คำถาม...เครื่องมือของการเรียนรู้ของผู้ใหญ่
สุนิสา แพรภัทรประสิทธิ์
คำนำ
ความสนใจต่อการพัฒนาผู้ใหญ่เป็นสิ่งที่หลายต่อหลายนักพัฒนามนุษย์และนักพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้ความสนใจในการศึกษาถึงวิธีการที่ทำให้เกิดการเรียนรู้ (approaches to learning) ที่เหมาะสมสำหรับลักษณะของผู้ใหญ่ (characteristics of adult) นักพัฒนามนุษย์และนักพัฒนาทรัพยากรมนุษย์จึงต้องหาแนวทางในการสอนเพื่อก่อให้เกิดการเรียนรู้ของผู้ใหญ่ การเรียนรู้ของผู้ใหญ่เกิดจากประสบการณ์ที่ผ่านมาตั้งแต่อดีต แปลงเป็นความรู้ที่ฝังในตัว (tacit) David Kolbได้ให้แนวความคิดในการเรียนรู้ว่า เป็นกระ-บวนการที่เกิดแปรประสบการณ์เป็นการเรียนรู้จนเกิดเป็นความรู้เพื่อใช้ในการแก้ปัญหา (Malcolm Knowles และคณะ,2005, p.197) ผู้ใหญ่จึงมีฐานความรู้อยู่ในตัว และศักยภาพที่ผ่านการเรียนรู้มาจากประสบการณ์ การสอนเพื่อการพัฒนาของนักพัฒนาจึงแตกต่างจากการสอนเด็กที่ขาดฐานความรู้และขาดประสบการณ์
ลักษณะการสอนของผู้ใหญ่จึงมีความแตกต่างจากเด็ก การสอนนั้นต้องสามารถที่จะดึงเอาศักยภาพภายในของผู้ใหญ่นั้นออกมาปรากฏเป็นการกระทำหรือการสอนผู้ใหญ่ต้องดึงเอาความรู้ที่มีอยู่ในตัวของผู้ใหญ่ (tacit) ออกมาเป็นความรู้ใหม่ (new knowledge) เกิดการพัฒนาเป็นระดับขั้น
ในปัจจุบันการสอนผู้ใหญ่ใช้คำว่า Andragogy ซึ่งเป็นแนวความคิดใหม่ในการเรียนการสอนที่ให้เห็นความแตกต่างจากการสอนเด็ก (pedagogy) คำว่า Andragogy มาจากรากศัพท์ภาษากรีก คือ คำว่า Aner (man) + Agogus (Leader) มีความหมายว่า ศาสตร์และศิลป์ในการสอนผู้ใหญ่ (The art and science of teaching adults) เพราะความหมายของ Andragogy เป็นเรื่องของการใช้ศาสตร์และศิลป์ในการสอนเพื่อเกิดการพัฒนาจึงต้องอาศัยเครื่องมือในการสอนเพื่อเป็นการพัฒนาการเรียนรู้ผู้ใหญ่ คำถาม (question) เป็นเครื่องมือหนึ่งที่กำลังเป็นที่นิยมในการเรียนรู้ จึงมีคำถามว่าเหตุใดคำถามเป็นเครื่องมือที่นำมาใช้ในการพัฒนา บทความนี้จึงเขียนเพื่อนำเสนอความสำคัญของคำถามที่ส่งผลต่อการเรียนรู้ของผู้ใหญ่ เครื่องมือนี้สำคัญต้องเริ่มจากรู้ถึงลักษณะของผู้ใหญ่
ลักษณะของผู้ใหญ่
มนุษย์มีการแยกระหว่างร่างกาย (physical body) จิตใจ (mind) ทั้งสองส่วนมีผลต่อการเรียนรู้ของมนุษย์ทั้งสิ้น ผู้ใหญ่มีความเป็น อัตตา หรือ ตัวตน (self) มากขึ้นเป็นผลมาจากการสะสมประสบการณ์ความรู้ รวมทั้งการได้เข้าร่วมในสังคม ความมีตัวตนนี้มีผลต่อทำให้เกิดมโนทัศน์แห่งตน (self-concept) ของแต่ละคนและส่งผลต่อการเรียนรู้ของผู้ใหญ่ ไม่เพียงอัตตาของบุคคลที่ส่งผลต่อการเรียนรู้ของผู้ใหญ่ส่วนทางด้านร่างกายก็มีผลด้วยเช่นกัน อีกทั้งสภาพความพร้อมของร่างกายก็มีผลต่อการเรียนรู้
ด้านความสมบูรณ์ของร่างกาย
คุณลักษณะหนึ่งที่มีผลต่อการเรียนรู้ของผู้ใหญ่คือความสมบูรณ์ของร่างกาย ช่วงอายุวัยต่างๆซึ่งความชราก็เป็นสิ่งที่จะกลายเป็นอุปสรรคของการเรียนรู้ ช่วงอายุระหว่าง 18-30 ปีเป็นช่วงที่มีความว่องไว มีความแข็งแรงสูงเป็นช่วงที่มีพละกำลังในการเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ ช่วงอายุ 30-40 ปี เป็นช่วงที่เริ่มมีความสูญเสียความว่องไวลงบ้าง เนื่องจากการเริ่มเสื่อมสภาพของเนื้อเยื้อของข้อต่อต่างๆ ความเข้มแข็งและความอดทนยังคงที่ ช่วงอายุ 40-60 ปี มีความเสื่อมของพละกำลังมากขึ้น การเคลื่อน-ไหวจะใช้เวลามากขึ้นดังนั้นกิจกรรมส่วนใหญ่ของวัยนี้จึงไม่ค่อยทำกิจกรรมการเคลื่อนไหมมากเหมือนช่วงวัยข้างต้น อายุหลัง 60 ปี มีความแปรเปลี่ยนเริ่มมีปัญหาทางด้านสุขภาพมากขึ้น มีปัญหาทางด้านกล้ามเนื้อและข้อทำให้บางกิจกรรมที่เคยทำต้องเลิกทำไป (สุวัฒน์ วัฒนวงศ์, 2547, หน้า56-59)
ความสมบูรณ์ของร่างกายในผู้ใหญ่จึงเป็นสิ่งที่สำคัญต่อการรับรู้ด้วย คือเมื่ออายุมากขึ้นมีผลต่อการเสื่อมของอวัยวะในส่วนต่างๆมากขึ้น เซลล์ในร่างกายเสื่อมลงอย่างรวดเร็วและไม่สามารถที่จะสร้างได้ใหม่เหมือนอย่างวัยหนุ่มสาว สายตาหรือการมองเห็นเริ่มน้อยลง
ด้านสติปัญญา
สติปัญญาเป็นสิ่งที่มีความสำคัญเกี่ยวกับการเรียนรู้โดยตรงทั้งสติปัญญาในการจำ ความสามารถในการปรับตัว การเรียนรู้เรื่องที่เป็นนามธรรม ซึ่งสติปัญญานี้เป็นความสามารถทางสมองมากกว่า 1 ด้านมีการให้ความหมายของสติปัญญาจากนักจิตวิทยาว่า สติปัญญาเป็นความสามารถของสมองที่มีประสิทธิภาพในการเรียนรู้สิ่งต่างๆของบุคคล เป็นความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมหรือการเปลี่ยนแปลง สามารถคิดแก้ไขเฉพาะหน้าและจัดการกับปัญหา และยังสามารถที่จะคิดได้อย่างมีเหตุผล เป็นนามธรรมและสร้างสรรค์ได้ (สุวัฒน์ วัฒนวงศ์,2547, หน้า 139-141)
จากการศึกษาของ Donaldson ในปี 1980 และ Horn ในปี 1982 นักจิตวิทยาการเรียนรู้ (อ้างอิงจากดร.ศรีเรือน แก้วกังวาน, 2545, หน้า 488-489) ได้จำแนกลักษณะของสติปัญญาไว้ 2 หมวดใหญ่ๆคือ 1) สติปัญญาด้าน crystallized เป็นสติปัญญาที่เกิดจากการสะสมความรอบรู้ มีความชำนาญในความรู้ที่เกิดจากประสบการณ์โดยตรง 2) สติปัญญาด้าน fluid เป็นสติปัญญาที่เน้นความแม่นยำในการจำในทฤษฎี หรือความคิดที่สัมพันธ์เชื่อมโยงต่อเนื่องกับสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท สติปัญญาทั้งสองนั้นมีการพัฒนาควบคู่กันมาตั้งแต่วัยต้นชีวิตจนอายุระหว่าง 20 ถึง 30 ปีสติปัญญาด้าน fluid จะเพิ่มสูงสุดแล้วเริ่มลดลงเรื่อยๆ ส่วนด้าน crystallized ยังดำเนินสูงขึ้นในวัยกลางคนจนถึงวัยสูงอายุ
อีกทั้งมีงานวิจัยให้ผลการวิจัยว่าในผู้ใหญ่แม้มีความเสื่อมของร่างกายแล้วไม่ได้หมกมุ่นมากเกินไปก็จะสามารถที่จะรักษาสมรรถภาพของสติปัญญาได้ (Arking 1991; Keawkungwal 1984; ศรีเรือน แก้วกังวาน 2534, 2535ก, 2535ข) โดยทั่วไปแล้วความเสื่อมทางสติปัญญาจะค่อยเป็นค่อยไปขึ้นอยู่กับแต่ละคน และไม่เท่ากันอีกทั้งยิ่งไม่รู้จักวิธีปฏิบัติเพื่อรักษาสมรรถภาพทางสติปัญญา
เมื่อนำลักษณะของผู้ใหญ่ทั้งความสมบูรณ์ของร่างกายและสติปัญญามาเทียบกันจะเห็นได้ว่าความสมบูรณ์ของร่างกายนั้นจะค่อยเสื่อมลงจนการจัดวิธีการที่ทำให้เกิดการเรียนรู้ (approaches to learning)ในการเลือกการใช้การออกแรงจึงไม่เหมาะสมต่อการเรียนรู้ ส่วนด้านสติปัญญานั้นแม้ความสมบูรณ์ของร่างกายเสื่อมแต่ยังสามารถที่จะรักษาสมรรถภาพไว้ได้ การพัฒนาด้านทักษะความคิดจึงเป็นเรื่องที่เหมาะสมต่อการเรียนรู้ของผู้ใหญ่เป็นอย่างยิ่ง
ด้านการเรียนรู้แตกต่างจากเด็ก
Malcolm S. Knowles ได้นำทฤษฎี Andragogy มาตีพิมพ์ลงในหนังสือชื่อ "Adult leadership" เมื่อปีค.ศ. 1968 ซึ่งกลายมาเป็นคำนิยมในสหรัฐอเมริกา Knowles ทฤษฎีเป็นการแยกความแตกต่างของ Andragogy กับทฤษฎีการสอนของเด็กซึ่งเรียกว่า Pedagogy เอาไว้ดังนี้
ข้อตกลงเบื้องต้น (Assumption) |
การสอนเด็ก (Pedagogy) |
การสอนผู้ใหญ่ (Andragogy) |
ความต้องการในการเรียนรู้ (The need to know) |
|
|
มโนทัศน์แห่งตน (Self-concept) |
|
|
บทบาทของประสบการณ์ (The role of learner's experience) |
|
|
ความพร้อมในการเรียนรู้ (Readiness to learn) |
|
|
เป้าหมายการเรียนรู้ (Orientation to learning) |
|
|
แรงจูงใจ (Motivation) |
|
|
มาจาก : ตารางการเปรียบเทียบข้อตกลงเบื้องต้น (Assumptions) ระหว่างการสอนผู้ใหญ่กับการสอนเด็ก
อีกทั้งเมื่อพิจารณาถึงความแตกต่างของการออกแบบการสอนของผู้ใหญ่และการสอนของเด็กก็จะเห็นได้ถึงความแตกต่างกันดังนี้
องค์ประกอบ |
การสอนเด็ก |
การสอนผู้ใหญ่ |
ด้านบรรยากาศ |
|
|
ด้านการวางแผน |
|
|
การวินิจฉัยความต้องการ |
|
|
การพิจารณาวัตถุประสงค์ |
|
|
การเรียน-การสอน |
|
|
กิจกรรม |
|
|
การประเมิน |
|
|
มาจาก : ตารางเปรียบเทียบองค์ประกอบต่างๆในการออกแบบ (design elements) การสอนผู้ใหญ่และเด็ก
เมื่อนำการสอนแบบเด็กและแบบผู้ใหญ่มาเปรียบเทียบกันจะสะท้อนให้เห็นว่าลักษณะของผู้ใหญ่นั้นแตกต่างจากเด็ก การเลือกวิธีการในการพัฒนาย่อมต้องแตกต่างกัน ผู้ใหญ่มีศักยภาพที่ซ้อนอยู่ซึ่งเกิดมาจากประสบการณ์ หน้าที่ของนักพัฒนาจึงมีหน้าที่เป็นผู้อำนวยความสะดวก (facilitator) มากกว่าการสั่งสอนในการทำให้ศักยภาพนั้นถูกนำออกมาเป็นผล(competency)ได้
นักวิจัยทางด้านสติปัญญาหลายท่านเชื่อว่าในช่วงวัยผู้ใหญ่นั้นการพัฒนาความคิดได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้นต้องมาจากการพัฒนาความคิดอย่างมีเหตุผลในเชิงปฏิบัติได้จริง ซึ่งได้มาจากประสบการณ์และทักษะในการปฏิบัติการในชีวิตจริง (ดร.ศรีเรือน แก้วกังวาน, 2545, หน้า 439) นักพัฒนาจึงเป็นผู้ที่ช่วยเหลือให้ผู้เรียนผู้ใหญ่ให้สามารถดึงเอาความรู้ที่มีอยู่มาบูรณาการกับความรู้ใหม่ ทำให้สามารถแปลงความรู้นั้นนำมาแยกแยะ และสร้างความรู้ใหม่รวมถึงสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ ดังนั้นเครื่องมือที่ช่วยในการทำให้นักพัฒนาสามารถช่วยเหลือให้ผู้เรียนผู้ใหญ่สามารถที่จะมีความสามารถในข้างต้นได้นั้นคือการใช้คำถาม
คำถาม (question)
Question มีความหมายเป็นเครื่องมือที่มีไว้เพื่อแสดงถึงความต้องการในข้อมูลหรือสิ่งอื่นที่เป็นต้องการแสดงออกซึ่งเรียกสิ่งที่แสดงออกมาว่าเป็นคำตอบ คำถามนั้นจะถูกวางไว้หรือถูกถามในประโยคที่เกี่ยวข้องกับคำถามหรือบางครั้งก็เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ต้องการให้กระทำ เช่น ช่วยหยิบเนยให้ฉันได้ไหม ประโยคคำถามนี้ไม่ได้เป็นประโยคคำถามที่ต้องการคำตอบแต่เป็นการถามเพื่อให้อีกผู้หนึ่งปฏิบัติตาม
ในส่วนของการตั้งคำถามเป็นการทำให้เกิดการแยกแยะสิ่งที่จริงและไม่จริงได้ ขจัดเอาสิ่งที่ไม่สำคัญออกจากสิ่งที่สำคัญได้ การตั้งคำถามเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดของการใช้ภาษา โสกราติสได้ใช้วิธีการการตั้งคำถามในการแสวงหาความจริงและในการสร้างความคิดใหม่ คำถามของโสกราติสเป็นการถามเพื่อทำให้ผู้ฟังเกิดความคิดใหม่ โดยการนำความคิดไปเป็นทีละขั้นทำให้เกิดการจัดระบบทางความคิดในระหว่างการตอบคำถามที่ตั้งขึ้นมา การถามคำถามที่ชาญฉลาดจะทำให้เกิดการสร้างสรรค์งานใหม่ๆ และบรรยากาศการร่วมกันแสวงหาทางการแก้ปัญหา (ชัยอนันต์ สมุทวณิช, 2539, หน้า 36-43)
คำถามถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมืออย่างแพร่หลาย รูปแบบการสร้างการเรียนรู้ให้กับผู้ใหญ่ในปัจจุบันนั้นก็นำเครื่องมือการตั้งคำถาม Michael J. Marquardt ได้ให้ความสำคัญของการใช้คำถามเป็นเครื่องมือของการพัฒนาภาวะผู้นำในรูปแบบการเรียนรู้แบบ Action Learning ซึ่ง Marquardt มองว่าคำถามนั้นเป็นหัวใจที่ทำให้การเรียนรู้แบบ Action Learning ประสบความสำเร็จ คำถามคือตัวช่วยนำทำให้การตอบสนองของกลุ่มในการเรียนรู้มีประสิทธิภาพ และส่งผลต่อการเรียนรู้ของตัวบุคคล
การใช้คำถามที่ดีจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากกว่าการตอบคำถามในคำถามที่ไม่ดี นั้นหมายถึงการหาคำถามที่ดีนำมาซึ่งการสร้างความคิดที่ทำให้เกิดการเรียนรู้ และเป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้มากกว่าการถามคำถามที่ไม่ดี
การคิดในการตั้งคำถามเพื่อนำมาซึ่งการเรียนรู้จึงเป็นเรื่องที่สำคัญ การเริ่มต้นในการใช้คำถามเป็นการเริ่มโดยอ้างอิงจากความรู้ที่มีมาก่อน แล้วใช้คำถามให้เกิดการแก้ปัญหาร่วมกันในกลุ่ม Action Learning ในการนำในการตั้งประเด็นคำถามนั้น ผู้นำในการนำในการถามถือว่าเป็นบุคคลที่สำคัญในการคำถามที่สร้างสรรค์ การรวบรวมความคิดของผู้เข้าร่วม การโยนประเด็นให้เกิดการแลกเปลี่ยน และการสรุปเรื่องทั้งหมดที่ตั้งขึ้น (Dr. Michael J.Marquardt, 2007, pp. 35-38)
การถามคำถามที่ดีคือคำถามที่ทำให้เกิดการคิด การใช้คำกริยาที่ทำให้เกิดความคิดนั้นก็ต้องเลือกใช้เพราะการใช้คำกริยาที่แตกต่างก็ส่งผลต่อลักษณะการเรียนรู้หรือการใช้ความคิดที่แตกต่างกัน
ตัวอย่างคำที่ทำให้เกิดความคิด
ตัวอย่างของคำที่นำมาใช้ประกอบกับประโยคในการใช้ถามเพื่อทำให้เกิดการสร้างความคิด ซึ่งคำเหล่านี้ส่งผลต่อนักพัฒนาในการสร้างกิจกรรมด้วยคำถามเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้สร้างความคิดในด้านต่างๆ
ตัวอย่างคำที่ทำให้เกิดการสร้างความคิด
เสนอความคิดเห็น |
ยอมรับ |
ปฏิเสธ |
หลักฐาน |
เห็นพ้อง |
สรุป |
กำเนิดจาก |
ตรวจสอบ |
ยืนยัน |
รับรอง |
ตรวจพบ |
อธิบาย |
วิเคราะห์ |
การคาดคะเน |
ตกลงใจ |
สำรวจ |
ประเมิน |
เลือก |
ไม่เชื่อว่า |
การวัด |
ตระหนัก |
ชี้แจ้ง |
สังเกตออก |
รวบรวม |
เข้าใจความหมาย |
ครุ่นคิด |
ไม่ยอมรับ |
รู้ซึ้ง |
ค้นคว้า |
โต้เถียง |
ค้นพบ |
สืบหา |
วินิจฉัย |
โต้แย้ง |
ทำให้ไม่เชื่อ |
เดา |
กำหนด |
ขัดแย้ง |
แยกแยะ |
สร้างสมมุติฐาน |
สมมุติฐาน |
ทำให้มั่นใจ |
อภิปราย |
โดยนัย |
พิสูจน์ |
ทำให้แน่ใจยิ่งขึ้น |
จำแนก |
แนะนำ |
ยืนยันด้วยความมั่นใจ |
วิจารณ์ |
คัดค้าน |
ไต่ถาม |
เชื่อว่า |
ตัดสินใจ |
คาดการณ์ |
ตรวจสอบอย่างละเอียด |
คำนวณ |
ประกาศ |
สงสัย |
แปล |
|
|
|
|
|
|
|
|
ใช้สมอง |
ลงความเห็น |
ทำให้กระจ่าง |
รู้โดยสัญชาตญาณ |
อ้าง |
ให้คำจำกัดความ |
ทำให้เพลินเพลิน |
สอบสวน |
รู้ถึง |
ใคร่ครวญ |
บัญญัติ |
ผู้วินิจฉัย |
หยั่งรู้ |
สาธิต |
ประมาณ |
พิสูจน์ว่าถูกต้อง |
...
คุณสมบัตินักพัฒนากับการใช้คำถาม
นักพัฒนาที่ดีจำต้องสามารถมีทักษะในการถามที่สามารถในการสร้างความรู้ให้แก่ผู้เรียนผู้ใหญ่ได้เป็นอย่างดี ลักษณะของการที่เป็นผู้ถามที่ดีนั้นต้องประกอบด้วยการเป็น
1) คิดเป็น นักพัฒนาต้องมีความสามารถในการกำหนดเป้าหมาย วัตถุประสงค์ในการตั้งคำถามหนึ่งๆ ได้อย่างชัดเจนต้องมีการเตรียมถามเป็นอย่างดีมีการรวบรวมข้อมูลที่เพียงพอเพื่อนำมาใช้ในการสร้างคำถามนั้น
2) พูดเป็น มีความสามารถในการถาม การเลือกใช้ภาษาพูดและภาษาท่าทางต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม สามารถจูงใจหรือโน้มน้าวความคิดได้เป็น สามารถดึงความรู้ของผู้เรียนผู้ใหญ่นั้นให้เกิดการต่อยอดเป็นความรู้ที่ทวีขึ้นได้ ไม่พูดอย่างไม่สุภาพอวดความรู้ของตัวเองแต่เป็นนักพูดที่ให้เกียรติผู้เรียนเสมอ
3) ฟังเป็น มีความสามารถในการฟังเพราะการถามต้องพร้อมในการฟังเพื่อทำการเก็บรวบรวมข้อมูลที่ได้ยิน นำข้อมูลนั้นมาประมวล วิเคราะห์การเรียนรู้ของผู้เรียนผู้ใหญ่เพื่อทราบถึงผลของการสร้างความคิดนั้นสัมฤทธิ์ผลหรือไม่ อีกทั้งการเป็นผู้ฟังที่ดีมีผลต่อการเรียนรู้ การไม่ขัดจังหวะในขณะที่ผู้เรียนตอบคำถาม การมีมารยาทในการฟังท่าทางในการฟังก็แสดงออกถึงความสนใจในตัวผู้เรียนผู้ใหญ่
4) อ่านออก สามารถวิเคราะห์ผู้เรียนได้จากการเฝ้าสังเกตบุคลิกลักษณะภายนอก กริยาท่าทางต่างๆ มารยาท การแต่งกายของผู้เรียน ลักษณะการพูดของผู้เรียน น้ำเสียง แววตา อารมณ์ ฯลฯ และลักษณะภายใน ความเป็นผู้ใหญ่ ระดับความรู้และระดับสติปัญญา ทัศนคติ แนวความคิดต่างๆ การอ่านออกช่วยทำให้นักพัฒนาสามารถนำมาใช้เพื่อปรับเปลี่ยน ลด หรือเพิ่มกิจกรรมเพื่อการเรียนรู้ได้
5) การจดบันทึกเป็น การจดบันทึกถึงสิ่งที่สังเกตได้หรือการจดบันทึกเพื่อใช้เป็นข้อมูลเป็นสิ่งที่สำคัญที่นักพัฒนาต้องทำเพื่อนำสิ่งที่บันทึกนั้นไปใช้ในการประเมินเพื่อพัฒนาคนต่อไป
คำถามกับการเรียนรู้ผู้ใหญ่
เพราะลักษณะของผู้ใหญ่นั้นแตกต่างจากลักษณะของเด็ก ผู้ใหญ่มีความต้องการในการเรียนรู้เพื่อสามารถนำความรู้นั้นไปใช้ได้ การใช้คำถามจึงเป็นการสร้างการเรียนรู้ที่ทำให้ผู้เรียนผู้ใหญ่เกิดความรู้มากขึ้นซึ่งสิ่งที่ผู้เรียนผู้ใหญ่รู้คือ Know what (รู้อะไร) Know how (รู้อย่างไร) Know why (รู้ทำไม) Know where (รู้ที่ไหน) Know when (รู้เมื่อใดที่เหมาะสม) Know why not (รู้ว่าทำไมถึงไม่)
การถามคำถามก็เป็นการที่ทำให้ผู้เรียนผู้ใหญ่สามารถรู้ถึงสิ่งเหล่านี้ได้ เป็นการเพิ่มระดับการเรียนรู้จากการมีข้อมูลมาสู่การนำไปใช้ได้ ลักษณะการตั้งคำถามจึงมีหลายแบบที่สามารถนำไปใช้ได้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของความต้องการสร้างความรู้ ความเหมาะสมของกลุ่มผู้เรียน ความเหมาะสมของเวลาและอื่นที่เป็นเงื่อนไขที่เกี่ยวข้อง ลักษณะคำถามจึงมีทั้ง คำถามแบบปลายเปิด เป็นคำถามที่นิยมกันมากวัตถุประสงค์ของคำถามนั้นดูได้ที่การตั้งคำถามมักใช้ what when where why how เป็นต้น คำถามแบบเจาะจงหรือคำถามปิด เป็นคำถามเพื่อให้เกิดความเจาะจงในการตอบคำถามมากขึ้น ตรงประเด็นทันทีเป็นลักษณะคำถามที่ถามเพื่อให้ตอบใช่หรือไม่ใช่เท่านั้น คำถามแบบเจาะลึก เป็นการถามข้อมูลอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดการเจาะลึกมากขึ้นมักถามเมื่อถามคำถามแรกไปแล้ว เป็นต้น
สรุปและข้อเสนอแนะ
ในปัจจุบันนี้นักพัฒนามองเห็นถึงความสำคัญของการกำหนดการพัฒนามนุษย์มากขึ้น เพราะนักพัฒนามองว่ามนุษย์เป็นทรัพยากรที่มีค่ามาก มีการทำการศึกษาการลงรายละเอียดในการแยกแยะความแตกต่างระหว่างลักษณะของเด็ก (pedagogy) กับลักษณะของผู้ใหญ่ (andragogy) เพื่อนำผลการศึกษานี้มาออกแบบหลักสูตร กิจกรรมการเรียนรู้ที่เหมาะสมสำหรับลักษณะของเด็กและผู้ใหญ่
ลักษณะการเรียนรู้ของผู้ใหญ่ในปัจจุบันนั้นมักเอาหลักทฤษฎีของ Knowles ซึ่ง Knowles ได้นำหลักนี้มาจากหลักของมนุษยนิยม (humanism) เป็นการมองที่ตัวผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ให้ผู้เรียนสามารถมีส่วนในการกำหนดการเรียนรู้ด้วยตนเองได้ (self-directed) เพราะ Knowles มองว่าผู้ใหญ่นั้นมีความรู้ ความสามารถ มีประสบการณ์ อีกทั้งผู้ใหญ่มีความรับผิดชอบสามารถควบคุมตนเองได้ ผู้สอนเป็นเพียงผู้ที่คอยอำนวยความสะดวกแนะนำในการเรียนรู้เท่านั้น ลักษณะของกิจกรรมจึงเป็นการมอบหมายงานให้เกิดการค้นคว้าด้วยตนเอง สามารถกำหนดหัวข้อที่สนใจเองได้ ในทางด้านการศึกษาจะใช้วิธีการให้ทำการค้นคว้าด้วยตนเอง หรือเรียกว่างานวิทยานิพนธ์ ในการจัดการอบรมให้กับผู้ใหญ่ก็ให้มีการแสดงความคิดเห็นแลกเปลี่ยนต่อกัน เพื่อทำให้เกิดการเรียนรู้ใหม่นั้นเอง
การเรียนรู้แบบ Action learning ก็เป็นการเรียนรู้ใหม่ที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน Michael J. Marquardt ได้นำเสนอแนวทางในการพัฒนามนุษย์แบบใหม่นี้ด้วยการจัดตั้งกลุ่มที่มีความหลากหลายมาทำการแลกเปลี่ยนความคิดเพื่อให้เกิดการเรียนรู้และนำความรู้ที่ได้นี้ไปใช้ในการทำงานหรือในการแก้ปัญหา โดยหลักของการเรียนรู้แบบนี้ได้นำคำถามมาเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการทำรูปแบบการเรียนรู้ คำถามดีก็จะได้คำตอบที่ดี คำตอบที่ดีก็จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี คำถามเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันโดยปรกติทั่วไปอยู่แล้ว คำถามเป็นสิ่งที่เข้าไปเกี่ยวข้องในศาสตร์ต่างๆน
ดังนั้นคำถามจึงเป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญอย่างยิ่งที่นักพัฒนาควรต้องเรียนรู้จักในการนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ทั้งการตั้งคำถาม การฟัง การสังเกต การประมวลสิ่งที่ได้เพื่อนำข้อมูลเหล่านนั้นมาใช้ประโยชน์ในอนาคตต่อไป
บรรณานุกรม
แก้วตา ผู้พัฒนพงศ์. (2543). การให้คำปรึกษา. เอกสารประกอบการเรียน HU 413. สำนักพิมพ์ รามคำแหง.: กรุงเทพมหานคร. |
ชัยอนันต์ สมุทวณิช. (2539). ความคิดคู่ขนาน. สำนักพิมพ์ผู้จัดการ.: กรุงเทพมหานคร. |
บุญมา ชัยเสถียรทรัพย์. (2545). เทคนิคการให้สัมภาษณ์. เอกสารประกอบการเรียน HU 411. สำนักพิมพ์รามคำแหง: กรุงเทพมหานคร. |
ศรีเรือน แก้วกังวาล. (2545). จิตวิทยาพัฒนาการชีวิตทุกช่วงวัย เล่ม 2 (พิมพ์ครั้งที่ 2). สำนักพิมพ์ธรรมศาสตร์: กรุงเทพมหานคร. |
สุวัฒน์ วัฒนวงศ์. (2547). จิตวิทยาเพื่อการฝึกอบรมผู้ใหญ่ (พิมพ์ครั้งที่ 2). สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย.:กรุงเทพมหานคร. |
Knowles M.S., Holton E.F., Swanson R.A. (2005). The adult learner (6th Ed.). Elsevier Inc.: london. |
Marquardt M.J. Action learning. เอกสารประกอบการบรรยายพิเศษเรื่อง การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาองค์กร. วันที่ 28 ตุลาคม 2550. มหาวิทยาลัยรามคำแหง.: กรุงเทพมหานคร. |
Marquardt M.J. Developing great leader via action learning programs. เอกสารประกอบการบรรยายพิเศษเรื่อง การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาองค์กร. วันที่ 28 ตุลาคม 2550. มหาวิทยาลัยรามคำแหง.: กรุงเทพมหานคร. |
Question. ค้นจากhttp://en.wikipedia.org/wiki/Question. วันที่ค้น 27 พฤศจิกายน 2550. |
Tishman S.,Perkins D.N., Jay E. (1995). The thinking classroom. Allyn and Bacon:Needham Height, MA. |
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ
อ่านแล้วรู้สึกเข้าใจงานที่ตัวเองทำมากขึ้นครับ
ขอบคุณมาก ได้รับความรู้เข้าใจในทฤษฏีมากขึ้น