เมื่อวันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๕๒ ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปร่วมปฏิบัติธรรม กับโครงการอบรมพัฒนาบุคลากรด้านจริยธรรมฯของสำนักงานอัยการเขต ๓ หลังจากรถยนต์ได้พาข้าราชการมาถึงวัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม ที่หมายแล้ว ต่างเก็บสัมภาระแยกย้ายเข้าที่พัก
ข้าราชการที่เป็นชาย แม่ชีได้จัดให้เข้าที่พักที่ศาลาหลังใหญ่ ๒ ชั้น ผู้ปฏิบัติธรรมจำนวน ๒๕ คน ต่างตกลงกันโดยปริยายจะนอนรวมกันที่ชั้นล่าง เพื่อความสะดวกในการเข้าห้องน้ำ และเดินไปร่วมกิจกรรมต่าง ๆ
รอบ ๆ ศาลา มีสวนผลไม้ ห้องน้ำ ศาลาหลังเล็ก ๒ ชั้น มีคนงานที่ทำงานก่อสร้างของวัดพักอยู่ แต่ที่ด้านหน้าศาลาห่างไปประมาณ ๒๐ เมตร เป็นเมรุเผาศพ ศาลาตั้งศพ พวกเราสามารถมองเห็นได้ชัดเจน ทำให้เกิดอาการกลัวไปตาม ๆ กัน
สถานที่พักเป็นพื้นที่โล่ง มีเพียงเสื่อและหมอนคนละใบ ต่างคนต่างเลือกสถานที่ตามใจสมัคร ผู้เขียนเลือกที่นอนใกล้กับประตูเข้า-ออก เพื่อสะดวกในการเข้าห้องน้ำ และเมื่อมีใครเข้า - ออกจะปลุกให้ตื่นไปในตัว ผู้ที่มาพักรวมในครั้งนี้ มีท่านอธิบดีอัยการฝ่ายคดีศาลสูงเขต ๓ อัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษ อัยการพิเศษฝ่าย ทุกคนจะนอนเหมือนกันหมด มีเสื่อ และหมอน บางท่านอาจใช้ผ้าขาวม้าปูนอนทับเสื่ออีกชั้นหนึ่ง ทำให้เกิดความรัก ความสามัคคี และมีความสนิทสนมระหว่างผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับชาแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ผู้เขียนสังเกตุผลจากการนอนกับพื้น ปรากฏว่าไม่มีอาการปวดหลังและลำคอ ทุกครั้งหากนอนที่นอนที่บ้านพัก จะมีอาการปวดหลังอยู่เป็นประจำ การนอนกับพื้นราบ ปราศจากสิ่งอำนวยความสะดวก จะทำให้กระดูกสันหลังไดพักผ่อนมากขึ้น
นอกจากนี้การที่ได้มานอนที่ใหม่ ทำให้จิตใจเบิกบาน แช่มชื่นจากการที่ทำวัตรสวดมนตร์เย็น แล้วยังได้แผ่เมตตาและอุทิศบุญกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวร และสรรพสัตว์ทั้งหลายทำให้นอนหลับสบาย ไม่ฝันร้าย ภายในสมองปลอดโปร่ง โล่งใส ไม่หนักสมองดังเช่นที่ขณะปฏิบัติงานที่สำนักงาน...หากท่านมีเวลาและโอกาส ก็ลองไปปฏิบัติดู ไม่ทำก็ไม่รู้...