วันนี้ แอมมี่ไปเป็นกระบวนกรเรื่อง "Leadership Development" ให้กับผู้บริหารระดับกลาง บริษัทให้บริการทางการเงินแห่งหนึ่ง แถวถนนศรีนครินทร์ ซึ่งวันนี้มีเพียง 22 ท่าน แล้วตอนเช้าฝนก็ตกด้วย หลังจากทำ Pre-test เสร็จแล้ว (สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าพอควร เพราะยังเช้าอยู่ค่ะ - สมองยังไม่ตื่นกันเต็มที่) ก็เริ่มฝึกอบรมกันทันทีไม่มีช้า ^^
เนื่องจากช่วงนี้กำลังฝึกฝนกลยุทธ์การพูดเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ (motivation speaker) ก็เลย เริ่มเปิดตัวหลักสูตรด้วยการ built อารมณ์ผู้เข้าอบรม ก็สนุกสนานกันน่าดู แอมมี่นำหัวข้อการเปลี่ยนตัวเอง 8 ประการ ของโค้ชสิริลักษณ์ ตันศิริ มาให้ทั้งห้องฝึกทำตามกัน (1.ยืดอกมั่นใจ 2.ฝึกหายใจ 3.พูดดีๆให้กับตัวเอง 4.รู้จักขอบคุณทุกสิ่งรอบข้าง 5.จินตนาการความสำเร็จ 6.ออกกำลังกาย 7.คิดถึงช่วงเวลาที่มีความสุขในชีวิต 8.ฉลอง Yes!!!) วันนี้ทั้งวัน เราเลยได้คำติดปาก "สุดยอด" ... ซึ่งแอมมี่ว่า วันนี้ ทั้งแอมมี่และผู้เข้าอบรมรู้สึกว่าเป็นวันที่ "สุดยอด" อีกวันนึงนะคะ (คิ คิ เข้าข้างตัวเองมากๆ ทีเดียว)
-
หัวใจสำคัญที่สุดของการเป็นผู้นำ คือ การสร้างขวัญและกำลังใจให้กับทีมงาน ซึ่งก่อนจะสร้างให้คนอื่นได้ เราต้องรู้จักสร้างให้ตัวเองก่อนค่ะ เพราะเมื่อเรารู้สึกดี มีความสุข มีกำลังใจในการมีชีวิตอยู่ มีความภูมิใจในงานที่ทำ กระตือรือร้นในการทำงานที่เราชอบ ... มันจะแผ่รังสีไปถึงคนรอบข้าง ลูกน้อง และทีมงานของเราด้วย เมื่อเรามีพลัง และมีความจริงใจกับทีมงาน การสร้างขวัญและกำลังใจจึงไม่ใช่เรื่องยากเลย
-
แต่ผู้นำผู้บริหารบางท่าน ก็ไม่ทราบวิธีการสร้างแรงบันดาลใจนะคะ ไม่รู้จะพูดยังไง สื่อสารยังไง ก็เลยต้องมาเข้าอบรมกันไงคะ แอมมี่เลยนำมาทำให้ดูเป็นตัวอย่าง เพื่อที่จะได้ลองนำไปปรับใช้กันตามอัธยาศัย
วันนี้เราจะเรียนรู้กันใน 7 หัวข้อ แต่จะขอสรุปเฉพาะที่สำคัญๆ และน่าจะนำมาเน้นกันดีกว่านะคะ
Competency ที่สำคัญที่ผู้นำควรทราบ คือ การมีทักษะทางการคิด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การคิดสร้างสรรค์ การคิดเชิงระบบ การคิดแบบองค์รวม และการคิดเชิงกลยุทธ์ แต่วันนี้ เราเน้นที่การเข้าใจวิธีการทำงานของสมอง การฝึกคิดบวก การฝึกคิดเชิงสร้างสรรค์ การรู้จักมองแบบองค์รวม และการคิดเชิงระบบ - ซึ่งหลังจากที่ผู้เข้าฝึกอบรมโดน built อารมณ์ และสร้างพลังไปแล้ว ความร่วมมือในการทำกิจกรรมต่างๆ ก็เลยเป็นไปด้วยความสนุกสนาน (ไม่มียอมแพ้กันเลยทีเดียวในแต่ละกลุ่ม)
จากนั้น จึงเป็นหัวข้อของการแก้ปัญหาและการตัดสินใจ ซึ่งแอมมี่ได้ design กรณีตัวอย่างของเหตุการณ์สมมติ 3 กรณี แล้วให้ทุกกลุ่มลองแก้ปัญหา และให้ present วิธีแก้ปัญหาเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน โดยในกรณีตัวอย่างที่ให้ฝึกทำ ตอนแรกก็ให้ข้อมูลเบื้องต้นก่อน เมื่อหาวิธีการและขั้นตอนการแก้ปัญหากันไปได้ซักพัก ก็ให้ข้อมูลเพิ่มเติมของกรณีนั้นๆ (ซึ่งข้อมูลอาจจะหักมุมไปจากเมื่อได้ข้อมูลครั้งแรก ... เพื่อจะให้ได้ตระหนักนิดนึงค่ะ ว่า บางครั้งข้อมูลที่มี อาจจะไม่ตรงกับความเป็นจริง และอย่าด่วนตัดสินใจก่อนที่จะมีข้อมูลมากพอ) ตลกดีตรงที่ บางกรณีที่แอมมี่สร้างขึ้นมา ปรากฎว่า กำลังเกิดปัญหาขึ้นจริงๆ ในองค์กร ... ก็ดีค่ะ จะได้ฝึกคิดหาทางแก้ปัญหา แล้วเอาไปใช้จริงกันได้เลย (มีประโยชน์จริงๆ)
หัวข้อต่อมา คือ ไคเซ็น (Kaizen) หรือการปรับปรุงงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหัวใจสำคัญ (ที่ง่ายมากๆ) คือ ต้องทำงานอย่างมีความสุขและสนุกสนาน เอื้อเฟื้อต่อคนรอบข้าง การปรับปรุงต้องท้าทาย/มีประสิทธิภาพ และที่สำคัญควรต้องติดตามผลด้วย และมีกลยุทธ์ 4 อย่าง (ECRS) คือ
-
E (Eliminate) ตัดทิ้ง
-
C (Combine) รวมกัน
-
R (Rearrange) สับเปลี่ยน
-
S (Simplify) ทำให้ง่ายเข้า
กิจกรรมเสริมการเรียนรู้ ก็ให้ลองคิดหาทางใช้ไคเซ็นในการปรับปรุงงานในหน่วยงานตามโจทย์ที่ให้ไว้กว้างๆ ค่ะ
หัวข้อที่สำคัญที่องค์กรส่วนใหญ่จะเน้นฝึกอบรมกันมากในยุควิกฤตเศรษฐกิจนี้ ก็คือเรื่อง การประเมินผลงานและการบริหารผลการปฏิบัติการ ค่ะ
การประเมินผลงานของพนักงานมีความสำคัญ ดังนี้
-
เพื่อนำผลการประเมิน (ที่มีระบบและข้อมูลถูกต้องตามความเป็นจริง) มาวางแผนกำลังคน (Manpower Planning) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
-
เลือกพนักงานที่มีความสามารถมาทำงานที่เหมาะกับงานหรือมอบหมายงานเพิ่มขึ้น (Job Enrichment) หรือขยายความรับผิดชอบ (Job Enlargement) หรือ โยกย้ายไปให้เหมาะกับความสามารถ (Job Rotation)
-
เพื่อการพัฒนาพนักงาน (Staff Development)
-
ใช้ในการพิจารณาค่าตอบแทน (Compensation) และประกอบการพิจารณาปรับเงินเดือน (และโบนัส) ประจำปี (Merit Increase)
ในเรื่องของการบริหารผลการปฏิบัติงานนั้น ขอเก็บไว้เล่าพรุ่งนี้ในชั้นเรียนที่นิด้าค่ะ ^^
การฝึกอบรมในวันนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จดีมากค่ะ
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านและแสดงความคิดเห็นค่ะ
ติดต่อ อ.แอมมี่ ที่ บริษัท Brainwatch Consulting Group Co.,Ltd
อีเมล [email protected], [email protected]