บทความเรื่อง พลังสร้างสรรค์หญิงฝากครรภ์ได้รับคุณค่า(Value Added)
คำสำคัญ :
ANC : Ante Natal Care , OF: Osmotic Fragility
DCIP : Dichlorophenolindophenol, Hct : Hematocrit
HBs Ab : Hepatitis B surface antibody, TLC : Therapeutic Life -Style Change, RCA : Root Cause Analysis, ABO: หมู่โลหิตชนิด A ,B ,AB,O , Rh : หมู่โลหิตชนิด Rh, CQI : Continuous Quality Improvement , Lab : Laboratory , PPH. : Post Partum Hemorrhage, R&D: Research and Development, AAR.: After Action Review , อสม : อาสาสมัครสาธารณสุข
สรุปผลงานโดยย่อ : ทีมงานเวชปฏิบัติครอบครัวและชุมชนได้ปรับปรุงกระบวนการดูแลหญิงตั้งครรภ์ทั้งระบบ โดยแนวทางประเมินภาวะเสี่ยงของหญิงตั้งครรภ์ 20 ข้อ ปรับปรุงการดูแลสุขภาพของหญิงตั้งครรภ์ โดยมีค่า Hematocrit :Hct. ก่อนคลอดมากกว่า 33 % หญิงตั้งครรภ์คลอดบุตรอย่างปลอดภัย ทารกแรกคลอดมีน้ำหนักมากกว่า2,500 กรัม แม่ไม่เกิดภาวะ Post Partum Hemorrhage : PPH และทารกแรกเกิดไม่มีภาวะ Birth Asphyxia
เป้าหมาย
เพื่อให้การป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดกับหญิงตั้งครรภ์ในคลินิกฝากครรภ์ โดยเฉพาะเพิ่มค่า Haematocrit หญิงตั้งครรภ์ให้สูงกว่าค่าที่เป็นความเสี่ยง (33 %) ในช่วงเวลาที่ฝากครรภ์จนครบกำหนดคลอด อันจะนำไปสู่การป้องกันความเสี่ยงของแม่จากภาวะ Post Partum Hemorrhage : PPH และส่งเสริมสุขภาพทารกในครรภ์ให้มีน้ำหนักแรกคลอดมากกว่า 2,500 กรัม และติดตามระบบ Refer เมื่อหญิงตั้งครรภ์มีภาวะครรภ์เป็นพิษจากภาวะความดันโลหิตสูง (140/90 mmHg.) และมีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงขณะตั้งครรภ์ หรือมีภาวะครรภ์แฝด หรือพบว่าแม่หรือพ่อเป็นพาหะของโรคThalassemia รวมถึงการประเมินและวิเคราะห์ความเครียดของหญิงตั้งครรภ์
ปัญหาและสาเหตุโดยย่อ : จากการทบทวนการดูแลหญิงตั้งครรภ์ในกิจกรรมทบทวน 12 กิจกรรม ทำให้ทราบปัญหาความเสี่ยงของหญิงตั้งครรภ์ในคลินิก ANC ทำให้ต้องการแก้ไขปัญหาของหญิงตั้งครรภ์อย่างเป็นระบบ โดยการปรับปรุงพัฒนาศักยภาพหญิงตั้งครรภ์ โดยนำสามี ญาติ ครอบครัว (พ่อ แม่ ปู่ ยา ตา ยาย ของหญิงตั้งครรภ์) มีส่วนร่วมกับทีมสหสาขาวิชาชีพให้การดูแลในลักษณะของพี่เลี้ยงและครูผู้ฝึก (Coaching) เพื่อให้หญิงตั้งครรภ์และทารกแรกคลอด
มีคุณภาพชีวิตที่ดี ลูกเกิดรอดแม่ปลอดภัย
การเปลี่ยนแปลง : กระบวนการเปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างคุณค่า
1 จัดให้มีการเจาะหาค่า Hct. ครั้งที่ 1 เมื่อฝากครรภ์ครั้งแรกในคลินิก เมื่อพบว่าซีด Hct น้อยกว่าเกณฑ์ 33 % จะ Empowerment เรื่องการรับประทานอาหารที่เพิ่มค่า Hct. สอนแนะนำ สาธิตการรับประทานอาหารที่มีคุณค่า เพิ่มอาหารเสริมธาตุเหล็ก แพทย์แนะนำเรื่องการปฏิบัติตัวขณะตั้งครรภ์ ให้ยาเสริมธาตุเหล็ก และมีการติดตามเฝ้าระวังให้เจาะ Hct. ครั้งที่ 2 ห่างจากครั้งแรก 1 เดือน (กรณี Hct.ต่ำ) โดยให้ความสำคัญกับ Hct. ครั้งนี้มากเพราะหญิงตั้งครรภ์ส่วนใหญ่จะมีแนวโน้มของ Hct. ลดต่ำลงทุกครั้ง แต่กรณี Hct. อยู่ในเกณฑ์(33 %) จะเจาะอีกครั้งในช่วงก่อนคลอด 1 เดือน
2 มีการตรวจคัดกรองโรค Thalassemia ของหญิงตั้งครรภ์และสามี โดยถ้าพบว่าหญิงตั้งครรภ์ได้ค่าที่คัดกรองให้ ผล Positive วิธีใดวิธีหนึ่ง จาก 2 วิธี คือ OF และ DCIP จะต้องตามสามีเพื่อมาตรวจคัดกรองThalassemia เนื่องจากถ้าพบว่าแม่(หญิงตั้งครรภ์)และสามีเป็นพาหะ จะส่งผลให้ลูกในครรภ์มีโอกาสเป็นโรคร้อยละ25 ดังนั้นหญิงตั้งครรภ์และสามีจะได้รับคำแนะนำและคำปรึกษาจากทีมงาน
3 มีการประเมินความเครียดของหญิงตั้งครรภ์ทุกราย โดยให้หญิงตั้งครรภ์ประเมิน
ความเครียดตนเอง ทีมงานวิเคราะห์ผล ถ้าพบระดับความเครียดที่สูงกว่าปกติ ทีมงานจะส่งพบทีมสุขภาพจิตของโรงพยาบาลทุกครั้ง
4 มีการนำแนวทางการประเมินความเสี่ยงของหญิงตั้งครรภ์ 20 ข้อ มาวิเคราะห์ถ้าพบว่าประวัติครอบครัวมีการตั้งครรภ์แฝด จะมีการเฝ้าระวังเป็นพิเศษโดยแพทย์ และปรึกษา สูติแพทย์จากโรงพยาบาลพระจอมเกล้า และเป็นการลดความเสี่ยงให้ผู้ป่วย เนื่องจากโรงพยาบาลบ้านลาด เป็นโรงพยาบาลชุมชนไม่มีแพทย์เฉพาะทาง
5 มีการเฝ้าระวังในเรื่องความดันโลหิตสูงของหญิงตั้งครรภ์ ถ้าพบค่าที่เกินเกณฑ์140/90 mmHg ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษและต้อง Refer ไปพบสูติแพทย์เช่นเดียวกับครรภ์แฝด
6 มีการเฝ้าระวังภาวะที่มีค่า BMI สูงอย่างรวดเร็ว และประวัติการตั้งครรภ์แรกและตรวจคัดกรองพบภาวะน้ำตาลสูง
7 มีการเฝ้าระวังในหญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุต่ำกว่าเกณฑ์ และอายุมากกว่าเกณฑ์ของหญิตั้งครรภ์ คืออายุ 17-35 ปี เนื่องจากมีปัจจัยเสี่ยงสูงอาจเกิดอันตรายต่อแม่และลูกน้อยในครรภ์
8 กิจกรรม โรงเรียนพ่อแม่, กิจกรรม ธงโภชนาการ, กิจกรรม ß–Endorphinลูกดิ้นดี แม่แข็งแรง, กิจกรรม “คุยกับลูกในท้องน้องจะฉลาด”
9 กิจกรรมใน “ โรงพยาบาลสายใยรักแห่งครอบครัว ” โดยแนะนำ สอนเรื่อง
- สอนนิทานให้ลูก “ นิทานทำให้เด็กฉลาด ไม่ขาดคุณธรรม ”
- “แม่จ๋า หนูอยากมีน้ำหนักแรกเกิด 2,500 กรัม ”
- “หนูดีใจจังที่ได้กินนมแม่ ”
- “พ่อแม่ต้องมีส่วนร่วม ” ในการดูแลการเจริญเติบโตของเด็ก
- โปรดมาตามนัดทุกครั้ง “ เพื่อประโยชน์ของลูก ”
- “ วันนี้คุณกอดลูกหรือยัง ”
- เดือนนี้ “ แม่ตรวจมะเร็งเต้านมด้วยตนเองหรือยัง ”
- แม่ควรตรวจ “ มะเร็งปากมดลูกปีละครั้ง ”
10 ประเมิน “การสูบบุหรี่ ” ของหญิงตั้งครรภ์ สามี ครอบครัว และญาติ
11 ติดตามผล “การRefer ของหญิงตั้งครรภ์แต่ละราย” โดยเน้นติดตามแบบรายบุคคล
12 หญิงตั้งครรภ์ได้รับการตรวจ “อนามัยช่องปาก” ได้รับบริการตรวจฟัน บริการแนะนำการใช้ไหมขัดฟันให้บริการทำฟัน อุดฟัน ถอนฟัน ในอายุครรภ์อยู่ในช่วง 4 - 6 เดือน เนื่องจากเป็นช่วงที่เด็กทารกในครรภ์มีความเสี่ยงน้อยที่สุด(Low Risk) ขณะเดี่ยวกันแม่พ้นภาวะแพ้ท้องแล้ว
13 หญิงตั้งครรภ์ได้รับการตรวจหมู่โลหิต(Blood group) ทั้งระบบABOและRh
การวัดผลและผลลัพธ์ (ขอยกตัวอย่างหญิงตั้งครรภ์จำนวน 31 คน)
1. ผลการตรวจ Hct. ครั้งแรก มีภาวะซีดค่า Hct. ต่ำกว่าเกณฑ์จำนวน 2 คน คือคนแรก Hct.ได้ 33% คนที่ 2 Hct.ได้ 31% หลังจากได้ใช้กระบวนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม (Therapeutic Life -Style Change : TLC) การเจาะ Hct. ครั้งที่ 2 พบว่าหญิงตั้งครรภ์กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 31 คน พบผลลัพธ์ว่า
- Hct. ครั้งที่ 2 มีค่าเท่าเดิม จำนวน 6 คน คิดเป็น 19.4%
- Hct. ครั้งที่ 2 มีค่าลดลงกว่าครั้งที่ 1 จำนวน 17 คน คิดเป็น 54.9%
- Hct. ครั้งที่ 2 มีค่าเพิ่มขึ้นกว่าครั้งที่ 1 จำนวน 7 คน คิดเป็น 22.5 %
- Hct. ครั้งที่ 2มีค่าต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน33% จำนวน 1คน คิดเป็น 3.2 %
2. ค่า Hct.ครั้งที่ 2 ที่ลดลงน้อยที่สุดคือ 1% ค่าลดลงมากที่สุด 6 % จากจำนวน 18 คน
- ค่า Hct. ลดลง 1 % มีจำนวน 2 คน คิดเป็น 11.1 %
- ค่า Hct. ลดลง 2 % มีจำนวน 5 คน คิดเป็น 27.7 %
- ค่า Hct. ลดลง 3 % มีจำนวน 2 คน คิดเป็น 11.1 %
- ค่า Hct. ลดลง 4 % มีจำนวน 4 คน คิดเป็น 22.2 %
- ค่า Hct. ลดลง 5 % มีจำนวน 3 คน คิดเป็น 16.8 %
- ค่า Hct. ลดลง 6 % มีจำนวน 2 คน คิดเป็น 11.1 %
3. ผลการตรวจคัดกรองโรค Thalassemia ในหญิงตั้งครรภ์ จำนวน 31 คน พบหญิงตั้งครรภ์ให้ผล Positive ในการตรวจ OF และ DCIP รวม 6 คน คือ
(1) พบว่าหญิงตั้งครรภ์ให้ผลลัพธ์
- Positive ในการตรวจ OF test จำนวน 1 คน คิดเป็น 3.2%
- Positive ในการตรวจ DCIP test จำนวน 5 คน คิดเป็น 16.1%
(2)มีการติดตามสามีของหญิงตั้งครรภ์ที่พบผล Positiveในข้อ (1) มาตรวจเลือดค้นหาความเสี่ยงThalassemia ในสามีของหญิงตั้งครรภ์ จำนวน 6 คน โดยตรวจเลือด ชนิด OF test และ DCIP test พบผลลัพธ์ว่า
- ผลการตรวจสามีจำนวน 6 คน พบ Positive ใน OF test จำนวน1คน คิดเป็น16.7%ให้ผลNegativeจำนวน 5 คนคิดเป็น 83.3 %
- สรุปผลคู่เสี่ยง (หญิงตั้งครรภ์และสามี) มีจำนวน 1 คู่
- ค้นหาชนิดของ Thalassemia ในสามีโดยการตรวจ Hb.typing เพื่อค้นหาความเสี่ยงที่อาจจะเกิดโรคกับทารกในครรภ์ พบผลตรวจของบิดาทารกในครรภ์จาก Hb.typing เป็นชนิด Hb.E-trait ซึ่งเป็นชนิดปกติ( Normal)
ผลการประเมินความเครียดของหญิงตั้งครรภ์ กลุ่มตัวอย่างจำนวน 31 คน พบว่า
- ผลความเครียดอยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่าปกติจำนวน 5 คน คิดเป็น16.1%
- ผลความเครียดอยู่ในเกณฑ์ปกติ จำนวน 24 คน คิดเป็น 77.4%
- ผลความเครียดอยู่ในเกณฑ์สูงกว่าปกติ จำนวน 2คน คิดเป็น 6.5%
การส่งเสริมสุขภาพในกลุ่มสูงกว่าปกติจำนวน 2 คน คือการส่งไปพบแพทย์และพยาบาลจิตวิทยาเพื่อให้คำปรึกษาและช่วยเหลือ แนะนำ ในเรื่อง ปัญหาชีวิตที่หาทางแก้ไม่ได้ ประสบปัญหาไม่สบายใจ โดยจะช่วยค้นหาสาเหตุของปัญหา(RCA) และช่วยในการหาแนวทางแก้ไข
- การเผชิญภาวะวิกฤติในชีวิต มีความเครียดสะสมมากและเป็นเวลานานพอสมควร ผลลัพธ์ การให้คำแนะนำหญิงตั้งครรภ์ทั้ง 2 คน สุขภาพจิตดีขึ้นโดยมีการประเมินอีก 1 เดือนต่อมา ผลลัพธ์การประเมินระดับความเครียด “ลดลงสู่ระดับปกติ” สามารถจัดการความเครียดได้ด้วยตนเองใช้ชีวิตประจำวันได้ดีขึ้น ปรับตัวปรับใจเข้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสมขึ้นกว่าเดิม
- การนอนหลับได้ดี หลับสนิทมากขึ้น
- แนะนำให้คลายเครียดโดย “ต้องหยุดพักความคิด”
- ยืดเส้นยืดสายให้ร่างกายผ่อนคลาย ด้วยกิจกรรมการออกกำลังกายเรียกว่ากิจกรรม “ß-endorphinลูกดิ้นดีแม่แข็งแรง” ซึ่งมี คู่มือ สอน แนะนำ สาธิตให้กับหญิงตั้งครรภ์ซึ่งกิจกรรมนี้จะมีสอนสาธิต 3 แห่ง ได้แก่คลินิก ANC ห้องคลอด(ก่อนคลอด)และตึกผู้ป่วยใน(หลังคลอด) เป็นกิจกรรมที่มีคู่มือปฏิบัติ/การสอนจากคู่มือการออกกำลังกายสำหรับหญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอดจัดทำโดยสำนักส่งเสริมสุขภาพกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข โดยมีการประเมินคัดเลือกหญิงตั้งครรภ์ที่ “ไม่มี” ความเสี่ยงเข้าร่วมกิจกรรม แต่ถ้าเป็นโรคหัวใจ โรคครรภ์เป็นพิษ ภาวะรกเกาะต่ำหรือมีความดันโลหิตสูง จะงดกิจกรรมนี้ ถ้าหญิงตั้งครรภ์แข็งแรงดี ภายใต้การดูแลของแพทย์กิจกรรมนี้จะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อหญิงตั้งครรภ์(Optimize) ในการออกกำลังกายขณะตั้งครรภ์
ผลลัพธ์จากการดูแลหญิงตั้งครรภ์ในเวลา 10 เดือน เมื่อหญิงตั้งครรภ์ครบกำหนดคลอดคือ
- ทารกแรกเกิดมีน้ำหนักต่ำกว่า 2,500 กรัม ซึ่งเป็นหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะซีดค่า Hct. ต่ำกว่า 33%(คือ 32%) จำนวน 1 คน คลอดบุตรน้ำหนัก 2,480 กรัม คิดเป็น 3.2%
- ไม่พบแม่เกิดภาวะ Post Partum Hemorrhage: PPH คิดเป็น 0%
- ไม่เกิดภาวะ Birth Asphyxia คิดเป็น 0%
ในระบบส่งต่อ (Refer) เพื่อให้หญิงตั้งครรภ์ได้รับการดูแลที่ดีที่สุด เนื่องจาก รพ.บ้านลาด “ไม่มี” สูติแพทย์
- Referหญิงตั้งครรภ์ จำนวน 5 คน(กรณีตัวอย่าง31คน)คิดเป็น 16.1%
- กรณีหญิงตั้งครรภ์มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูง 2 คนคิดเป็น6.4 %
- กรณีที่ต้องผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง(Previous Caesarian Section) จำนวน 1 คน คิดเป็น 3.2%
- กรณีที่พยากรณ์(Predict) จากน้ำหนักแม่ไม่ขึ้นตามเกณฑ์คาดว่าเด็กทารกจะอยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการเกิดน้ำหนักน้อยกว่า 2,500 gm ต้องRefer ไปพบแพทย์ จำนวน 2 คน คิดเป็น 6.4% ซึ่งเป็นผลจากการเฝ้าระวังค่าBMIในหญิงตั้งครรภ์ ขณะมารับบริการในคลินิก ANC
หญิงตั้งครรภ์มีปัญหาเรื่องอายุต่ำกว่าเกณฑ์หรือมากเกินเกณฑ์ (ตัวอย่าง 31 คน)
- หญิงตั้งครรภ์ มีอายุต่ำกว่า 17 ปี มีจำนวน 1 คน คืออายุขณะตั้งครรภ์อายุ 16 ปี คิดเป็น 3.2%
- หญิงตั้งครรภ์มีอายุมากกว่า 35 ปีมีจำนวน 1 คน คืออายุ 43 ปี
คิดเป็น 3.2%
- หญิงตั้งครรภ์มีอายุที่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานการตั้งครรภ์ปกติ(17-35ปี) จำนวน 29 คน คิดเป็น 93.6%
ประเมินความเสี่ยงต่าง ๆ ที่พบได้แก่
- มีประวัติครอบครัวมีการตั้งครรภ์แฝดจำนวน 2คนคิดเป็น6.4%
- มีประวัติเคยคลอดแล้วเกิดภาวะรกค้าง จำนวน 1 คน คิดเป็น 3.1%
- มีประวัติคลอดก่อนกำหนดจำนวน 1 คน คิดเป็น 3.1%
- ประวัติหญิงตั้งครรภ์มี HBAgPositive จำนวน 1คน คิดเป็น3.1%
- มีประวัติตั้งครรภ์ครั้งที่ 4 จำนวน 1 คน คิดเป็น 3.1%
การประเมิน “การสูบบุหรี่” ของหญิงตั้งครรภ์และสามีซึ่งเป็นพฤติกรรมเสี่ยง พบว่า
- ไม่พบหญิงตั้งครรภ์สูบบุหรี่ คิดเป็น 100 %
- พบสามีหญิงตั้งครรภ์สูบบุหรี่จำนวน 8 คน คิดเป็น 25.8 %
หญิงตั้งครรภ์ได้รับบริการตรวจอนามัยช่องปากทั้งจำนวน 31คนคิดเป็น 100 %
ผลลัพธ์ของการตรวจหมู่โลหิต (ตัวอย่างจำนวน 31 คน)พบว่า
- หมู่โลหิต A พบ จำนวน 9 คน คิดเป็น 29.1 %
- หมู่โลหิต B พบ จำนวน 10 คน คิดเป็น 32.1 %
- หมู่โลหิต O พบ จำนวน 11 คน คิดเป็น 35.5 %
- หมู่โลหิต AB พบ จำนวน 1 คน คิดเป็น 3.3 %
บทเรียนที่ได้รับ :
1) มีการทำงานในคลินิก ANC ในลักษณะทีมสหสาขาวิชาชีพ (Multi-disprinary) ทั้งแพทย์,พยาบาล,ห้อง Lab ,ระบบบันทึกข้อมูล(Management Information System : MIS) ระบบเยี่ยมบ้าน HHC “ ร่วมกับ ” กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ สามี ครอบครัว (พ่อแม่ของหญิงตั้งครรภ์หรือพ่อแม่ของสามี) รวมถึงการจัดตั้งชมรม “ สายใยรักแห่งครอบครัว ” ซึ่งมีภาคประชาชนและผู้นำชุมชน อสม.ได้แก่ ประธาน อสม. และสมาชิกในตำบลท่าช้าง(นางเสย ช้างน้ำ) รองนายก อบต.ท่าช้างและประธานชมรมสายใยรักแห่งครอบครัว(นายมิ่ง ช้างน้ำ)
2)ทีมงานสหสาขาวิชาชีพ รพ.บ้านลาด โดยมีทีมงานในคลินิก ANC เป็นแกนนำได้เกิดการเรียนรู้(Learning) ในเรื่องกระบวนการทำงานของทีมงานทั้ง ข้อดีที่เป็นจุดแข็ง(Strength) ข้อเสียหรือจุดอ่อน (Weakness) ได้เรียนรู้ถึงการ อดทน รอคอย เมื่อโอกาสการทำงานที่ได้ผลงานไม่ดีอย่างที่ทีมงานต้องการ ตั้งตารอคอย โอกาส(Opportunities) เพื่อพัฒนาทีมงานในโอกาสต่อไปและค้นหาข้อจำจัดของทีมงานและแต่ละบุคคลซึ่งข้อจำกัด(Threats) ซึ่งแต่ละคนในทีมงานไม่เหมือนกัน ขณะเดียวกันข้อจำกัดของผู้ป่วย(หญิงตั้งครรภ์) และครอบครัวก็แตกต่างกันไป ดังนั้น วงล้อPDCA/PDSA/DALI ก็ต้องหมุนไปตลอดกระบวนการทำงานในคลินิกANC เพื่อพัฒนาสิ่งใหม่ ๆ ขึ้นมาเรื่อย ๆ เพื่อลดความเสี่ยง(Risk)ในหญิงตั้งครรภ์) ให้เหลือเป็น ของเสีย(Waste)สูญเสียน้อยที่สุด เท่าทีมงานจะสามารถพัฒนาได้นั้นคือการทำงานที่นำเอา “ระบบLearn” มาใช้ในกระบวนการดูแลหญิงตั้งครรภ์ในคลินิกANCคือการปฏิบัติงาน(Act)ให้ดีที่สุดลดความเสี่ยง ความสูญเสีย ลดของเสีย โดยนำแนวคิดใหม่ ๆ (Rethinking)เข้ามาพัฒนากระบวนการดูแลหญิงตั้งครรภ์ เพื่อสร้างคุณค่าให้กับงาน(Value Added) ซึ่งจะเริ่มต้นตั้งแต่การวางแผน(Plan)หรือการออกแบบ(Design)ให้การดูแลหญิงตั้งครรภ์ การให้บริการ/ดูแล/ตลอดจนสภาพแวดล้อม ความเสี่ยงต่าง ๆ ของหญิงตั้งครรภ์ถูกขจัดออกไป มีการปรับปรุงกระบวนการ(Process Improvement) ให้บริการที่เติมเต็ม(Fulfillment)ไปด้วยการสร้างคุณค่า(Value)ในการปฏิบัติงานใหม่อีกครั้ง(Value creation action) การทำงานก็จะลดช่องว่าง(Gap)กระบวนทำงาน เกิดการเรียนรู้ในงาน เกิดการเรียนรู้ของทีมงานANC และเกิดการเรียนรู้ข้ามสายงาน(Cross Function)ในองค์กร
3) ทีมงานสหสาขาวิชาชีพได้ หาความรู้และเรียนรู้(Learn) เข้าใจ(Comprehend) ใส่ใจ(Attention) ในการ เพิ่มคุณค่า(Value Added) ให้หญิงตั้งครรภ์ ญาติ อสม. ชมรมสายใยรักแห่งครอบครัว เช่น ทีมงานได้เชิญคุณครูจากโรงเรียนบ้าน ท่ายาง มาสาธิต “การเล่านิทาน” ให้หญิงตั้งครรภ์ในชมรมสายใยรักแห่งครอบครัว ซึ่งทำให้เราต้องเรียนรู้ในเรื่องการประสานงาน (Co-ordination) ทั้งในโรงพยาบาลบ้านลาดกับองค์กรภายนอกที่
ดีจังเลยค่ะ ได้ความรู้ใหม่ๆเพิ่ม