Pui
นางสาว อัมพวรรณ อิ่มเอมทรัพย์

สมาธิกับการบำบัด


        ในช่วงวันหยุด(ตัวเอง) ที่ผ่านมา มีโอกาสได้เข้าไปบวชพราหมณ์อีกครั้ง ณ วัดดอยเกิ้ง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ตามคำแนะนำและเชิญชวนของน้า นำว่าเป็นโชคดีมากที่ตลอดระยะเวลา 9 วันนี้มีโอกาสได้ฝึกสมาธิกับพระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ เจ้าอาวาส เนื่องด้วยตามปกติ ท่านพระอาจารย์ จะมีกิจนิมนต์ไปสอนสมาธิยังที่ต่างๆทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยตลอด

การมาบวชครั้งนี้ไม่เหมือนหลายๆครั้งที่ผ่านมา เพราะที่นี่มีการฝึกสมาธิ 2 แบบ

1. เพื่อการหลุดพ้น

2. เพื่อการบำบัด

ช่วงห้าวันแรกหนูฝึกแบบที่หนึ่งค่ะ แล้วหลังจากนั้นจึงมีโอกาสได้ลองฝึกแบบที่สอง

....................................................

สำหรับการทำสมาธิเพื่อการหลุดพ้นนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย แม้ว่าคำสอนของพระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ จะฟังดูง่ายๆ เพียงแค่ว่า

1. ปล่อยว่าอารมณ์..อดีตว่าง ปัจจุบันว่าง อนาคตว่าง อันนี้ง่ายๆ ทำได้ค่ะ

2. เอาจิตไปไว้ที่ใดที่หนึ่งในร่ายกาย แล้วดูการเต้นของมัน สำหรับการปฏฺิบัติแรกๆนั้น ใช้การนำไปวางไว้ที่ใจก่อน พอทำแล้วเกิดความรุ้สึก ตุบๆ สักพักรู้สึกว่าร่างกายมันกระเพื่อมๆอยู่ตลอดเวลาตามการเต้นของหัวใจค่ะ

3. ดูไปเรื่อยๆจนมันสลายไป จากนั้นก็เอาจิตไปว่างจุดอื่นต่อ ดุไปเรื่อยๆ จนมันสลายไปทั้งหมด เจ้าภาวะสลายไปนี่แหละค่ะ อะไรคือสลายไป พระพุทธเจ้าข้า!! หนูงง!! โดยส่วนตัว เท่าที่รู้สึกได้คือ เราจะไม่เห็นว่ามันเป็นแขน เป็นขา เหมือนคล้ายๆเราเจาะผ่านผิวหนังที่หุ้มไปเจอเจ้าเซลล์เล็กๆมันพร้อมใจกันกระตุกๆ ตามการเต้นของหัวใจอะค่ะ

4. เมื่อจิตไม่มีที่เกาะ มันจะดิ้นรน จนในที่สุดจะเกิดอาการจิตพลิก พระอาจารย์บอกว่า อาการนี้มันจะมีลักษณะวาบแบบฟ้าแลบ ภาวะนี้ยิ่งแล้วใหญ่ค่ะ จิตพลิก บุญบารมีไม่พอค่ะ เข้าถึงไม่ได้

5. แล้วเราก็จะเห็นทาง เห็นมรรค เพื่อไปสู่สภาวะธรรม ความดับทุกข์  และท้ายที่สุดการหลุดพ้น

 

คำพูดง่ายๆนะคะ แต่ลึกซึ้งมาก หนูคงไม่อาจเข้าสู่สภาวะนั้นได้ค่ะ เหมือนเอาด๊อกเตอร์มาคุยกับเด็กประถม ง่ายที่สุดแล้วแต่หนูก็งง (ฮา) สรุป ถ้าท่านใดสนใจเรียนเชิญได้ที่วัดค่ะ

....................................................................................................

เรามาดูแนวทางที่สองดีกว่าค่ะ อันนี้เป็นแนวทางที่เราสัมผัสได้ นั่นคือ สมาธิเพื่อการบำบัด

ที่นี่การบำบัดต้องมีอุปกรณ์ช่วยค่ะ นั่นคือ ปิรามิด อ่านมาถึงตรงนี้บล๊อกเกอร์หลายท่านอาจคุ้นๆเพราะ เคยมีการปล่อยของออกมาแล้วใน g2k แห่งนี้

แต่วันนี้ยิ่งกว่าวันวานค่ะ เพราะไม่เฉพาะนวัตกรรมในการลดมลภาวะเท่านั้น เรายังสามารถใช้พลังปิรามิดในการบำบัดร่างกายได้ด้วย

ทั้งการนวดปิรามิด: การเข้าไปอยู่ในเครื่องยกอากาศพลังงานปิรามิดแล้วก็ใช้ทิศต่างๆเพื่อช่วยในการนวด เริ่มตั้งแต่คลายเส้น นวด ดึงเส้น คล้ายเส้น ซึ่งจะหันหน้าไปยังทิศต่างๆลองฝึกแล้วก็รู้สึกว่า ก็ดีนะคะ โดยเฉพาะตอนดึงเส้น เพราะท่าโยคะที่ใช้ในการดึงเส้น รู้สึกจะทำง่ายกว่าปกติ

การใช้เส้นปิรามิดในการบำบัดโรค: การนำปิรามิดมาว่าในแนวตะวันออก ด้านหน้าและหลังของเรา แล้วจินตนาการว่าเป็นเส้นปิรามิด แล้วเอาเส้นเหล่านั้นมาถู บริเวณที่เจ็บ ลองทำแต่ทำไม่ได้ค่ะ คงเป็นเพราะเราสงสัยมากไปมั้งคะ ว่าเจ้าเส้นนี้มันเป็นอย่างไร

แล้วก็มีน้ำพลังปิรามิด: น้ำที่เกิดจากการเอาไปผ่านปิรามิด ทำให้น้ำเกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับโมเลกุล มีพลังมากขึ้น

ฟังครั้งแรกๆ ก็งงนะคะ อาจด้วยเพราะไม่เคยเห็นอะไรอย่างนี้อีกทั้งเป็นอะไรที่เหมือนจะไปกันใหญ่แล้ว (จิตอกุศลทำงานเร็วค่ะ หุหุ) แต่ด้วยบุญยังพอมี จึงมีโอกาสได้เข้าไปอบรม สองคืน สามวัน (เค้าจัดในช่วงหนูไปบวชพอดีค่ะ อิอิ) จึงได้รู้ว่า สิ่งที่คุณไม่รู้ ไม่เห็น อย่าคิดว่าไม่มี หึหึหึ

.........................................................................................................

สมาธิ กับปิรามิด มาด้วยกันได้อย่างไร..หนูกลั่นกรองมาเองได้อย่างนี้ค่ะ

  • สมาธิทำให้เกิดกระแสพลังจิต
  • ปิรามิดมีพลังแฝงเร้นในตัวเองที่วงการวิทยาศาสตร์ยังค้นหาคำตอบกันอยู่
  • เมื่อพลังอันละเอียดส่งไปยัง พลังอันละเอียด..เรื่องละเอี๊ยดละเอียด ระดับเซลล์จึงเกิดขึ้น

............................................................................................................

 

พระอาจารย์รัตน์ บอกว่า โรคที่มันเกิดขึ้นมาเดี๋ยวนี้ ไวรัสใหม่ๆที่เกิดขึ้น เกิดจากพลังของเส้นแรงแม่เหล็กโลกปั่นป่วน เกิดเป็นคาร์บอนไปเกาะตามผนังเซลล์ของเรา ส่งผลให้ร่างกายของเราที่เป็นเซลล์นับล้านรวมตัวกันเกิดการปรวนแปร แล้วจึงเกิดเป็นโรคต่างๆ ที่เห็นเด่นชัดในตอนนี้ก็อาทิ โรคเหน็บชา ซึ่งเริ่มเกิดขึ้นเรื่อยๆ เป็นเพราะคาร์บอนมันไปเกาะผนังเซลล์หัวใจ ทำให้เลือดสูบฉีดไปยังสมองลำบาก ดังนั้นสมองจึงสั่งการติดๆขัดๆ การดึงพลังปิรามิดไปใช้ก็เพื่อไปทำลาย ไปขัดเจ้าคาร์บอนพวกนี้ออกจากเซลล์โดยเฉพาะบริเวณหัวใจ เพื่อให้ทำงานดีขึ้น ส่งเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆได้มีประสิทธฺภาพมากขึ้น


อ่านมาถึงตรงนี้ เริ่มทึ่งแกมสงสัยใช่มั้ยคะ ว่าทำไมพระอาจารย์รัตน์ถึงพูดได้ถึงขนาดนี้ มีคนสงสัยท่านอย่างงี้เยอะค่ะ  พระอาจารย์บอกว่า เหล่านี้เป็นไปด้วยเพราะการฝึกสมาธิ ความรู้อยู่ในจิต หรือ จิตคือผู้รู้นั่นเองค่ะ และจากประสบการณ์ตรงนะคะ การไปฝึกที่นี่ควรจะทำตัวให้เป็นเด็ก ป. 1 ที่ไม่สงสัยอะไร ท่านบอกให้ทำก็ลองทำ เดี่ยวก็จะรู้เองค่ะ


มีสื่อทั้งจากโทรทัศน์ วิทยุ และหนังสือพิมพ์จากทั้งในและต่างประเทศเดินทางเข้าไปเพื่อสอบถามเรื่องนี้เยอะมากค่ะ วันนี้เลยเอาคลิปวีดีโอ มาให้ชม (ตอนแรกเอามาใส่ในบันทึกแล้วค่ะ แต่ลิ้งค์มีปัญหา รบกวนตามไปชมเองยังต้นสังกัดนะคะ)

หากสนใจเข้าอบรมนะคะ สามารถเดินทางไปที่วัดได้ค่ะ จะมีการอบรมทุกเดือน เดือนละครั้ง  ณ วัดดอยเกิ้ง และ ณ สวนบูรณรักษ์ธรรม จ.เชียงใหม่ค่ะ

การอบรมครั้งต่อไปจัดขึ้นวันที่ 5-7 มิถุนายน 2552 ณ วัดดอยเกิ้งค่ะ

คิดเห็นกันเป็นอย่างไรก็เล่าสู่กันฟังนะคะ :)

 

 



ลิงค์เพิ่มเติม

สันตติ

ถอดรหัสภัยพิบัติ โดย พระอาจารย์รัตน์ และดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา

การฝึกนั่งสมาธิโดยใช้ปิรามิด

การปรับเปลี่ยนการใช้พลังพีระมิด และพลังกระแสลมปราณ

ทางเลือกสุขภาพ

หมายเลขบันทึก: 261245เขียนเมื่อ 14 พฤษภาคม 2009 22:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน 2012 02:32 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท