เดี๋ยวนี้ธนาคารพาณิชย์ทั่วไป เราฝากเงินออมทรัพย์ปีละ ๑๐,๐๐๐ บาท เราจะได้ดอกเบี้ยร้อยละ ๕๐ สตางค์ต่อปี ปีหนึ่งเราจะได้ดอกเบี้ยเพียง ๕๐ บาท เท่านั้นเอง แต่ทางธนาคารจะบังคับให้เราต้องทำบัตร ATM กับธนาคาร และเสียค่าบริการบัตร ATM ปีละ ๑๐๐ บาท นี่ยังไม่คิดเรื่องบัตรหายอีกนะครับ ซึ่งต้องเสียค่าทำบัตรใหม่อีก..
ถ้าคิดว่า ๑ คน มีบัตร ATM ๑ ใบ ถ้าครอบครัวหนึ่งก็น่าจะมีบัตร ATM ๒ ใบ เราก็น่าจะเสียค่าบริการบัตร ATM ปีละ ๒๐๐ บาท.....ถ้าประหยัดเงินได้ ๒๐๐ บาท ต่อปีต่อครอบครัว จะสนใจไหม...ผมคิดว่าถ้าคนที่มีเงินเดือนมากๆ คงไม่สนใจหรอก...เอาสมองไปคิดหารายได้เพิ่มอีกปีละ ๑๐๐,๐๐๐ บาท จะดีกว่า
แต่ครอบครัวตึ๋งหนืดของผม เลือกที่จะขอประหยัดปีละ ๒๐๐ บาท แล้วเอาเงิน ๒๐๐ บาทที่ประหยัดได้ไปบริจาคให้สาธารณประโยชน์จะดีกว่า
วิธีประหยัดของผมคือ
ข้อสำคัญของการใช้บัตรเครดิตคือ
มนุษย์ผึ้งมหัศจรรย์ |
สวัสดีครับอาจารย์
ไพทูลครับ พบอาจารย์ที่ร้านอาหารเจ ก็แอบปลื้มอยู่แล้วถือศีล กินเจ น้อยคนนะครับที่ปฏิบัติได้(เมื่อคิดเชิงปริมาณกับประชากรที่มีอยู่ คิดเอาเองนะครับ) พอมาอ่านเรื่องการประหยัดของอาจารย์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันแล้วขอชื่นชมด้วยจิตคาระวะครับ
บางคนบอกว่าไม่มีเงิน แต่ไม่เคยคิดว่าจะเก็บเงินอย่างไร โบราณว่าอย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา ถ้าจะจริงครับ ค่ารักษาสิทธิบัตรต่างๆต่อไปหายไปเยอะครับ
เรียนคุณไพทูล
สวัสดีค่ะอาจารย์
เรียนครูคิม
beeboy555
ดูเหมือนกรุงไทยจะหักค่าธรรมเนียมบัตรatm 180บาทแล้วค่ะ. แพงมาก
ชอบบันทึกอาจารย์ค่ะ อ่านไปหลายเรื่องแล้ว
ดิฉันก็ใช้เงินอย่างรู้คุณค่า เพราะเราเคยลำบาก แต่คนรุ่นใหม่เรียกว่าขี้เหนียว และใช้เงินกันง่ายๆ ไม่ต้องคิด แล้วไปติดลบปลายเดือน ดิฉันตอนอายุน้อยเงินเดือนนิดเดียวต้องส่งน้องเรียนสองคนแต่ไม่เคยคิดว่าตัวเองยากจนขัดสน
ดิฉันสงสัยว่า ถ้าคนที่ไม่เคยลำบากเเรื่องเงินจะรู้คุุณค่าของเงินหรือเปล่า
อยากเห็นคนรุ่นใหม่ที่ไม่ฟุ่มเฟือย ใช้เงินเป็น
ขอบคุณ คุณศิรินุช
เรียนคุณนุ้ย