อยู่กับเสียง (รบกวน)เลี่ยงไม่ได้ (2)


กรน และ OSA

   ได้บอกที่มาที่ไปแล้ว ถึงบริบททั่วๆ ไป ตอนนี้มาเขียนเรื่องเกี่ยวกับเสียงและการกรนสักหน่อย ความทุกข์เรื่องเสียงกรนเป็นปัญหาคนฟัง ปัญหาระแวงเสียงกรน เป็นขอเจ้าของเสียง เกรงใจคนฟัง แต่ไม่รู้จะทำไง บางครั้งไปประชุมอบรมด้วยกัน สาวๆ ก็กรนได้ แต่ก็จะอายๆว่า ขอโทษนะ นอนกรน...แล้วจะทำยังไงขอโทษแล้วนี่....ก็นอนอยู่ดี ต้องอาศัยการฝึกสติมาหน่อย มีแรงก็กรนไป...อย่างงี้ไม่เป็นไร

  เวลาอาจารย์หนุ่มคนนั้นที่นั่งมาบนรถ หลับก็กรน หรือ คนอื่นๆนอนหลับ ปกติ กล้ามเนื้อที่ลิ้นและที่โคนลิ้น จะคลายตัวลงไปด้วย ทำให้ลิ้นตกลงไปปิดกั้นทางเดินหายใจ แต่ไม่ได้ปิดสนิท ทำให้อากาศที่เราหายใจผ่านจมูก และผ่านลงไปยังโพรงจมูกด้านหลัง ผ่านไปไม่สะดวกนัก เกิดคล้ายการกระพือ บริเวณที่โคนลิ้น ทำให้เกิดเป็นเสียงกรน กรณีเช่นนี้ ถือว่าเป็นเรื่องปกติ  แต่ว่านั่งหลับบนรถ ก็สามารถเกิดเสียนี้ได้

    ในกรณีถ้าหากเราทำงานหนักมาทั้งวัน หรือเหนื่อยมาก ก็จะนอนหลับสนิทหรือ deep มากทำให้ลิ้นตกลงไปได้มากขึ้น ก็ยิ่งกรนหนักขึ้น แล้วโอกาสที่ร่างกายจะพลิกตัวขณะหลับก็น้อย ทำให้คนที่หลับสนิทมากๆ กรนได้มากกว่าทั่วไป  (ประมาณว่าจริงๆ อาจารย์หนุ่มน่าจะกรนดังกว่านี้ได้)

        วิธีแก้ไข ก็คือ นอนหนุนหมอนให้ศีรษะสูงขึ้น แต่ต้อระวังปวดคอด้วย  หรือถ้ารู้ตัวว่าทั้งวันทำกิจกรรมมากจนเหนื่อยมาก ก็ให้นอนหลับในท่านอนตะแคง หรือเกือบๆคว่ำ ก็จะช่วยลดเสียงกรนได้  กรณีที่กล่าวมา ไม่ถือเป็นความผิดปกติ และไม่ถือว่าเป็นโรค 
ไม่จำเป็นต้องรักษาอะไร  แต่ว่ามันไม่ผิดคนกรน แต่คนได้ยินอาจต้อรักษาอีกเรื่อง ก็ได้ ถ้าอยู่ด้วยกันทุกวัน

          แต่ถ้าคนที่อ้วน มีสรีระบริเวณคอใหญ่ รวมทั้งเนื้อเยื่อในโพรงช่องปาก ด้านในใหญ่ด้วย หลายๆส่วนเลยร่วมกัน ขัดขวางทางเดินของอากาศตอนหายใจ ทำให้กรนได้ง่ายขึ้นหรือมากขึ้น ถึงแม้ไม่ได้หลับสนิทและจะทำให้ร่างกายได้รับออกชิเจน ในขณะหลับน้อยลง ร่างกายก็จะเตือนตัวเองให้ตื่นขึ้นแบบไม่รู้ตัว เพื่อพลิกหรือขยับตัว ให้หายใจได้คล่องขึ้น หรือตื่นเพื่อให้ร่างกายหลับตื้นขึ้น ลิ้นก็จะได้ไม่ตกลงไปขัดขวางทางเดินหายใจ 
             บางคนร่างกายจะตื่นตลอดทั้งคืน โดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัวเลย คิดว่าตัวเองหลับสนิทตลอดทั้งคืน มีผลทำให้ตอนตื่นเช้าจะรู้สึกไม่สดใส ทั้งๆที่นอนไปตั้งหลายชั่วโมง จะรู้สึกเหมือนกับนอนเพียงไม่กี่ชั่วโมง บางทีก็จะปวดศีรษะตอนตื่นนอน กลางวันก็จะง่วงเหงาหาวนอนตลอดทั้งวัน บางครั้งก็ฟุบกับกับหนังสือขณะอ่านหนังสือ หรือฟุบไปกับพวงมาลัยขณะขับรถ เหมือนหลับใน ทั้งๆที่ไม่ได้อดนอนมา ซึ่งเป็นการเสี่ยงต่ออุบัติเหตุได้   ถ้าไม่ได้ขับรถ เวลาไปนั่งไหนก็จะสัปปะหงกอยู่ตรงนั้นเป็นประจำ 

ลักษณะทั้งหมดที่กล่าวมา ถือว่าเป็นโรค  เรียกว่า Obstructive Sleep Apnea (OSA)

               การที่จะวินิจฉัยว่าเป็น OSA ก็ดูจากประวัติที่กล่าวมา นอกจากนี้ อาจต้องเข้าทดสอบ Sleep lab คือต้องไปนอนค้างคืน ในห้องที่จัดให้ แล้วมีสายมอนิเตอร์ วัดคลื่นสมอง คลื่นหัวใจ ความเข้มของออกซิเจนในเลือดขณะหลับ เพื่อวัดดูว่า เมื่อมีการหลับลึก แล้วร่างกายขาด ออกซิเจนแค่ไหน เทียบกับขณะกรน รวมถึงการที่ร่างกายต้องตื่นตัวเพื่อให้หลับตื้น ฯลฯ

                     ถ้าเข้า Sleep lab แล้ว ไม่บ่งชี้ว่ามี OSA ก็แก้ไขการนอนกรน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดเสียง ซึ่งส่วนใหญ่ก็มีสาเหตุจากส่วนประกอบต่างๆ ที่โตขึ้น ตรงไหนโตก็ทำให้เล็กลง เพื่อไม่ให้มาขัดขวางทางเดินหายใจ การตรวจภายในช่องปาก อาจพบส่วนประกอบต่างๆ ที่ใหญ่ขึ้น
เช่น ลิ้นไก่ เนื้อเยื่อที่อยู่ข้างลิ้นไก่ ที่เวลาอ้าปากมองในกระจกจะเห็นเป็นเหมือนซุ้มประตูโค้ง ( Anterior pillar ) รวมทั้ง อาจมีต่อมทอนซิลโตด้วย ถ้าต่อมทอนซิลโต การตัดต่อมทอนซิลอาจช่วยลดเสียงได้ ถ้าลิ้นไก่ และ/หรือ anterior pillar ใหญ่ อาจใช้การรักษา ด้วยเลเซอร์จี้ให้ยุบลงได้ กรณีนี้ต้องปรึกษาหมอทางด้านหู คอ จมูก อันนี้เคยมีอาจารย์เป็นแพทย์ท่านหนึ่ง  และถูกทดสอบอาจารย์เล่าให้ฟัง จึงเป็นข้อยืนยัน ว่าถึงมีความรู้ ก็กรนได้ ไม่เว้นแม้แพทย์ ผู้เชี่ยวชาญเอง

        ถ้าทดสอบ Sleep lab (ตัวอาจารย์ถ่ายรูปมาให้ดูขณะถูกทดสอบด้วย) แล้วบ่งชี้ว่าเป็น OSA ก็ต้องหาสาเหตุต่างๆ แล้วก็แก้ที่สาเหตุ รวมทั้งแก้ไขด้วยเครื่องช่วยหายใจแบบ Positive End--Expiratory Airway Pressure เพื่อป้องกันไม่ไห้เกิดผลแทรกซ้อนต่างๆ ตามมาในระยะยาวเช่น เลือดข้น (Polycythemia) หรือความดันโลหิตสูง

คำสำคัญ (Tags): #osa#กรน
หมายเลขบันทึก: 264180เขียนเมื่อ 29 พฤษภาคม 2009 11:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 07:00 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

แล้วเสียงสวรรค์ (ผู้มีอำนาจมากๆๆ) ชอบสั่งให้เราทำโน่นทำนี่ เข้าท่าบ้าง ไม่เข้าท่าบ้าง จะเลี่ยงได้มั๊ยครับพี่โต๋

Hey Wat..ดีใจจัพบวัฒน์ที่นี่นะ.สบายดีนะ.ถามตรงใจจัง เสียง สวรรค์ผู้มีอำนาจ (บาทีก็นรกนะ)ที่ว่านั่นนะ เสียงสมมุติทั้นั้น.จริงๆแล้ว ต้องถามเสียงภายในทุกครั้งเลย (Inner voice)อีกอย่าง บางครั้งสั่ง แต่ยังไม่ทำ ก็ตายก่อนก็มีนะ...(เสียงตายไปแล้ว ไม่เอามาเป็นอารมณ์) อย่างนี้อยู่ได้กับทุกเสียง...เจ้ว่านะ..That is my opinion and What are your opinion?

เมื่ออาทิตย์ที่แล้วมาจัดบ้านที่ กทม. จัดหนังสือ เห็น เมื่อปลาจะกินดาว รง.สถานการณ์ สวล.47 ยังคิดถึงวัฒน์อยู่เลย...ปีนี้ ปลาจะกินอะไร อะไรกินใจปลาไปยังจ๊ะ..ต้านไหวไหม สถานการณ์ โลกร้อนๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆนะ ไปเรียนต่อ อะไรอีกยังจ๊ะ

ปลาจะกินดาวปี 51 ยังมีอยู่นะครับ รายงานสถานการณ์ปี 52จะเปิดตัวในวันสิ่งแวดล้อมไทย

ช่วงนี้เสียงนรกเสียงสวรรค์ค่อนข้างแรง จนชักจะเบื่อแล้ว ได้ทุนเรียนต่อมาเกือบ 2 ปีแล้ว แต่ยังไปไหนไม่ได้ หน้าที่การงานยังไม่ลงตัว ถ้าถึงมิถุนาปีหน้ายังไม่ไปเขาก็คงจะแล้วทุนแล้วล่ะ

 พี่โต๋คงสบายดีนะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท