"บัตรเดียวก็เพียงพอ"หรือ"คนไทย 1 ใบก็พอ"


บัตรเดียวก็เพียงพอ คนไทย 1 ใบก็พอ

            เมื่อวานตอนเย็นก่อนกลับบ้านได้มีโอกาสพูดคุยกับน้องๆในงานค่ะหลังจากที่ผู้เขียนมีงานเร่งด่วนหลายๆเรื่อง และการประชุมต่างๆที่เข้ามาทำให้ไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับน้องๆมานาน เลยได้โอกาสคุยเรื่องสำคัญของหน่วยบัตรทองได้ข้อมูลจากน้องพนและทีมงานค่ะ

            "บัตรเดียวก็เพียงพอ"หรือ"คนไทย 1 ใบก็พอ" เป็นนโยบายของรัฐบาลในการบูรณาการบัตรประชาชนกับบัตรที่ออกโดยส่วนราชการให้ใช้เพียงบัตรเดียว โดยวัตถุประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนและสามารถใช้แทนบัตรทองในการเข้ารับบริการรักษาพยาบาลได้

             และขณะนี้ได้มีการนำร่องใน 13 จังหวัด (นครนายก อ่างทอง นนทบุรี สระบุรี ยโสธร บุรีรัมย์ ร้อยเอ็ด ขอนแก่น น่าน พิษณุโลก สงขลา กระบี่และนครศรีธรรมราช) และจังหวัดพิษณุโลกคือหนึ่งในจังหวัดนำร่องดังกล่าว เริ่มใช้ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2552 และจะดำเนินการให้ครบทุกจังหวัดภายในเดือนตุลาคม2552

บัตรประชาชนรุ่นใหม่(Smart Card) รุ่นใหม่ ต้องมีตราครุฑ 

โดยมีแนวทางปฏิบัติสำหรับประชาชนดังนี้

  1. ผู้ที่มีบัตรประชาชนแบบเก่า ไปขอเปลี่ยนบัตรใหม่(Smart Card) ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ณ ที่ว่าการอำเภอหรือเทศบาลในเขตพื้นที่
  2. ให้ใช้บัตรประชาชนรุ่นเดิมหรือรุ่นใหม่หรือสูติบัตร(กรณีอายุต่ำกว่า 15 ปี)แทนบัตรทองในการรับบริการในจังหวัด
  3. กรณีรับบริการข้ามจังหวัดให้ใช้บัตรทองไปก่อนจนกว่าโครงการนี้จะขยายได้ครอบคลุมทั้งประเทศ
  4. รับบริการได้ตามโรงพยาบาลที่ลงทะเบียนบัตรทองไว้

ประชาชนผู้มีสิทธิบัตรทองในจังหวัดพิษณุโลกและจังหวัดอื่นๆใน 13 จังหวัด รีบไปทำบัตรประชาชนรุ่นใหม่(Smart Card) นะคะจะได้ไม่ต้องพกบัตรหลายใบในการเข้ารับบริการ

สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หน่วยหลักประกันสุขภาพ ของโรงพยาบาลทุกแห่งค่ะ

                           ขอบคุณข้อมูลจากกลุ่มงานประกันสุขภาพ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก 

คำสำคัญ (Tags): #บัตรทอง
หมายเลขบันทึก: 262452เขียนเมื่อ 21 พฤษภาคม 2009 12:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 03:04 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

ขอบคุณเกดมากๆเลยค่ะที่ช่วยเขียนบันทึกนี้ เป็นประโยชน์และทางออกเบื้องต้นสำหรับบุคลากรคณะแพทยศาสตร์ ในเรื่องสวัสดิการสำหรับพ่อ แม่ ลูก น่าจะใช้ระบบนี้แทนไปพลางก่อนที่เราจะมีสวัสดิการดีๆให้กับบุคลากรที่เรียกร้องมา ตอนพี่อยู่โรงพยาบาลจุฬาเงินเดือนเหมือนข้าราชการ สวัสดิการรักษาพยาบาลของพ่อแม่ต้องไปรักษาที่จุฬาจึงจะฟรี ไม่สามารถไปรักษาที่อื่นแล้วนำมาเบิกได้ ส่วนบุคลากรทุกคนน่าจะใช้ประกันสังคมของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวรนะคะ จะได้รักษาที่โรงพยาบาลของเรา

สวัสดีค่ะพี่เกด

      ขอบคุณสำหรับความรู้ใหม่ๆค่ะเพราะว่าคุณแม่ของหัวใจสีขาวก็ใช้สิทธิ์นี้เหมือนกันในกระเป๋าต้องพกบัตรเกี่ยวกับสุขภาพหลายใบถ้าบัตรเดียวใช้ได้ทุกอย่างก็ถือว่าดีมากค่ะ

(ถ้ามีโอกาสว่างตรงกันจะแอบแวะเยี่ยมเพื่อคุยเรื่อง Case              Management ผู้ป่วยมะเร็งและโรคเลือด ของรพ.ต่อนะคะ เราห่างกันไปนานเลยค่ะ)

ยินดีมากค่ะน้องโอ๋ ถ้าคุณแม่อยู่ใน 13 จังหวัดให้รีบไปทำ Smart Card นะคะจะได้ไม่ต้องพกบัตรหลายใบจริงๆด้วย หวังว่า อนาคต รัฐบาลคงมีนโยบาย เช่นเดียวกันนี้ในทั้งกองทุนประกันสังคมและข้าราชการนะคะ เรื่อง Case Manager โรคเลือดทาง สปสช ก็ยังดำเนินการอย่างต่อเนื่องค่ะ แต่ รพ.เราไม่มี Case เลยปีนี้

สวัสดีคะ น้องเกด

ก็หวังว่า smart card คงไม่มีปัญหาอะไร และ รองรับส่วนนี้ได้อย่างดีคะ

ทาง เห็นทางสปสช สาขาเขตสงขลาเริ่มทีจะ สำรวจความต้องการเครื่องอ่าน smart card ในหน่วยบริการแล้ว ขณะเดียวกันก็ยังมี เจ้าหน้าที่บางท่าน ยังไม่แน่ใจว่าจะเกิดขึ้นได้จริงหรือเปล่า เราก็ช่วยกันเอาใจช่วยนะคะ

สวัสดีค่ะพี่ก้ามปู ขอโทษนะคะ ช่วงนี้เกดไม่ค่อได้แวะเข้า บล็อกสักเท่าไหร่ ไม่ชอบเลยต้องแก้ไขตัวเองใหม่แล้ว คิดถึงพี่ก้ามปูนะคะ การดำเนินงานไปได้เรื่อยๆค่ะตามคำสั่ง 555 สนุกดีค่ะ ไม่เครียด

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท