คนเราเดินทางยิ่งใช่เวลามากเท่าใดเรายิ่งจะไปได้ไกลเท่านั้น ในทางตรงกันข้ามกับชีวิตของเราที่เดินทางออกไปไกลเท่าใดเวลาเราก็จะเหลือน้อยลง (เปรียบประสบการณ์เป็นรถยนต์ชีวิตเราเป็นน้ำมัน) ที่พูดเช่นนี้มิได้หมายความว่าไม่ให้เราเดินทาง หรือนั่งรอให้ความตายมาถึง หากแต่หมายถึงว่าเราจะเดินทางอย่างไรน้ำมัน(ชีวิต)ที่เราใช้ไปจะเกิดประโยชน์มากที่สุดและคนที่ได้รับเกิดประโยชน์ที่สุด เราเคยได้ยินชายคนหนึ่งกล่าวไว้ว่า "รถที่มียี่ห้อราคาย่อมแพงและก็ใช้เชื้อเพลิงเปลืองคนก็ชอบซื้อมาขี่เพราะว่ามีฐานะ" เมือเรานำมาเปรียบกับชีวิตของคนเราจะเท่า ดังนี้ รถยนต์มียี่ห้อ=ตำแหน่งหน้าที่การงาน ราคาแพง=เงินเดือนที่สูงตามตำแหน่ง ใช้เชื้อเพลิงเปลือง=เมือจะทำอะไรก็ต้องดูดี มีค่านั่นค่านี่มากมายที่ได้รับ เช่น ค่าที่พัก ค่าเติมนำมันรถ แต่ที่สุดคนเราก็มุ่งมั่นและเดินตามหาสิ่งนั้น ทั้งๆ ที่รู้ว่าสิ่งเหล่านั้นไม่ได้สนองความเป็นคนที่มีประโยชน์ใดเลย คุณเชื่อหรือไม่ว่ารถที่ราคาน้อยกว่า(กระบะในเมืองไทย)สร้างรายได้และมีประโยชน์ได้มากกว่า บีเอ็มดับเบิ้ลยู และที่สำคัญหากไม่มีรถเหล่านี้ในวันนั้นก็จะไม่มีบีเอ็มดับเบิ้ลยูในวันนี้
เพราะฉะนั้นชีวิตเราจึงต้องสร้างคุณค่าสร้างประโยชน์ให้ได้มาก หลายคนกลัวความตายไม่อยากรู่จักมัน นั่นเป็นสิ่งที่ดีมากกว่า ถ้าเรารู้ว่าเราจะตายเมื่อไหร่ยิ่งดี เพราะจะได้รีบสร้างประโชยน์สร้างความดีให้สมกับการที่เราได้ใช้คำว่า คน แทนคำนามอื่น ๆ
สวัสดีค่ะคุณเล็ก
เขียนบันทึกอ่านเข้าใจง่ายค่ะ
แต่ขอตัวโต ๆ อีกนิดน่ะค่ะ อิอิ
ขอบคุณค่ะที่ทำให้รู้จักน้ำมันชีวิต
สวัสดีครับคุณก้าน...ก้านกอ
ยินดีที่จะได้ร่วมสนทนากันและต่อไปในอนาคต และยินดีที่จะได้รับข้อคิดเห็นและข้อเสนอที่ดีๆๆครับ
อยากทำตัวใหญ่ครับ แต่กลัวคนอ่าน(ทำไม่เป็น)อิอิ แนะนำครับ เพราะมันไม่ขึ้นตรงที่เพิ่มขนาดครับ
เล็ก
สวัสดีครับเล็ก
เห็นบันทึกคุณแล้ว ผมสนใจและอยากติดตาม
เพราะมีความรู้สึกว่าบันทึกแรกๆ จะยังคิดอะไรไม่ค่อยออก
แต่สิ่งที่ตัดสินใจนำเสนอออกมาในบันทึกแรก ส่วนใหญ่เป็นความรู้สึกที่ออกมาจากใจ
ผมชอบอ่านบันทึกแรก
วันหลังจะแวะมาอีกครับ
สวัสดีครับคุณกะทกรกบ้าน
ยินดีครับที่ได้รู้จักและร่วมแสดงความคิดเห็นต่อกันในครั้งนี้ และในอนาคตต่อไปด้วย หวังว่าเล็กคงได้มีโอกาศได้รับข้อคิดเห็นหรือแนวคิดที่คุณจะนำมาแลกเปลี่ยนนะครับ
เล็ก