มหาวิทยาลัยชีวิต 4


ความหมายของ มหาวิทยาลัยชีวิต

มหาวิทยาลัยชีวิต 4

เขียนโดย ดร . เสรี พงศ์พิศ   

Tuesday, 19 May 2009

           ขณะที่ผู้คนทั่วประเทศมีปัญหาหนี้สิน ปัญหาครอบครัว การทำมาหากิน และชุมชนก็เหมือนกำลังล่มสลาย ไม่สามารถแก้ไขปัญหาร้อยแปดที่รุมเร้าได้  เราได้พบว่ามีบุคคลจำนวนไม่น้อยที่แก้ปัญหาหนี้สิน ปัญหาต่างๆ ของตนเองได้ เราได้พบชุมชนมากมายที่ไม่ได้ล่มสลาย แต่เข้มแข็งและพึ่งพาตนเองได้ และมีไม่น้อยที่โดดเด่นถึงขั้นมีคนไปศึกษาดูงานจากทั่วประเทศและต่างประเทศ
         
         ขณะที่เรากำลังสิ้นหวังกับระบบการศึกษา ซึ่งไม่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาความยากจน ปัญหาหนี้สิน ปัญหาความแตกแยก ความรุนแรง และอื่นๆ เราก็พบว่าชุมชนที่เข้มแข็งทั่วประเทศ ไม่ได้เข้มแข็งเพราะมีงบประมาณมาก มีโครงการมาก แต่เพราะเป็นชุมชนเรียนรู้ มีกระบวนการจัดการเรียนรู้ของตนเองที่มีประสิทธิภาพ เรียนเพื่อแก้ปัญหาและพัฒนาตนเอง 
         
             เราได้ไป “ขอความรู้” จากปราชญ์ชาวบ้าน จากผู้นำ จากชุมชนเข้มแข็งเหล่านี้ เราได้ไป “ร่วมมือกันพัฒนา” ชุมชนท้องถิ่นทั่วประเทศเป็นเวลากว่า 30 ปี ที่สุด ได้ร่วมกับผู้นำชุมชน นักวิชาการ ทำการวิเคราะห์และสังเคราะห์ความรู้จากชุมชนแล้วพัฒนาเป็นหลักสูตรทั้งระยะสั้นระยะยาว รวมทั้งระดับอุดมศึกษา นำกลับไปให้ชุมชนทั่วประเทศได้เรียน เรียนแล้วจะได้พัฒนาและแก้ปัญหาได้เหมือนกับบุคคลและชุมชน “ต้นแบบ” ทั้งหลาย 

มหาวิทยาลัยชีวิต : ความหมาย
         
            มหาวิทยาลัยชีวิต   เป็นวลีที่คิดขึ้นเพื่อบ่งบอกถึง      กระบวนการเรียนรู้   ที่มาจากประสบการณ์ชีวิต เอาชีวิตเป็นตัวตั้ง เอาปัญหาในชีวิต ในชุมชน ในสังคมเป็นตัวตั้ง เอาศักยภาพของตนเอง ของชุมชนท้องถิ่นเป็นฐานและเป็นทุน  เรียนเพื่อแก้ปัญหาและพัฒนาตนเองเป็นประการสำคัญ ไม่ใช่เรียน “หนังสือ” เพื่อจะได้ไป “สอบ” เรียนจบแล้วก็เอาปริญญาไปเร่หางานทำ

           มหาวิทยาลัยชีวิต คือ “รูปแบบ” หนึ่งของการเรียนรู้ ซึ่งเอาชีวิตเป็น “เนื้อหา” มีการจัดการเรียนรู้อย่างเป็น “กระบวนการ” ที่ไม่ใช่การไปสอนให้ท่องจำ หรือไปถ่ายทอดวิชาความรู้ แต่เป็นกระบวนการที่ทำให้ผู้เรียนคิดเป็น และคิดเป็นระบบได้ สามารถสร้างความรู้ใหม่ได้ ความรู้ที่สร้างเองเช่นนี้มีประสิทธิภาพสูง มีพลังที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้

           เรียนในมหาวิทยาลัยชีวิตแล้วชีวิตดีขึ้นตั้งแต่ขณะที่เรียน เพราะการเรียนรู้หมายถึงการเปลี่ยนแปลง เรียนแล้วชีวิตต้องเปลี่ยนไปในทางที่ดีในทันที เพราะการเรียนรู้ที่แท้จริงเป็นการระเบิดศักยภาพของคนจากภายใน ไม่ใช่การยัดเยียดจากภายนอก  ข้อมูลและความรู้เก่าที่อยู่ในตำราก็ดี อยู่ในตัวอาจารย์ผู้สอนก็ดี มีคุณค่าเพียงเพื่อให้นักศึกษาได้ใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างความรู้ใหม่ ไม่ใช่เป็นคำตอบสุดท้ายหรือคำตอบสำเร็จรูป

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 263482เขียนเมื่อ 26 พฤษภาคม 2009 11:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:48 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท