ตอนที่ 3 ของเวทีเครือข่ายเรียนรู้สู่ความพอเพียงนี้ ดิฉันตั้งใจจะเล่าความคิดเห็นของคณะครู ที่ตั้งอกตั้งใจกันมากเหลือเกิน ในการที่จะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ เด่นๆ และแนวทาง ดีๆ ของการบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงลงสู่หลักสูตรสาระการเรียนการสอนด้านต่างๆ 8 หมวดวิชาอย่างกลมกลืนและสามารถพัฒนาต่อยอดอย่างยั่งยืน....เราลองมาอ่านผลได้จากเวทีครั้งนี้กันนะคะ...
* หมวดสาระวิชาคณิตศาสตร์ : การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในกลุ่มสาระวิชานี้ สมควรที่จะเน้นการสอนที่ออกนอกกรอบเดิมๆที่มุ่งจะใช้สูตรคณิตศาสตร์ตายตัวในการสอน แต่ควรนำวิถีชีวิตประจำวันสู่ความพอเพียง ผ่านกระบวนทัศน์ของวิชาคณิตศาสตร์ ดังตัวอย่างที่กลุ่มครูได้รับฟังจากวิธีของรร.กัลยาณวัตร จ.ขอนแก่น ที่เล่าอย่างประทับใจในเวทีนี้ คือการปลูกจิตสำนึกให้เยาวชนคำนวณความคุ้มค่าของการบริโภคและการใช้จ่ายออกมาให้เห็นตัวเลขอย่างเป็นรูปธรรม เช่น ในกรณีที่นักเรียนกินข้าวเหลือมากๆทุกวัน หากนับทุกเม็ดคิดออกมาเป็นน้ำหนักข้าว และตัวเงินแล้ว ย่อมสะท้อนพฤติกรรม" กินทิ้ง กินขว้าง " อย่างสิ้นเปลือง ทำให้ผู้กินของเหลือเหล่านี้มีความละอายใจ เร่งรีบปรับตนเสียใหม่ตั้งแต่เริ่มตักข้าวแต่น้อย..ค่อยบรรจงกินจนเกลี้ยงจาน ล้างง่าย..สบายท้อง..เป็นผลทำให้ทรัพยากรโดยรวมถูกใช้เท่าที่จำเป็นอย่างแท้จริง..
* หมวดสาระวิชาวิทยาศาสตร์ : การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่สาระวิชาวิทยาศาสตร์ จะมุ่งเน้นการยกการทดลองวิทยาศาสตร์ออกมานอกห้องเรียนสู่วิถีธรรมชาติพอเพียง เช่น สอนเรื่องนกในสวนรถไฟ ฯลฯ เรียนวิทยาศาตร์บนสิ่งมีชีวิตที่อยู่รอบๆตัวนักเรียน สร้างหลักวิเคราะห์จากการสังเกตบนหลักเหตุหลักผลแทรกอยู่ในทุกโครงงานวิทยาศาสตร์ ที่สามารถประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันอย่างกลมกลืน เช่น การทำน้ำหมักชีวภาพ การผลิตไบโอดีเซล การทำเตาพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นต้น..วิทยาศาสตร์แบบวิถีพอเพียงจึงเป็นวิชาน่าเพลิดเพลิน..น่าจดจำสำหรับเด็กๆ...น่าอิจฉาน้องๆที่สมัยโน้น เด็กยุคนั้น ได้แต่นั่งท่องหนังสือกันหัวโตจริงเชียว และครั้นเมื่อจบจากโรงเรียนออกไป..ได้คืนวิชาคุณครูไปเรียบร้อยแล้ว...
* หมวดสาระวิชาภาษาไทย : การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่สาระวิชาภาษาไทย จะมุ่งเน้นในทุกกิจกรรมภาษาไทย ตั้งแต่ การพูด การฟัง การสร้างนิสัยรักการอ่านนิทานพื้นบ้าน พร้อมทั้งเชื้อเชิญ "ปราชญ์ชาวบ้าน" มาเล่าเรื่องราวดีๆประจำท้องถิ่นสู่ลูกหลานเป็นระยะๆ...คิดอิจฉาอีกแล้วที่น้องๆมีผู้ใหญ่ใจดีช่วยกันใส่ใจดูแล...อย่างนี้แล้วต้องรักถิ่นฐานบ้านเกิดเมืองนอนของเราให้มากๆนะคะ...
* หมวดสาระวิชาภาษาอังกฤษ : การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่สาระวิชาภาษาอังกฤษจะมุ่งเน้นวิเคราะห์นักเรียนก่อนว่า จะใส่เนื้อหาสาระภาษาอังกฤษได้มากน้อยเพียงใด (ใช้หลักพอประมาณ และหลักเหตุหลักผล เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันแก่เด็ก) อีกทั้งแสวงหาวิธีในการดึงสิ่งที่ไกลตัวเด็ก(ภาษาอังกฤษ) ให้เข้ามาใกล้ตัวเด็กอย่างกลมกลืน เกิดความสนุกสนาน อยากเรียนรู้ อยากดูฟัง ไม่รู้จักเบื่อหน่าย เช่น การฝึกร้องเพลงภาษาอังกฤษ เลือกดูหนังภาษาอังกฤษที่มากด้วยสาระน่ารู้น่าชม...หนูๆจ๋า อย่างนี้แล้ว การฟุตฟิตฟอไฟก็เป็นเรื่องกล้วยๆๆแล้วนะคะ...
* หมวดวิชาสาระวิชาสังคม : การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่สาระวิชาสังคมจะ มุ่งเน้นปลูกฝังว่าหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงคือชีวิตของเราทุกคน ทั้ง การกิน อยู่ ดู ฟัง โดยเริ่มจากตัวอย่างที่ครูปริศนา แห่งรร.โยธินบูรณะเล่าว่า ได้รับแผนที่ความดีจากเด็กๆ แต่ละคนที่เลือกสรรหาความหมายของคำว่า "ความดี"ตามที่ตนอยากเป็น พร้อมทั้งแสวงหา "คนดี" ในอุดมคติของตน และจัดทำสมุดบันทึกพฤติกรรมดีๆที่ตนตั้งใจปฏิบัติหรือได้ทำไปแล้วเรียกได้ว่า ทำดีโดยสมัครใจ ที่จริงแล้ว เด็กๆตั้งใจเขียนเป็นบันทึกส่วนตัว ไม่ได้ตั้งใจอวดใคร ให้ดูเฉพาะครูที่ไว้วางใจเสมือนพี่สาว... แต่ครูปริศนาขออนุญาตเด็กๆนำมาเปิดเผยให้เพื่อนครูต่างโรงเรียนดู...ดิฉันได้อ่านบางเล่มด้วยน้ำตาซึมๆ เพราะความประทับใจทั้งเนื้อหาและรูปเล่มนะคะอย่าว่ากันเลย...
* หมวดสาระวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี่ : การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่สาระวิชานี้ จะมุ่งเน้นการสอนให้เด็กๆรู้จักวางแผนที่ดีอย่างรอบคอบ ซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้งานมีความสำเร็จ นอกจากนี้ในทุกกิจกรรมของนักเรียน จะเสริมด้วยการถอดบทวิเคราะห์ และบันทึกไว้ในลักษณะที่เป็นหลักเศรษฐกิจพอเพียง ครูจะทำหน้าที่เป็น "ครูพ่อ-ครูแม่"ที่สนับสนุนกิจกรรมและช่วยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิดไม่ทอดทิ้งแต่อย่างใด....อย่างนี้แล้ว ช่องว่างระหว่างวัยย่อมไม่มีในโรงเรียนอย่างแน่นอนค่ะ
* หมวดสาระวิชาศิลปะ : การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่สาระวิชานี้ จะมุ่งเน้นที่การหามุมมองจุดเด่นที่มีคุณค่าของท้องถิ่น เพื่อสร้างความภาคภูมิใจในผลงานของตน การใช้ศิลปะบำบัดที่สามารถนำมาพัฒนาขึ้นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่วิถีชีวิตพอเพียง อันนำมาซึ่งความงดงามแก่ตนเองและผู้อื่นอย่างยั่งยืน.....ในงานนี้เราจึงได้เห็นตัวอย่างงานศิลปะที่ทำจากวัสดุธรรมชาติหาได้ไม่ยาก ที่มีความแปลกตาสวยงาม น่าดูชมแฝงแนวคิดเชิงเศรษฐกิจพอเพียงที่น้องๆภาคภูมิใจนำเสนอมากมายหลายอย่าง ....ชื่นใจจริงๆนะคะ...
* หมวดสาระวิชาพลศึกษา: การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่สาระวิชาหมวดนี้ มุ่งเน้นความเรียบง่าย ไม่มีรูปแบบตายตัวขึ้นกับบริบทของโรงเรียน ได้ใจเป็นสำคัญ นำจุดเด่นที่โรงเรียนมีมาประยุกต์ใช้แบบพอเพียง เช่น ไม้ไผ่ที่มีมากมายในหมู่บ้านสามารถนำมาดัดแปลงเป็นเครื่องเล่นในวิชาพลศึกษาได้หลากหลายประเภท......เอ้า กิฬาๆเป็นยาวิเศษ..ดับกองกิเลส..ทำให้เป็นคนอดทน.ผลของการฝึกตน..ร้องต่อกันเองค่ะ
ดิฉันได้มีโอกาสเล่าเรื่องข้างต้นด้วยความปลาบปลื้มจริงๆๆ..คิดไม่ถึงว่า ทางออกที่คุณครูทั้งหลายอยากได้มาตั้งนานแล้ว..ได้ปรากฏอย่างชัดแจ้งแล้ว....
โปรดติดตามตอน 4 ต่อไปค่ะ...
สวัสดค่ะ
มาเยี่ยมพร้อมดอกไม้สวยๆค่ะ ขอให้มีความสุขในการทำงานนะคะ