หลัง 25 กุมภาพันธ์ 2535 นายแทะอ่าวจอ


ถ้านายแทะอ่าวจอ ไม่มีเลข 13 หลัก ประเด็นเรื่องขอแจ้งการเกิดและรับสูติบัตร ได้คงจะไม่มีปัญหา แต่อาจจะมีปัญหาต่อไปตามพระราชบัญญัติการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2551 มาตรา 13(5)

ทีมวิจัยโครงการ สถานะและปัญหาของทายาทรุ่นที่ 2 ของผู้ย้ายถิ่นจากประเทศพม่าของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เพิ่งเดินทางจากจังหวัดระนองไป ทิ้งคำถามให้ไว้สำหรับผมที่ปรารถนาจะให้มีการวิจัยเกี่ยวกับทายาทรุ่นที่ 2 ทั้งระบบในสายของสังคมศาสตร์ มาโดยตลอด

 

เริ่มจากเรื่องราวของแทะอ่าวจอที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เป็นทายาทรุ่นที่ 2 โดยแท้ มีพยานหลักฐานอ้างอิงตามที่ท่านเห็นคือ หนังสือรับรองการเกิด ท.ร.1/1 จากโรงพยาบาลระนอง ตั้งแต่เมื่อ 16 ปีที่แล้ว

21 มกราคม 2552

            เขามาพร้อมกับมารดา มาขอความช่วยเหลือเพื่อให้ด.ช.แทะอ่าวจอ ได้ไปขอบัตรสีชมพู (ใบอนุญาตแรงงาน) เนื่องจากว่าในท.ร.38/1 พ่อแจ้งวันเกิดของลูกเป็น 21 มิถุนายน 2540  ทำให้ลูกอายุไม่ครบ 15 ปีบริบูรณ์ ไม่สามารถขอใบอนุญาตทำงาน ทำให้ลูกต้องถูกตำรวจจับซ้ำแล้วซ้ำเล่า

 

ผมก็ถามว่าจะแก้วันเดือนปีเกิดของลูกเป็นวันที่เท่าไร แล้วมีหลักฐานอะไรไหม ที่จะบอกว่าลูกเกิดวันเดือนปีนั้นจริง

 

แม่ของแทะอ่าวจอก็หยิบท.ร.1/1

 

ซึ่งไปขอมาจากโรงพยาบาลระนองมาใหม่สด ๆ ร้อน ๆ ให้ผมดู ผมก็ซักกระทั่งนายตินเซน-พ่อของแทะอ่าวจอเสียงแตกพล่า ผมจึงรู้ว่าที่แจ้งผิดไปเพราะกลัวเจ้าหน้าที่เลยไม่สามารถที่จะแปลวันเดือนปีเกิดของลูกที่จำเป็นภาษาพม่า ออกมาเป็นปีพุทธศักราชได้อย่างแม่นยำ เลยทำให้แจ้งวันเกิดลูกผิดไป นอกจากนี้ในท.ร.1/1 ชื่อพ่อแม่ก็ผิดไปจากหลักฐานปัจจุบัน (บัตรสีชมพู)

 

            พวกเขาก็หยิบใบอนุญาตทำงานฉบับนี้

 

และฉบับสีชมพู 00 ให้ผมดูปรากฏว่าหน้าตาเหมือนกัน การแจ้งชื่อพ่อก็แจ้งชื่อในขณะนั้น ขณะนี้ชื่อนายชายก็เป็นชื่อตามบัตรสีชมพูคือนายตินเซน ส่วนชื่อแม่เข้าใจได้เกิดจากการฟังเสียงอักขระเพี้ยนไป

 

ผมรับปากจะช่วย แต่ว่าไม่สามารถไปแจ้งการเกิดเพื่อขอสูติบัตรได้ เนื่องจากด.ช.แทะอ่าวจอ มีเลข 13 หลักแล้ว

 

ผมก็เลยช่วยทีละขั้นตอนเริ่มจากไปที่ที่ว่าการอำเภอเมืองระนองตั้งแต่เช้า เพื่อขอแก้ไขวันเดือนปีเกิดของด.ช.แทะอ่าวจอจาก 21 มิถุนายน 2540 เป็น 18 มิถุนายน 2536 แม้จะเจออุปสรรคเนื่องจากระบบไม่ยอมให้แก้ ต้องกลับไปตั้งหลักพอช่วงบ่ายทางอำเภอก็แจ้งมาว่าแก้ได้แล้วให้ไปรับท.ร.38/1 ใหม่ จากเด็กชายแทะอ่าวจอ เลยเปลี่ยนเป็นนายแทะอ่าวจอในบัดดล

 

ปัญหาต่อมา.......................

1.เนื่องจากนายแทะอ่าวจอมีเลข 13 หลักแล้ว ไม่สามารถแจ้งการเกิดและขอสูติบัตรได้ จึงต้องขอหนังสือรับรองการเกิดตามม.20/1 ตามพระราชบัญญัติการทะเบียนราษฎร(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2551 แทน

 

แต่ด้วยความด้อยความรู้ทางกฎหมายตามม.20/1 ที่บัญญัติว่า ในกรณีที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้สัญชาติไทยแก่กลุ่มบุคคลใด หรือให้กลุ่มบุคคลใดแปลงสัญชาติเป็นไทยได้ หรือกรณีมีเหตุจำเป็นอื่น และบุคคลดังกล่าวจำเป็นต้องมีหนังสือรับรองการเกิด ให้กลุ่มบุคคลดังกล่าวยื่นคำขอหนังสือรับรองการเกิดตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ผู้อำนวยการทะเบียนกลางกำหนด

 

ผมไม่สามารถหาเหตุจำเป็นอื่นได้ เพราะการที่นายแทะอ่าวจอมีท.ร.38/1 ที่แก้ไขแล้วมีเลข 13 หลักแล้ว และมีอายุถึง 15 ปี แล้ว สามารถที่จะทำบัตรสีชมพูตามที่มาขอความช่วยเหลือจากผมได้ โดยสำนักงานจัดหางานสามารถทำเรื่องตามคำขอของนายแทะอ่าวจอได้ เหตุจำเป็นนั้นจึงหมดไป

 

นี่ถ้านายแทะอ่าวจอ ไม่มีเลข 13 หลัก ประเด็นเรื่องขอแจ้งการเกิดและรับสูติบัตร ได้คงจะไม่มีปัญหา แต่อาจจะมีปัญหาต่อไปตามพระราชบัญญัติการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2551 มาตรา 13(5) เกิดในราชอาณาจักรแต่ไม่ได้รับสัญชาติไทยตามกฎหมายว่าด้วยสัญชาติ

เพราะวรรค 2 บัญญัติว่า ประกาศตามวรรคหนึ่ง คณะรัฐมนตรีจะกำหนดเงื่อนไขอย่างใดไว้ด้วยก็ได้

วรรคสุดท้าย บัญญัติว่า การขอรับใบอนุญาตและการออกใบอนุญาตตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามวิธีที่กำหนดในกฎกระทรวง

 

            ซึ่งบัดนี้ประกาศและกฎกระทรวงก็ยังไม่มี นายแทะอ่าวจอเลยรอดไปไม่เจอสภาวะลำบากอย่างนี้ แต่รายอื่นละ ผมจะมานำเสนอต่อไป และ วันที่ 6 มิถุนายน 2552 ผมอาจได้คำตอบที่ไม่ยากเกินกว่าจะช่วยเหลือ กลับบ้านไปอย่างมีความสุข

หมายเลขบันทึก: 262827เขียนเมื่อ 23 พฤษภาคม 2009 16:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:47 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)

อยากไประนองจัง จะไปเยี่ยมทีละกรณีเลยค่ะ

เรียน คุณจันทร์กระดาษ

ได้อ่านข้อความและความอุตสาหะของคุณแล้วขอยกย่องที่ได้ทำให้คน3-4คน พ่อแม่ลูกคุณเองเป็นอย่างน้อยมีความสุข และรวมถึงอีกหลายๆคนที่ได้อ่าน

ดิฉันเป็นอีกคนหนึ่งที่กำลังหาคนที่จะช่วยเหลือเรื่องดังกล่าว เนื่องจากเด็กหญิงพัชรี

ได้เกิดมาได้ 9 ปีแล้ว แต่ใบเกิดได้ถูกส่งกลับไปพม่า และหายไป ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของพ่อแม่ ที่วันหนึ่งจะต้องส่งให้ลูกเข้าเรียนและต้องใช้หลักฐาน

ข้อมูลเบี้องต้น เด็กหญิงพัชรี เกิดกับคุณแม่ เอ ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกาญจนบุรี

อำเภอลาดหญ้า ซึ่งเธอไม่สามารถระบุชื่อโรงพยาบาลได้ ซึ่งได้ค้นหาโรงพยาบาลมี 2 แห่ง และมั่นใจว่าเป็นรพ. ค่ายพยุหสิงหเสนีย์ เธอเป็นคนรับใช้ของบ้านทหารคนสนิทของอดีตนายกฯ ชวลิต ยงใจยุทธ นายทหารชื่อ สุรศักดิ์ มนตรีวัติ (จะให้ชื่อที่ถูกต้องอีกครั้งจำไม่ค่อยได้) เมื่อเดือนที่ผ่านมา พยายามค้นตามโรงพยาบาล ซึ่งต่างพูดแบบเดียวกันว่า ต้องให้แม่มาเอง และเอกสารเก่ามากอาจค้นให้ไม่ได้ ซึงแม่ที่เป็นพม่าไม่มีบัตรไม่กล้าที่จะเดินทางไปไหน

ดิฉันจึงรบกวนขอคำแนะนำ ซึ่งเด็กหญิงพัชรี จำเป็นต้องมีเอกสารเพื่อเข้าเรียน และได้ผ่อนผ้นมา 1 ปีแล้ว ทางโรงเรียนทวงถามอย่ตลอดเวลา

ขอขอบพระคุณหากสามารถให้คำแนะนำได้ค่ะ

พันทิพย์

  1. ขอเรียนคุณพันทิพย์ว่า เด็กมีสิทธิเรียน เป็นสิทธิมนุษยชน ไม่จำเป็นต้องใช้ใบเกิด
  2. การที่โรงเรียนเรียกร้องใบเกิด เพื่อเป็นเงื่อนไขในการรับสมัครเรียนนั้น ผู้อำนวยการโรงเรียนกำลังจะทำผิดกฎหมายและนโยบายของประเทศไทย
  3. ขอทราบชื่อโรงเรียนนะคะ
  4. ไปร้องเรียนให้ อ.ด๋าว แห่ง SWIT ทำจดหมายไปคุยกับโรงเรียนเลยค่ะ คลิกตรงนี้
  5. หรือจันทร์กระดาษจะทำให้ ก็ดีค่ะ
  6. อ่านงานของ อ.ด๋าว เพื่อทำความเข้าใจเรื่องนี้นะคะ คลิกตรงนี้เพื่อไปศึกษางานทำความเข้าใจกับโรงเรียนแบบมีประสิทธิภาพที่สุด

เริ่มตามไม่ทันแล้ว ฮ่าๆ ๆ

ผมสงสัยนิดเดียว กรณีนี้แทะอ่าวจอมีทร.38/1 ที่เป็นผู้ติดตามใช่ไหมครับ และทำเมื่อ ปี 2547 ถ้าหากพ่อแม่ต่อใบอนุญาตมาตลอด แล้วทำไมเขาถึงยังถูกตำรวจจับอยู่ครับ เพราะมติครม. ก็อนุญาตให้บุตรของแรงงานข้ามชาติกลุ่มนี้มีสิทธิอยู่อาศัยได้ชั่วคราวนี่ครับ

คุณพันธ์ทิพ (ชื่อนี้น่ากลัวอะครับ อิอิอิ ล้อเล่นครับอาจารย์)

ผมมาช่วยอาจารย์ยืนยันว่า การเข้าเรียนของเด็กไม่จำเป็นต้องใช้เอกสารรับรองการเกิดครับ

คือถูกจับไป แล้วไม่ผ่านขั้นตอนกระบวนการยุติธรรม หากผ่านก็มีช่องทางที่จะต่อสู้ได้ ปัญหาก็คือ  "ความเสี่ยง"

 

1.นายแทะอ่าวจอต้องชั่งน้ำหนักระหว่างการให้เงินใต้โต๊ะ กับการต่อสู้ทางกระบวนการยุติธรรม ว่าสิ่งใดคุ้มกว่ากัน เพราะจ่ายเงินใต้โต๊ะหลุดพ้นกรงขังได้ทันที การต่อสู้ผ่านกระบวนการยุติธรรม เขาต้องนอนแห้งในเรือนจำ เพราะมีความเป็นไปได้สูงว่านายแทะอ่าวจอจะมิได้รับการประกันตัวออกมาเพื่อต่อสู้คดีในชั้นศาล เนื่องจากเขากลัวว่านายแทะอ่าวจอจะหนีออกนอกประเทศ

 

2.หากนายแทะอ่าวจอต่อสู้ทางกระบวนการยุติธรรม ปฏิเสธคำฟ้องโจทก์ ในจังหวัดระนองเขาจะต้องอยู่ในเรือนจำอย่างน้อย 6 เดือน กว่าจะขึ้นพิจารณาคดีในชั้นศาล เนื่องจากติดกระบวนการพิจารณาคดีแบบต่อเนื่อง

 

3.เราไม่รู้ว่าจะแพ้ หรือชนะ

 

4.หากแพ้ และในคำฟ้องขอให้ผลักดันนายแทะอ่าวจอกลับ เขาจะทำอย่างไร ในเมื่อกฎหมายบ้านเราแม้นายแทะอ่าวจอจะเกิดในประเทศไทยก็ตาม เรายังถือว่าเป็นคนต่างด้าว นั้นก็คือถูกเนรเทศได้

 

 

ไม่ค่อยเข้าใจประเด็นนี้ครับ

คือ ก่อนหน้านี้ แทะอ่าวจอ มี ทร.38/1 ในฐานะผู้ติดตามใช่หรือป่าวครับ เพราะเห็นในทร.38/1 นั้นเริ่มทำเมื่อ 2547

ถ้าใช่และพ่อแม่เขายังทำใบอนุญาตทำงานจนถึงทุกวันนี้ เขายังมีสิทธิอยู่อาศัยในฐานะบุตรของแรงงานต่างด้าวไม่ใช่เหรอครับ

ยกเว้นกรณีที่แทะอ่าวจอทำงานนะครับ นั่นเป็นอีกประเด็นหนึ่ง

ใช่ครับ ก่อนหน้านี้ลงทะเบียนผู้ติดตาม

ใช่ครับ เขามีสิทธิอยู่อาศัยในฐานะบุตรของแรงงานต่างด้าว

แต่ว่า...ในความเป็นจริง

1.แทะอ่าวจอถูกจับคนเดียว ณ วันที่ถูกจับ และถูกนำตัวไปโรงพัก เขาหาได้พิสูจน์สิทธิอาศัยตัวเขาเองในขณะนั้นไม่ เพราะ ใครจะพกหลักฐานทุกชิ้นทั้งหมดในยามที่เดินทางไปซื้อไข่ไก่ 1 ฟอง เพื่อพิสูจน์ตัวเอง เมื่อไม่ได้พกหลักฐานไป แม้กระทั่งท.ร.38/1 ของตนเอง ย่อมถูกจับกุมไปโรงพัก

2.จะมีตำรวจชุดจับกุมสักกี่คนที่เข้าใจในสิ่งที่ผู้ต้องหาพูด ว่า "ผมมีสิทธิอาศัยตามพ่อแม่นะ" จะมีเจ้าพนักงานสอบสวนใจดีคนไหน ให้นายแทะอ่าวจอนำหลักฐานมาพิสูจน์สิทธิของตนเองในชั้นสอบสวน และพนักงานสอบสวนแล้วมีความเห็นสั่ง "ไม่ฟ้อง"

3.จะมีพนักงานอัยการกี่คน ที่เห็นคล้อยตาม หรือเห็นแย้งกับพนักงานสอบสวนแล้วมีคำสั่ง "ไม่ฟ้อง"

4.จะมีสักกี่เคสในประเทศไทย ที่ถูกสั่งไม่ฟ้อง หรือสั่งฟ้องต่อศาล แล้วศาลมีคำพิพากษา "ยกฟ้อง" เพราะคนต่างด้าวผู้นั้นมีสิทธิอาศัยตามบิดามารดา

5.จะมีคำพิพากษาฎีกาบางหรือไม่ในกรณีนี้ สั่งยกฟ้องตามข้อ 4. เพื่อเป็นบรรทัดฐาน

6.ในความเป็นจริงการมีบัตรสีชมพูไม่หมดอายุ เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้น้อยดูแล้วพิจารณาได้เลยว่า "ไม่จับ"

7.ผมเพิ่งมาเจอนายแทะอ่าวจอ เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2552 การถูกจับในวันที่ผ่าน ๆ มา เป็นอดีตจบสิ้นกันไป ผมไม่อาจช่วยเหลือได้ การถูกจับผมจึงได้ยินจากปากของเขาเท่านั้น

8.ณ วันนี้ หากเขาถูกจับอีก แล้วบิดามารดามาขอความช่วยเหลือจากผม ผมก็จะแนะนำให้เขาจะเลือกว่าต่อสู้เพื่อความบริสุทธิ์ เพื่อเป็นกรณีศึกษา เป็นบรรทัดฐานแก่เด็กคนอื่น ๆ ที่เป็นผู้ติดตาม

หรือจะต่อสู้เพื่อให้ตนเองปลอดภัยในวันนี้ ไม่ยอมให้มีการลงบันทึกประจำวัน แล้วออกมาใช้ชีวิตปกติภายใน 30 นาทีข้างหน้า แล้วก็ไปทำบัตรประจำตัวเสียเพื่อความปลอดภัย

เพราะผมมิอาจรับประกันได้ว่าการต่อสู้ในชั้นศาลจะชนะ

9.นายแทะอ่าวจอต้องเป็นคนเลือกชะตาชีวิตของตน  ถึงที่สุดแล้วชีวิตของใคร คนนั้นตัดสินใจเอง ผมทำหน้าที่ช่วยเหลือ และคอยแนะนำถึงผลของมันเท่านั้น

อื้อ ใช่จริง ๆ แหละครับ น่าจะชวนอาจารย์มาคุยประเด็นนี้ต่อนะครับ เรื่องของสิทธิของผู้ติดตามแรงงานข้ามชาติตามกฎหมาย

ประเด็นต่อมาคือเรื่องของการมีบัตรประจำตัวของผู้ติดตามแรงงานข้ามชาติ เพราะผมเข้าใจว่าผู้ติดตามมีสิทธิได้รับบัตรประจำตัวคนที่ไม่มีสัญชาติไทย เพียงด้านหลังก็จะเป็นเหมือนบัตรประจำตัวทั่วไป ในขณะที่แรงงานข้ามชาติ ด้านหลังบัตรจะเป็นใบอนุญาตทำงาน

