวิตพี่น้องประชาชนให้ปลอดภัยได้เป็นส่วนใหญ่ และจะทำให้เกิดความสูญเสียน้อยที่สุด

 

              สมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย ขอตำหนิรัฐบาล และ ขอเรียกร้องท่านให้ดำเนินมาตรการเร่งด่วนที่เข้มงวด เพื่อประชาชนและประเทศชาติโดยรวม ดังต่อไปนี้

              ข้อ 1. ปรับระบบกลไกการทำงานที่พิกลพิการ ไร้ประสิทธิภาพและ เต็มไปด้วยการประจบสอพลอ ของนักการเมือง ข้าราชการประจำ และลิ่วล้อทั้งหลาย ในกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับ หวัด 2009 โดยทันที โดยท่านต้องถือว่า บุคคลและหน่วยงานเหล่านี้กำลังเอาชีวิตและความเจ็บป่วยของประชาชนเป็นเดิมพันและเป็นตัวประกัน ในความ มั่นคงของเก้าอี้ตนเอง  ตั้งแต่ก่อนที่หวัดมรณะจะเข้ามาเมืองไทย เมื่อ 28 เมษายน 2552 จนถึงเวลานี้ไม่เกิน 3 เดือน คนเหล่านี้ได้พิสูจน์ ให้เห็นถึงความไร้ประสิทธิภาพที่น่าตกใจมากเพียงพอแล้ว

              ข้อ 2.  ปรับยุทธศาสตร์การรับมือกับหวัด 2009 เป็นยุทธศาสตร์เชิงรุก อย่างเร่งด่วน ก่อนที่จะปรากฎสถิติการติดเชื้อและเสียชีวิตของคนไทยเข้าขั้นวิกฤต ดังที่อาจใช้คำว่า "ตายเป็นเบือ"  อาทิเช่น

  1. เข้ม งวดกับการทำลายและควบคุมเชื้อในรถโดยสารสาธารณะ คือ รถแท๊กซี่  รถไฟฟ้า รถทัวร์ปรับอากาศ  รถเมล์ปรับอากาศ รถตู้ปรับอากาศ ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ สำนักงานที่อายุเก่าแก่ระบบถ่ายเทอากาศหมดสภาพ เป็นต้น 
  2. นำเสนอ เผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ ให้บุคคลากรที่ทำงานหรือสัมผัสผ่านในสถานที่และรถโดยสารตามข้อ ก. ใส่หน้ากากอนามัยอย่างเข้มงวด
  3. รณรงค์ ให้ผู้ที่มีอาการหรือมีข้อสงสัยว่าติดเชื้อแล้ว ต้องหลีกเลี่ยงที่จะไปยังสถานที่สาธารณะทั้งหมด หากจำเป็นต้องใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา
  4. จัด กลุ่มผู้มีความเสี่ยงที่เน้นไปยังพี่น้องประชาชนตามชุมชนแออัด ผู้มีรายได้น้อย พ่อค้าแม่ค้าย่อยตามตลาด หาบเร่ รถเข็น ฯลฯ ที่ตรากตรำกับการทำงานทั่วกทม. ซึ่งมีจำนวนมาก ที่มีสุขภาพอ่อนแอและไม่มีโอกาสที่จะดูแลตนเอง โดยเน้นให้การดูแล ให้ความรู้อย่างเต็มที่
  5. รณรงค์ ให้ความรู้ความเข้าใจเรื่องหวัด 2009 แก่ประชาชนทั่วประเทศอย่างเร่งด่วนและจริงจัง ใช้กลไกสื่อของรัฐ และกลไกสาธารณสุขที่สำคัญคือ อสม. อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการใช้กลไก กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและองค์กรปกครองท้องถิ่นอย่างจริงจัง
  6. ปรับปรุงแผนและระบบปฏิบัติการฉุกเฉินที่มีอยู่ พร้อมกับดำเนินการซักซ้อมตามแผนอย่างจริงจัง เพื่อรับมือกับการระบาดใหญ่ของหวัด 2009 

 

              และประการสุดท้าย เราขอเรียกร้องต่อนักการเมือง ทุกระดับ พรรคการเมืองทุกพรรค สีทุกสีว่า ได้โปรดเห็นแก่ประเทศชาติและประชาชน ทุกฝ่ายทุกเหล่า ที่กำลังต้องเผชิญหน้ากับวิกฤตการณ์โรคระบาดครั้งสำคัญของมนุษยชาติ และขอพวกท่านได้โปรด.....

              หยุด... การใช้ภัยร้ายที่คุกคามประชากรทุกฝ่ายทุกเหล่า เช่นนี้มา เป็นเครื่องมือทางการเมืองของฝ่ายตน เพื่อทำลาย คุกคามและกดดันการทำงานของฝ่ายตรงกันข้าม เพียงเพื่อให้เกิดประโยชน์ทางการเมืองแก่ฝ่ายตนเท่านั้น

              ทุก ฝ่าย ต้องสามัคคีกัน เพื่อร่วมกันหยุดยั้งการระบาด การคุกคามต่อชีวิตประชาชน ต่อความมั่นคงของสังคมและประเทศ อย่างรุนแรงของโรคระบาดไข้หวัด 2009 ในเวลานี้โดยเร็ว

 

 

                                                                                    สมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย

                                                                                           21 กรกฎาคม 2552

 

 

หมายเลขบันทึก: 280039เขียนเมื่อ 25 กรกฎาคม 2009 13:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 08:12 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท