29.สนามบินลอสแองเจลิส.....เฉียบขาดกับตรวจคนเข้าเมือง


เพราะ No อย่างเดียว เราก็ได้เข้าเมืองลอสแองเจลิส

        ผมตื่นอาจจะเนื่องจากคันที่น่อง คงเป็นเพราะถุงเท้าที่ใส่มาตั้งแต่ออกจากทาวน์เฮ้าส์ที่รังสิต หลายชั่วโมงมากแล้ว นึกขึ้นได้ว่าตอนขึ้นเครื่องใหม่ๆ หนุ่มหล่อแจกถุงผ้าเล็กๆ ถุงหนึ่ง ข้างในมีถุงเท้าสีขาวคู่หนึ่ง แปรงสีฟันและยาสีฟันหลอดเล็กๆ มาด้วย จึงก้มลงถอดถุงเท้าและหยิบถุงที่หนุ่มหล่อแจกซึ่งซุกไว้กับเอกสารแนะนำของสายการบิน จัดการสวมถุงเท้าคู่ใหม่ มันกระชับพอดีทีเดียว รู้สึกสบายเท้าขึ้นอีกเยอะ

        เปิดจอภาพขึ้นดู เครื่องบินยังคงอยู่เหนือมหาสมุทรแปซิฟิค เวลาที่ปรากฎบนจออีกห้าชั่วโมงเศษจะถึงลอสแองเจลิส หมายถึงผมหลับไปประมาณสี่ชั่วโมงเศษ เปิดดูภาพนอกเครื่องเห็นแต่ความสว่าง นอกนั้นไม่มีอะไรเลย หันมองดูลูกสาวและภรรยาทั้งสองคนนั่งหลับตานิ่ง แต่สาวจีนด้านซ้ายมือยังคงดูภาพยนตร์ฝรั่ง ส่วนสาวจีนขวามือปิดจอภาพแล้ว

        ผมชะเง้อดูห้องน้ำด้านหน้าไม่มีคนยืนรอคิดว่าว่าง จึงหยิบแปรงสีฟันและยาสีฟันที่ได้รับแจก ใส่รองเท้าเสร็จ ค่อยๆ ลุกขึ้นกลัวลูกสาวและภรรยาตื่น แล้วเดินหลบขาฝรั่งขาจีนที่ยื่นออกมาล้ำทางเดิน ผ่านหนุ่มฝรั่งนั่งเล่นคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ้ค ก็ไปถึงห้องน้ำซึ่งว่างตามคาด ขณะที่ผมกำลังแปรงฟันก็ได้ยินเสียงกดเพื่อเปิดประตู ผมจึงรีบจัดการตัวเองและคิดว่าใครนะช่างใจร้อนจริง เขาไม่ดูหรือไงว่ามีตัวอักษรแดงบอกว่ามีคนอยู่ข้างใน เขาก็ยังดึงดันจะเปิด หรือว่าเขาปวดหนักสุดที่จะอดกลั้น

        พอเปิดประตูออกมา ก็เห็นหญิงน่าจะเป็นชาวจีนอายุเกินหกสิบยืนอยู่หน้าห้องน้ำ ผมรีบออกมาแล้วจับบานประตูเปิดทิ้งไว้เพื่อให้แกเข้าไปได้ง่ายๆ แกก็รีบเข้าไปทันทีลืมแม้กระทั่งขอบคุณผม แกคงสุดทนจริงๆ

        ผมกลับมานั่งที่เดิมสักพักใหญ่ๆ นางฟ้าฮ่องกงก็เดินยิ้มถือเหยือกกาแฟ เนยเทียมและน้ำตาล พร้อมทั้งพูดเบาๆ กาแฟค่ะๆ ผมแปลกใจถึงเวลากินอีกแล้วเรอะ เปิดจอภาพดูบอกเวลาที่ลอสแองเจลิสบ่ายห้าโมงเศษ ผมดื่มกาแฟไม่ค่อยได้ หากดื่มมากจะมีอาการใจสั่น จึงเฉยเสีย ถึงตอนนี้ผู้คนเริ่มทยอยเข้าห้องน้ำไม่เว้นแม้แต่ลูกสาวและภรรยาผม

       หลังอาหารมื้อสุดท้ายของการเดินทางเที่ยวนี้ นาฬิกาในจอภาพบอกว่าอีกสองชั่วโมงจะถึงที่หมาย หนุ่มหล่อได้ถือเอกสารมาหาพวกเรา

       "คนไทยใช่ไหมครับ" ลูกสาวผมเป็นคนตอบเพราะเขาอยู่ฟากนั้นพอดี เขาถามต่อว่า "มีกรีนการ์ดหรือว่าไทยพาสปอร์ต" พอเราตอบว่าไทยพาสปอร์ต เขาก็ให้เอกสารเราสี่แผ่น รูปร่างหน้าตาเหมือนกันสามแผ่น อีกหนึ่งแผ่นเป็นของหัวหน้าทีม ผมให้ลูกสาวกรอกให้เขาเองและกรอกให้แม่เขา ส่วนผมเขียนของผมเองและเขียนในฐานะหัวหน้าทีมอีกแผ่นหนึ่ง เนื้อหาที่กรอกก็จะเป็นข้อมูลส่วนตัว ที่พักในอเมริกา และเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ในอเมริกา

         สี่ทุ่มพอดีไม่ขาดไม่เกินตามเวลาลอสแองเจลิส คาเธ่ย์แปซิฟิคก็ล้อแตะพื้นพาพวกเราเดินทางถึงที่หมายอย่างปลอดภัยและไม่มีเหตุการณ์อกสั่นขวัญแขวนแต่ประการใด ผมพาภรรยาและลูกสาวไปผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง ส่วนน้องสาวและน้องเขยเขาเป็นอเมริกันไม่เรื่องมาก ขณะที่ผมเข้าแถวโดยข้างหน้ายังมีอีกหลายคน พวกเขาก็ไปยืนรอกระเป๋าแล้ว

         ถึงคิวของผมภรรยาและลูกสาว ผมเอาพาสปอร์ตทุกคนและเอกสารที่กรอกบนเครื่องให้เจ้าหน้าที่ ฝรั่งผู้ชายวัยกลางคน หล่อแต่หน้าตาเฉยมาก เขามองดูเราทั้งสามคนแวบหนึ่ง พลิกดูพาสปอร์ตของผมแล้วพิมพ์ลงแป้นคอมพิวเตอร์ ถามว่า

         "มาอเมริกาทำไม" ผมตอบ "มาเที่ยว" เขาถามอีกว่า "อยู่กี่วัน" ผมตอบ "สามสัปดาห์" ถามแค่นี้ เขาก็ให้ผมพิมพ์นิ้วมือโดยใช้นิ้วสี่นิ้วยกเว้นนิ้วหัวแม่มือข้างขวาวางลงบนเครื่องก่อน ต่อมาใช้หัวแม่มือขวา สี่นิ้วข้างซ้ายและหัวแม่มือซ้ายตามลำดับ แล้วเขาให้ผมมองไปที่กล้องถ่ายรูปเล็กๆ ด้านหน้า ก็เสร็จกระบวนการของผม

         ต่อมาก็เป็นภรรยาแต่พิมพ์มือเพียงหัวแม่มือขวา และลูกสาวก็เช่นเดียวกัน หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ประทับตราลงในพาสปอร์ตทั้งสามคน และคืนพาสปอร์ตให้พวกเรา ตอนหลัีงมาดูเขาประทับตราและเขียนว่าอยู่อเมริกาได้ถึง 22 ธันวาคม 2009

         ผมภรรยาและลูกสาวผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองด่านแรกแล้ว ต่อมาก็เอากระเป๋าและตรวจกระเป๋าเป็นขั้นตอนสุดท้าย ฝรั่งนิโกรร่างใหญ่ยืนขวางทาง ถามว่ามีสิ่งผิดกฎหมายในกระเป๋าไหม มีอาหารไหม เราตอบ No อย่างเดียว พวกเราก็ออกจากสนามบินได้อย่างสบาย

คำสำคัญ (Tags): #พิมพ์นิ้วมือ
หมายเลขบันทึก: 258899เขียนเมื่อ 3 พฤษภาคม 2009 00:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 มิถุนายน 2013 00:39 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (16)

สวัสดีค่ะ  อาจารย์ เปลวเทียน

สุขกาย สบายใจ นะคะ     

มีภาพสวยอีกแล้ว ขอบคุณมาก

พระจันทร์ยิ้มนอนดึกนะครับ ดูแลสุขภาพด้วย

ตอนที่พระจันทร์ยิ้มอ่านผมเขียนได้ยังไม่ถึงครึ่ง พอดีเขาเรียกทานข้าวเช้า จึงบันทึกแล้วมาเขียนต่อทีหลัง มาเสร็จเอาตอนนี้แหละครับ ฮิฮิ

ขอบคุณค่ะอาจารย์ เปลวเทียน  เมื่อคืนติดภาระกิจ.. จิตใจแจ่มใส.. ความคิดกำลังแล่น.. ถ้าไม่รีบทำกลัวว่าจะลืม กลัวเสียดายโอกาสค่ะ  นานๆ overload สักที  ร่ายกายก็ร่วมมือด้วยเป็นอย่างดี ไม่ประท้วงเลย..  อิอิ  

เห็นอาจารย์ ขึ้นหัวข้อเรื่องพิมพ์นิ้ว  ยังนึกอยู่เหมือนกันว่า บันทึกดูสั้นๆ ผิดปกติ และ ไม่เห็นพูดถึงเรื่องพิมพ์นิ้วเลย..   โห.. อาจารย์ทานข้าวเช้า ตอนตี 2-3  เป็นเวลาที่คนส่วนมากกำลังหลับสนิทเลยนะคะ..

ดีจังเลย..  ทีนี้เวลาไปไหน จะได้ใช้คำว่า  no.. ผ่านตลอดบ้างค่ะ  อิอิ  ฮิฮิ

   ภาพนี้มีชื่อว่า Glow Emission ค่ะ

อาจารย์ เปลวเทียน  ก็เช่นกันนะคะ ดูแลสุขภาพ และ มีความสุขมากๆ ค่ะ     

 

 

สวัสดีครับผม หลังจากไม่ได้เข้ามาทักเสียนาน :)

ดีใจที่ถึงที่หมายอย่างปลอดภัยนะครับ

การตรวจคนเข้าเมืองนี้เข้มงวดดี ซึ่งก็เป็นการรักษาความปลอดภัยให้เราอีกต่อหนึ่งด้วย อิอิ

เข้ามาได้แล้วก็เที่ยวให้คุ้ม สนุกสนุกนะคร๊าบ

ขอบคุณ "พระจันทร์ยิ้ม" มีภาพสวยมาฝากอีกแล้ว คราวนี้สวยกว่าคราวก่อน ขอให้พระจันทร์ยิ้มมีความสุข สดชื่นและสมหวัง เหมือนความหมายของภาพนะครับ

คำว่า No ใช้ไม่ได้กับข้าราชการนะครับ เพราะพวกเขาต้องใช้คำว่า Yes ครับ

สวัสดี adayday

ไม่ได้เจอกันซะนาน สบายดีนะครับ

ผมก็ไม่ได้ไปบล็อกของ adayday นานแล้วเหมือนกัน แต่ยังไม่ลืมหรอกนะ

ใช่ครับ การพิมพ์นิ้วมือมีส่วนดีมาก เข้าชมยูนิเวอร์แชล สตูดิโอ ก็พิมพ์นิ้วชี้ด้านขวาครับ

ขอให้มีความสุขนะครับ แล้วจะไปเยี่ยมในบล็อก

สวัสดีค่ะ อาจารย์เปลวเทียน

เข้าใจว่าหลังเหตุการณ์ 911 แล้ว ตม. ที่อเมริกาจะตรวจเข้มมากขึ้นใช้่มั้ยคะ

แม่นีโอเคยเข้าอเมริกาที่ Seattle สมัยก่อน 911นั้น ไม่ยุ่งยากเลยค่ะ

จนท.เค้าทักทายยิ้มแย้มแจ่มใส แล้วไม่ต้องตรวจอะไรมากมาย

อาจารย์เขียนเรื่องเที่ยวที่ LA ด้วยนะคะ จะตามมาอ่านค่ะ อิอิ

แวะมาอ่าน

แล้วได้ใจครับ

อยากจะมาอ่านอีก ในครั้งหน้า

เวลาจะโดนตรวจอะไร รู้สึกตื่นเต้นแทนจังค่ะ (อิอิอิ ความกลัวอยู่ลึกๆ)

ยังกะได้ไปเที่ยวด้วยเลยค่ะ อาจารย์เขียนได้ดีละเอียดดีจังค่ะ

ช่วงนี้ขึ้นเวรเยอะๆๆ  ไม่ค่อยมีเวลามาเม้ม   ตื่นมาก็ทำงานเลิกงานก็นอนค่ะ 

แต่จะคอยและติดตามอ่านไม่นะคะ

ขอบคุณนะคะที่เขียนให้อ่านด้วยค่ะ

สวัสดีครับ แม่นีโอ

ผมเข้าครั้งแรกปี ๒๕๔๕ ก็ไม่เข้มครับ แทบไม่ถามเลย ไม่พิมพ์มือด้วย แต่พิมพ์มือผมก็ว่าดีนะครับ ป้องกันตัวเราด้วย หากเราบริสุทธิ์ก็ไม่ต้องกลัวอะไรครับ

ขอบคุณที่แวะมา ขอให้มีความสุขมากๆ นะครับ

สวัสดีครับ คนตานี

แวะมาบ่อยๆ นะครับ

ผมอยากไปตานี แต่กลัวครับ บ้านเมืองสงบคงต้องหาเวลาไปเที่ยวสักครั้ง

ขอบคุณที่แวะมา และติดตามอ่านครับ

ยอมรับว่าตื่นเต้นมากครับ แต่ใจสู้และคิดว่าเรามีความจริงใจและมีความบริสุทธิ์ ไม่มีของผิดกฎหมายใดๆ

ที่ผมเขียนละเอียดเพราะอยากถ่ายทอดให้เยาวชนทราบด้วย ตอนแรกก็คิดมากจะเขียนเรื่องห้องน้ำดีไหม มาคิดอีกทีควรเขียนเพราะจะได้รู้ว่าหากห้องน้ำไม่ว่างจะมีอักษรสีแดง เวลาอ่านเขาจะได้รู้และคิดตามครับ

งานหนัก ดูแลสุขภาพตัวเองด้วยนะครับ

เข้ามาอ่านก็ขอบคุณแล้ว เขียนด้วยก็ดีใจมากครับ เวลามีน้อยเขียนน้อยก็ได้ครับ

อย่าลืมสุขภาพตัวเองนะครับ

พึ่งตื่นนอนค่ะ (17.00น) ลงเวรดึก 09.00น นอนเยอะค่ะ แต่อยากอ่านค่ะ เวลาน้อยรีบๆอ่าน   ว่างๆค่อยมาเขียนตอบอาจารย์ค่ะ

อาจารย์ไปเที่ยว....ยังอุตส่าห์สละเวลาเขียนเล็กๆ  เขียนน้อยๆ ให้อ่าน  ให้รับรู้ด้วยเหมือนให้เปิดโลกกว้างๆรับรู้และดูเมืองที่เค้าเจริญในมุมมองของอาจารย์ สุดยอดแล้วค่ะ 

ต้องขอบคุณค่ะ  และให้กำลังใจให้อาจารย์เขียนให้ดิฉันอ่านอีกๆๆๆ อิอิอิ  ห้องน้ำแม้แต่ทางเดินยังต่างกันเลยค่ะ  ขับรถยังคนละด้านเลย  แปลกหูแปลกตา ก็ทำให้ตื่นตาตื่นใจค่ะอาจารย์

ขอบคุณที่ให้กำลังใจครับ

งานพยาบาลนอนไม่เป็นเวลานะครับ ร่างกายต้องได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี อยากนอนตอนไหนก็หลับได้ เก่งจริงๆ ครับ

ตอนนี้ผมอยู่เมืองไทย กำลังฝืนร่างกาย ไม่นอน เพราะเวลาที่แอลเอ ตีสาม ร่างกายจะยังสภาพไม่ได้ครับ

ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ

      Glitter ขำขำ

              ดึงรูปผ่านเวบไม่ได้เก็บเข้าไว้ในไฟล์อัลบั้ม ภาพนี้จะอยู่หรือเปล่าหนอ  ถ้าอยู่ลองบรรยายภาพซิ

เข้ามาเยี่ยมอ่านคะ อย่าไปโทษผู้หญิงแก่เลยคะ แก่แล้วกลั้นไม่อยู่คะ สงสัยลืมใส่แพงเพิส  หรือไม่ก็ปวดหนัก  ถ้าปล่อยราดใส่แพงเพิส กลัวกลิ่นเก็บไม่อยู่คะ

 

ภายยังอยู่ครับ

ให้ผมบรรยาย...... อ้า... ภาพไม่อยู่แล้วครับ....ฮิฮิ ฮ่าฮ่า

มีคำพูดคำหนึ่งไม่ทราบที่มา ว่า  “เด็กเห็นผู้ใหญ่ทำอย่างไร ก็จะทำตามอย่างนั้น”  (เพราะเขาคิดว่าเป็นสิ่งถูก) การที่ผู้ใหญ่ทำปืนเด็กเล่นออกขาย แล้วพ่อแม่ซื้อให้ลูก และเวลาลูกเล่นยิงปืนพ่อแม่ก็ชอบ สิ่งเหล่านี้จะฝังอยู่ในจิตใต้สำนึกของแกว่า การยิงคนเป็นสิ่งถูก เราถึงได้รับฟังข่าวบ่อยๆ ว่าเด็กทำปืนลั่นใส่เพื่อน พี่น้อง หรือแม้กระทั่งพ่อแม่ เป็นปิตุฆาต มาตุฆาต สร้างความทุกข์ทรมานใจอย่างแสนสาหัส

ไม่ถึงกับว่าครับ... เพียงบ่นนิดหน่อย.... ฮ่า ฮ่า

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท