..คำสาปของพ่อเรา..


นางจะไม่ขอร้อง ไม่อ้อนวอนต่อชายผู้ซึ่งนางมีใจสมัครสมานรักใคร่ ในเมื่อเขาเชื่อในสิ่งที่เขาเห็น เชื่อในสิ่งที่ผู้คนร่ำลือ นางก็จะปล่อยเขาไป

...........****..........


กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ตั้งแต่สิ่งต่างๆ ในจักรวาลยังคงร้องเพลงกล่อม ทางช้างเผือก

มีสามสหายบนจักรวาลนี้ ที่เกิดมาต้องพึ่งพาอาศัยกัน ทั้งสามรักกันมาก แม้จะมีทะเลาะเบาะแว้งกันเป็นบางครั้งบางคราว

สามสหายมีชื่อว่า โลกา จันทรา และ อาทิตย์   จันทรา กับ โลกา นั้นเกิดมาพร้อมกัน ส่วนอาทิตย์นั้นกำเนิดมาก่อนที่โลกาและจันทรา จะถือกำเนิดในจักรวาล แต่อายุไม่ใช่สิ่งสำคัญ กาลเวลา ณ บัดนั้น ทุกสรรพสิ่งคือมิตรของซึ่งกันและกัน

จันทราและโลกา เป็นเพื่อนที่แยกจากกันไม่ได้ ไปไหนก็ต้องไปตามกัน ส่วน โลกากับอาทิตย์นั้น ก็มีความสัมพันธ์เช่นเดียวกัน ฟากจันทราและอาทิตย์ ทั้งสองเป็นเพื่อนที่เป็นคู่รักคู่แค้นกัน โดยมีโลกา เป็นกรรมการ ทั้งสามอยู่ด้วยกันมาอย่างมีความสุข ตื่นเช้าขึ้นมา อาทิตย์จะปลุกเรียกจันทราและโลกา ให้ตื่น มาขับร้องบทเพลง เพื่อกล่อมจักรวาล กิจกรรมของทั้งสามนั้น ผู้ใดผ่านมาพบเห็นต่างก็ชื่นชม ด้วยโลกา จันทราและอาทิตย์เป็นนักดนตรีและเสียงขับร้องที่ไพเราะ

ด้วยความที่ผู้คนต่างชื่นชมเสียงอันไพเราะของทั้งสาม เวลาที่สามสหายจะขึ้นร้องเพลงกล่อมจักรวาล จึงต้องแต่งองค์ทรงเครื่องให้เลิศหรู จันทรานั้นเป็นเป็นสตรีเพศ จึงเลือกใส่ชุดสีเหลือง ส่วนอาทิตย์ผู้ซึ่งเป็นบุรุษที่เกรียงไกร ขอเลือกสีแดง เนื่องจากเป็นสีสันที่บ่งบอกความเป็นผู้มีอำนาจ โลกา ผู้ซึ่ง เป็นบุรุษเพศแต่มีจิตใจโอบอ้อมอารี เลือกใส่ชุดหลากสีสัน

ในวันที่ทั้งสามขึ้นร้องเพลงกล่อมจักรวาลอีกครั้งหนึ่ง จึงทำให้ผู้คนในจักรวาลทราบว่าจันทรานั้นเป็นอิสตรี เรื่องอลเวง โอละพ่อ กำลังถือกำเนิด พระพุธ บุรุษเพศผู้ซึ่งมีจิตใจเย็นชาและเหน็บหนาว เกิดพึงพอใจในตัวของจันทราขึ้นมา  แต่จันทราหาได้มีใจปฏิพัทธ์ก็หาไม่ นางจึงได้ปฏิเสธไมตรี แต่พระพุธ ก็หาได้เลิกราไป พระพุธยังคงวนเวียนชิดใกล้ ไล่ตามจันทราอยู่เป็นนิจ

อาทิตย์ ผู้ซึ่ง เป็นคู่รักคู่แค้นของจันทรา เห็นนางมีชายอื่นมาพัวพันชิดใกล้ ก็เกิดอารมณ์ฉุนเฉียวโมโห หนีไปอยู่คนละฟากฟ้ากับนาง ใครเอยจะรู้จันทราเจ็บปวดเพียงใด นางทนกล้ำกลืนเงียบเฉย ไม่นางจะไม่ขอร้อง ไม่อ้อนวอนต่อชายผู้ซึ่งนางมีใจสมัครสมานรักใคร่ ในเมื่อเขาเชื่อในสิ่งที่เขาเห็น เชื่อในสิ่งที่ผู้คนร่ำลือ นางก็จะปล่อยเขาไป

จันทรา เด็ดเดี่ยวยิ่งนัก กาลเวลาผ่านไปช้านาน นางก็อยู่เคียงข้างโลกา อย่างนิ่งเฉย ขับร้องเพลงกล่อมจักรวาลไปตามหน้าที่ ส่วนพระพุธนั้นเล่า ไม่ทราบความในระหว่างจันทรากับอาทิตย์ พระพุธก็เฝ้าติดตามนางไปทุกหนแห่ง โดยมีโลกา เป็นผู้คอยเฝ้าติดตามดู