ผมเริ่มเห็นอีกประเด็นหนึ่งแล้วครับ ยังไงฝากคุยประเด็นนี้ด้วยนะครับ ในงานวันที่ 6

"เขามาพร้อมกับ มารดา มาขอความช่วยเหลือเพื่อให้ด.ช.แทะอ่าวจอ ได้ไปขอบัตรสีชมพู (ใบอนุญาตแรงงาน) เนื่องจากว่าในท.ร.38/1 พ่อแจ้งวันเกิดของลูกเป็น 21 มิถุนายน 2540 ทำให้ลูกอายุไม่ครบ 15 ปีบริบูรณ์ ไม่สามารถขอใบอนุญาตทำงาน ทำให้ลูกต้องถูกตำรวจจับซ้ำแล้วซ้ำเล่า"

ตรงนี้ทำให้ เรื่องราวหนึ่งแว่บขึ้นมาในหัว กรณีที่เจ้าหน้าที่ยืนยันที่จะให้ผู้ติดตามคนหนึ่งของผู้ถือบัตรแรงงานต่างด้าว ที่อายุเกิน 15 ปี แต่กำลังศึกษาอยุ่ ไปทำใบอนุญาตทำงานให้ได้ จนในที่สุด ก็ต้องไปขอใบอนุญาตทำงานหลอก ๆ เพื่อให้เขามีสถานะอาศัยอยู่

มันเหมือนกับบอกว่า ท้ายที่สุด เราต้องการให้เขาเป็นเพียงแรงงานข้ามชาติระดับล่างค่าแรงถูกของสังคมไทยตลอดไปเพียงเท่านั้น แม้เขาจะได้เข้าเรียน เมื่อเขาจะเรียนเก่งแค่ไหน ท้ายที่สุดทัศนคติ วิธีปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ ยังกดเขาให้เป็นได้แค่เพียงแรงงานไร้ฝีมือราคาถูก หรือ "แรงงานต่างด้าว" เท่านั้นเอง

มีเพื่อนตอนนี้อายุ 20 ปีแล้ว แต่ไม่มีบัตรประชาชน เพราะว่า

พ่อและแม่เค้าเป็นคนพม่า

แต่ตัวเค้าเองเกิดในเมืองไทย โตในเมืองไทย แล้วก็เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 แล้ว

แต่หางานทำไม่ได้เพราะไม่มีบัตรประชาชน เค้าพูดภาษาไทยชัดมาก เรียนเก่ง

จะทำไงดีคะ เค้าต้องการทำบัตรประชาชน

แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรค่ะ

พี่จันทร์กระดาษ ช่วยตอบหนูทีค่ะ ทาง e-mail ก็ได้ค่ะ

E-mail : [email protected]

ขอบคุณมากค่ะ

สวัสดีค่ะพี่จันทร์กระดาษฺ. หญิงต่างด้าวสามรถจดทะเบียนสมรสกับคนไทยได้หรือเปล่าค่ะ. หากได้ต้องใช้เอกสารอะไรบ้างค่ะ. ขอบคุณค่ะ......................................

สวัสดีค่ะพี่จันทร์กระดาษฺ. หญิงต่างด้าวสามรถจดทะเบียนสมรสกับคนไทยได้หรือเปล่าค่ะ. หากได้ต้องใช้เอกสารอะไรบ้างค่ะ. ขอบคุณค่ะ......................................

ผมมีน้องสาวที่พึ่งเรียนอยู่ชั้นม.4 ปัจจุบันมีอายุครบ 15 ปี มีใบสูติบัตรที่ทางโรงพยาบาลออกให้ และพูดภาษไทยชัดเจน รักในความเป็นไทย และเรียนของโรงเรียนรัฐมาตั้งแต่อนุบาล อีกทั้งยังสามารถประกวดได้รางวัลพร้อมประกาศณียบัตรหลายอย่างจากผู้ว่าและของกรมสามัญศึกษา จะสามารถขอสัญชาติไทยได้หรือไม่และต้องทำอย่างไร เมื่อปัจจุบันอายุครบ 15 จะต้องทำอย่างไร เพราะเมื่อเกิดในไทยประเทศยังไม่ให้ความคุ้มครองในส่วนนี้

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท