บีบ รร.พัฒนาเพิ่มคะแนนโอเน็ต


บีบ  รร.พัฒนาคุณภาพ  ศธ.จัดโครงการระยะยาว  5  ปี  ยกระดับคุณภาพการศึกษา  5  วิชาหลัก  ตั้งเป้าคะแนนโอเน็ตต้องสูงขึ้นทุกปี  วิทย์-คณิต-ไทย  ต้องได้ร้อยละ  2  ส่วนอังกฤษต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 5

     นายจุรินทร์   ลักษณวิศิษฏ์   รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ  (รมว.ศธ.)  เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ  (ศธ.)  เมื่อเร็วๆ  นี้ว่า  ที่ประชุมได้หารือเรื่องการผลักดันการยกระดับคุณภาพการศึกษาในกลุ่ม  5  วิชาหลัก  ได้แก่  คณิตศาสตร์,  วิทยาศาสตร์,  ภาษาไทย,  ภาษาอังกฤษ   และวิชาสังคมศึกษา   ซึ่งที่ผ่านมาตนได้มอบนโยบายให้แบ่งออกเป็น  4  กลุ่ม  เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางการพัฒนาและยกระดับคุณภาพการศึกษาที่ถูกต้อง   

โดยกลุ่มแรกคือ  การพัฒนาและยกระดับคุณภาพการศึกษาในวิชาคณิตศาสตร์  วิทยาศาสตร์  และภาษาไทย   กลุ่มที่  2.ยกระดับและพัฒนาคุณภาพการศึกษาในรายวิชาภาษาอังกฤษ  3.ยกระดับและพัฒนาคุณภาพการศึกษาในรายวิชาสังคมศึกษา   และ  4.การยกระดับคุณภาพผู้เรียนให้เป็นคนดี  มีความสุข  และมีความภูมิใจในความเป็นไทย   ซึ่งทั้ง  4  กลุ่มจะจัดเป็นโครงการพัฒนาคุณภาพศึกษา   โดยทำเป็นโครงการระยะยาว  5  ปี  โดยวางเป้าหมายว่าทั้ง  5  รายวิชาจะต้องมีคะแนนเฉลี่ยการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน  หรือโอเน็ตเพิ่มขึ้นตามที่กำหนดไว้

     นายจุรินทร์  กล่าวต่อไปว่า  โดยกลุ่มแรกคือรายวิชา  คณิตศาสตร์,  วิทยาศาสตร์  และภาษาไทย   ผู้เรียนจะต้องได้คะแนนเพิ่มขึ้นร้อยละ  2  โดยใช้คะแนนโอเน็ตปี  2551  เป็นฐาน   อย่างไรก็ตาม  เมื่อย้อนดูข้อผลคะแนนเฉลี่ยคะแนนโอเน็ตปี  51  พบว่าภาพรวมได้คะแนนดีขึ้นกว่าปี  50  นั่นคือในส่วนของวิชาภาษาไทยเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ  42.02  จากเดิมได้เพียงร้อยละ   36.58  วิทยาศาสตร์เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ  51.68  จากเดิมร้อยละ  49.57  ยกเว้นคณิตศาสตร์ที่ลดลงเหลือร้อยละ  47.67  จากปี  50  ที่ได้ร้อยละ  47.55  สำหรับแนวทางการแก้ไขจะมุ่งไปยังกลุ่ม  รร.ที่ไม่ผ่านการประเมินของสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา  (องค์การมหาชน)  (สมศ.) ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน  (สพฐ.)  จำนวน  12,694  โรงเรียน  และกลุ่มการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย  (กศน.) ใน  74  อำเภอ  37  จังหวัด

     ส่วนวิชาภาษาอังกฤษพบว่า   คะแนนโอเน็ตดีขึ้นทุกระดับชั้น  โดยระดับ  ป.6  ในปี  50  ค่าเฉลี่ยคะแนนอยู่ที่ร้อยละ  36.67  เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ  37.74  ระดับ  ม.3  ปี  50 ได้ร้อยละ   28.68  เพิ่มเป็นร้อยละ  32.64  และ  ม.6  ปี  50  ได้ร้อยละ  30.93 เพิ่มเป็นร้อยละ  35.98  ซึ่งถือว่าในระดับชั้น  ม.6  เพิ่มขึ้นสูงสุดถึงร้อยละ  5  และจะกำหนดให้ในปีถัดไป  แต่ละช่วงชั้นต้องมีค่าเฉลี่ยคะแนนสูงขึ้นไม่ต่ำกว่าร้อยละ 5

     สำหรับกลุ่มที่  3  คือ  วิชาสังคมศึกษา  ได้มอบหมายให้ผู้เกี่ยวข้องไปกำหนดตัวชี้วัดมาก่อน   เนื่องจากที่ผ่านมายังไม่เคยมี   แต่เบื้องต้นตั้งเป้าให้เด็กที่จบออกมาคิดเป็น   วิเคราะห์เป็น   เป็นคนดีมีความสุข  และมีความภูมิใจในความเป็นไทย   โดยกลุ่มนี้จุดอ่อนที่ผ่านมาคือไม่มีการพัฒนาครู   ต่อไปนี้จะต้องมีการพัฒนาครูในรายวิชานี้   ทั้งนี้ยังได้มอบหมายให้คณะทำงานไปศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม   ในเรื่องการเรียนการสอนที่มุ่งให้เด็กมีคุณธรรม  จริยธรรม  อย่างเป็นรูปธรรมในทุกระดับชั้น   เมื่อจบออกมาแล้วเป็นคนดีของสังคม   ขณะเดียวกันต้องเรียนอย่างมีความสุขด้วย.

คำสำคัญ (Tags): #เล่าสู่กันฟัง
หมายเลขบันทึก: 280032เขียนเมื่อ 25 กรกฎาคม 2009 13:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน 2012 02:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท