“สุขกันเถอะเรา เศร้าไปทำไม อย่ามัวอาลัย คิดร้อนใจไปเปล่า”
ใครเคยได้ฟังเพลงนี้บ้างไหมคะ หลายคนอาจบอกว่า “มันเป็นได้แค่เนื้อเพลง แต่ในชีวิตจริงเป็นไปไม่ได้หรอก มีเรื่องราวมากมาย มาทำให้เราต้องวุ่นวาย”
เรามาลองฟังวิธีสร้างสุขของพี่ระดับผู้บริหารท่านหนึ่งดูไหมคะ ท่านสรุปออกมาได้ง่ายๆเลยค่ะ
1. อย่าเอาทุกข์มาทับถมตนเอง
เป็นเพราะคนเราชอบ “อิน” กับเรื่องของคนอื่น เห็นแต่ความทุกข์ ไม่เห็นความสวยงามที่อยู่รอบๆตัว มัวคิดแต่เรื่องที่เราไม่สามารถแก้ไขได้ เช่นเรื่องที่เป็นหน้าที่ผู้บริหาร ไม่ได้คิดเรื่องหน้าที่ตัวเอง จึงไม่ได้ปรับปรุงตัวหรือพัฒนางานของตนเลย หรือที่คุณนิฐินาถ ณ พัทลุง ได้บอกว่า “รู้ว่าเข็มก็ยังกำให้เจ็บมือ”
2. เก็บความสุขที่ดีไว้กับตัว
ทั้งสุขที่เกิดจากการรับและสุขที่เกิดจากการให้ หรืออาจพัฒนาไปสู่ความสุขที่เกิดจากปิติในการปฏิบัติธรรม
3. อย่าหลงกับความสุข
ทุกอย่างไม่แน่นอน มีขึ้นก็ย่อมมีลง หรือที่มีผู้รู้บอกว่าเมื่อความสุขเข้ามาที่ประตู ความทุกข์ก็จะมารอที่หน้าบ้าน
4. พัฒนาตัวเองทุกวัน
อ่านหนังสือคือส่วนหนึ่งที่ทำให้ชีวิตพัฒนา อย่าหยุดเรียนรู้ ออกกำลังกายให้สมอง เราจะรู้สึกสดชื่น มีชีวิตชีวา
เห็นหลักการทั้ง 4 ข้อแล้ว คงต้องบอกว่าเรามาลองนำไปปฏิบัติกันดูนะคะ ได้ผลอย่างไรลองมา “เล่าสู่กันฟัง” เพราะของแบบนี้ “ไม่ลองไม่รู้ ”ค่ะ
สวัสดีค่ะ
ทั้ง 4 ข้อเป็นข้อคิดที่สามารถนำไปใช้ได้ทันทีค่ะ
ขอบคุณนะค่ะสำหรับข้อคิดดี ๆ ค่ะ
สวัสดีค่ะแวะมารับความสูข ขอบคุณที่นำความสุขง่ายๆมาแบ่งปัน
ขอบคุณนะคะ ที่แวะมาเยี่ยมเยือน จะพยายามต่อไปค่ะ
สวัสดีค่ะน้องลอย
ดีใจจังที่แวะไปทักทาย แนะนำ น้องลอยสบายดีนะคะ
ไม่ได้พบกันนานเลย เมื่อวานคุณทวีสิน กับคุณส้ม มาช่วยเป็นวิทยากรอบรมการเรียนรู้ตัวตนให้ที่คณะค่ะ ตอนกลับไปนั่งทานข้าวด้วยกัน ก่อนส่งทั้ง 2 คนขึ้นเครื่อง ยังคุยกันเรื่องไปญี่ปุ่นเมื่อปีก่อนโน้นเลยค่ะ ว่าพี่ประทับใจมากกับทุกๆคนที่ไปค่ะ แล้วก็คุยกันถึงน้องลอยด้วยค่ะ...สนุกมากๆ ก็หาทางอยู่ค่ะว่าจะไปกันอีก ถ้ามีโปรแกรมยังไงน้องลอยไปด้วยกันอีกนะคะ
สำหรับเรื่องไปเกาหลี ถ้าโชคดี เพื่อนเกาหลีพี่ที่มีครอบครัวอยู่ที่ญี่ปุ่น กับเพื่อนญี่ปุ่นอีกคน (เรียนอยู่แลบเดียวกัน) จะบินมาเจอกันที่เกาหลีค่ะ... พี่จะต้องหาโอกาสขึ้นรถเมล์ตามที่น้องลอยแนะนำแน่ๆค่ะ...ขอบคุณมากๆค่ะ...