จันทราผู้ซึ่งตรอมตรมกับความรักที่ถูกเข้าใจผิด เริ่มมีอาการผิดปกติเกิดขึ้น นางเริ่มผ่ายผอม หมองหม่นไปทุกราตรี ยิ่งนับวันแสงที่เคยเรื่อ ก็ค่อยๆ รี่ดับลงไปทุกราตรี เวลาทิวา ที่นางจักได้เจอหน้าอาทิตย์นางก็เริ่ม หลบหนีหน้า ซ่อนอยู่เบื้องหลังโลกา พระพุธผู้ซึ่งหลงรักนางอยู่ก็เฝ้าติดตามไปดู ไม่ยอมขับร้องดนตรีบรรเลงเพลงกล่อมจักรวาลร่วมกับอาทิตย์

โลกาผู้ซึ่งเป็นเพื่อนของเหล่ามวลดาริกา และเหล่าดารา บนจักรวาลนี้ รู้สึกเห็นใจเพื่อนยิ่งนัก แต่ไม่อาจจะก้าวก่าย เนื่องด้วยตนนั้นก็รักจันทราเช่นน้องสาว จักกล่าวการใดไปก็จักทำให้นางเสื่อมเสีย โลกาจึงนิ่งเงียบ ไม่เอ่ยสิ่งใดต่ออาทิตย์สหายรัก

วันเวลาล่วงเลยผ่านไป จันทราก็หม่นหมองคล้ายจะดับแสงไปทุกวัน พระพุธก็ได้แต่เฝ้าดูแลติดตาม แต่ไม่อาจรักษาให้นางได้ ความลับนั้นอยู่ใต้กำมือของเขาและโลกา ไม่อาจจะบอกผู้ใดได้ทั้งสิ้น ทุกฝ่ายต่างทุกข์ใจจนไม่อาจร้องเพลงขับกล่อมจักรวาลได้เช่นเคย

ในที่สุดวันอันสุดแสนวิปโยคก็ได้มาถึง จันทราดับแสงไปแล้ว ดาวจรัสแสงสีเหลืองนวลมืดมิด สูญสิ้นแสงแห่งชีวิตไปพร้อมกับโลกา ได้รับของขวัญชิ้นพิเศษจากนาง อันเป็นเพื่อนรักและน้องสาว โลกาได้เลี้ยงดูอุ้มชู บุตรแห่งนางไว้ แต่มิอาจเอื้อนเอ่ยบอกผู้ใด โลกาจึงได้ประกาศแก่ผู้คนทั่วทั้งจักรวาลว่า เด็กน้อยอันนามว่ามนุษย์ที่ถือกำเนิดมานั้น เป็นบุตรแห่งตน

ผู้คนจึงได้กล่าวขานและเล่าเป็นตำนานสืบต่อกันมาว่า โลกผู้ให้กำเนิด พระพุธผู้ซึ่งรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง ผู้ที่เฝ้าดูแลและรักษาจันทราตลอดเวลาที่นางทนเก็บตัวเพื่อรอวันเวลาให้กำเนิดบุตร เห็นว่าหากตัวยังนิ่งเฉยบุตรแห่งจันทรานั้นคงมิได้มีโอกาสเห็นหน้ามารดาเป็นแน่แท้ พระพุธจึงได้ส่งสารไปหาอาทิตย์ ให้ช่วยปลุกจันทราให้ฟื้นคืนชีพ

ฝ่ายอาทิตย์ผู้หยิ่งทระนงในศักดิ์ศรีแห่งตน เห็นพระพุธส่งสารมาร้องขอเช่นนั้น จึงโมโห บันดาลโทสะ สาปแช่งให้พระพุธจงตกระกำลำบากในเรื่องความรัก หากรักใครชอบใครขออย่าได้สมหวัง หากไม่รักไม่ชอบใครขอให้เขานิยมชมชอบจนเกิดปัญหา เมื่อสาปพระพุธเสร็จ อาทิตย์ก็สาปจันทรา ให้ดับแสงชั่วนิรันดร์กาล เนื่องด้วยแค้นที่คิดว่าคนรักแบ่งใจให้ชายอื่น

โลกา ที่ได้ทราบสิ่งที่เพื่อนกระทำไป ต้องตกใจอย่างใหญ่หลวง ขอร้องให้อาทิตย์ถอนคำสาป แต่อนิจจา คำสาปของอาทิตย์หากสาปไปแล้ว ไม่อาจถอนคืนได้ โลกา ได้แต่ร่ำไห้ เด็กน้อยที่เพิ่งถือกำเนิด ไม่มีโอกาสจะได้เห็นหน้าแม่ตลอดไป แล้วยังถูกผู้เป็นบิดาเข้าใจผิด สาปแม่ให้ดับสูญ โลกาจึงได้เล่าความจริงให้แก่อาทิตย์ฟัง

อันที่จริงแล้ว มนุษย์น้อยที่เพิ่งถือกำเนิดนั้น เป็นบุตรแห่งแสงทั้งปวง อันได้แก่ บุตรพระอาทิตย์และนางจันทรา โลกานั้นรับมาอุปถัมภ์เพราะรักนางจันทราเช่นน้อง และรักพระอาทิตย์เช่นดังพี่ชาย พระอาทิตย์เมื่อได้ยินคำบอกเล่าจากปากของโลกาเพื่อนรัก จึงได้แต่ร่ำร้องหวนไห้ ในความผิดที่ได้กระทำไป หากแต่ไม่สามารถถอนคำสาปที่ได้สาปไปได้

พระอาทิตย์ตัดสินใจให้พรแก่ผู้ที่ถูกสาป เพื่อไถ่ถอนบาปที่ตนได้กระทำไป โดยให้พรแก่พระพุธ ให้พระพุธมีสองภาค ภาคที่ถูกสาปนั้น ให้เรียกว่าพระราหู แม้จะอาภัพรักแต่ให้เป็นผู้ที่มีอำนาจเหนือดวงดาราใดๆ บนจักวาลนี้ ส่วนพระพุธอีกภาคหนึ่งนั้น ขอให้เป็นผู้ที่อบอุ่นเป็นดั่งสายธาร ให้กำเนิดแก่ทุกสรรพสิ่ง เป็นหัวใจของจักรวาล

ส่วนจันทรานางอันเป็นที่รักนั้น ด้วยถูกสาปให้สิ้นแสงไปตลอดกาล พระอาทิตย์จึงให้พรแก่นางว่า เพลาใดที่พระอาทิตย์ ลับแสงให้นางฟื้นคืนชีพมาเจอบุตรของตนได้ ให้หมุนไปตามการหมุนของพระอาทิตย์หากพระอาทิตย์ไม่อาจสู้หน้านางได้ จึงได้ขออยู่เบื้องหลังโลกา เป็นเพียงผู้ส่งพลังให้นางโดยไม่บอกแก่ผู้ใด หากแต่ว่าเพลาใด ที่บุตรแห่งนางและเขารับรู้ เวลานั้น มนุษย์คงจะขอบคุณที่พระอาทิตย์ให้แสงสว่างแก่โลก และจันทรา แม้จะเป็นเพียงการปิดทองหลังพระก็ตาม

โลกา ผู้ที่รักและหวังดีต่อเพื่อนทั้งหลายจึงได้อุปการะบุตรของเพื่อนไว้ พร้อมทั้งให้การศึกษาเลี้ยงดู สั่งสอนให้มนุษย์รู้จักอำนาจของจักรวาล แต่เนื่องด้วย มนุษย์ผู้ซึ่งไม่เคยทราบว่าผู้ใดเป็นบิดามารดาของตนนั้น ไม่รับฟังเหตุผลใดๆ ที่โลกาได้พร่ำสอนทั้งสิ้น โลกาเองไม่สามารถจะบอกแก่มนุษย์ได้ว่าเจ้าคือบุตรแห่งผู้ใด เพราะเกรงจะเสื่อมเสียถึง เกียรติและศักดิ์ศรีของจันทราเพื่อนและน้องผู้เป็นที่รัก จึงทำให้มนุษย์ท้าทาย ดินฟ้าอากาศโทษสิ่งต่างๆ โดยไม่เคยโทษตนเอง

ส่วนอาทิตย์นั้น ถึงแม้จะมีอำนาจสั่งสอนมนุษย์ได้ มีอิทธิฤทธิ์มากพอจะสาปมนุษย์ได้ ก็ไม่อาจทำการใดๆ ได้ทั้งสิ้น เนื่องด้วยรู้สึกผิดต่อนางอันเป็นที่รัก และรู้สึกผิดที่บุตรแห่งตนเป็นเช่นนี้ ก็เพราะตนเป็นผู้ก่อให้เกิดเองทั้งสิ้น อาทิตย์จึงได้สาปตัวเองและโลกาไว้ว่า หากวันใด ที่อาทิตย์สิ้นแสง ขอให้โลกา จงดับสลายไปพร้อมกัน และให้คำสาปทุกคำสาป จงคลายออกไปตามอายุขัยของอาทิตย์ ทุกสรรพสิ่งที่โลกา อุปการะไว้ ภายใต้อาณาจักรของอาทิตย์จักล่มสลายไปตามกัน แต่จนแล้วจนรอด อาทิตย์ก็พยายามรักษาชีวิตของตนไว้จนสุดสามารถ เพราะความรักในบุตรที่เกิดขึ้น เพียงหนึ่งเดียวในจักรวาลนี้

 

ที่มาจาก www.pantip.com

หมายเลขบันทึก: 259913เขียนเมื่อ 8 พฤษภาคม 2009 11:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 06:38 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท