"ทุกข์มีไว้ให้ดู ไม่ใช่มีไว้ให้เป็น"
ประโยคข้างบนเป็นคำพูดของครูบาอาจารย์ ที่ผมเคยอ่าน และได้ยินมานานแล้ว
ผมยอมรับว่าผมเคยทุกข์มาก แต่ก็นานมาแล้วจนแทบจำไม่ได้ และทางออกของปัญหา ก็มักจะลงเอยด้วยการหาอะไรเพลินๆ ทำฆ่าเวลา หรือไม่ก็ออกไปสังสรรค์กับเพื่อนฝูง พูดง่ายๆ ก็คือใช้เวลารักษาหัวใจ แต่เชื่อไหมว่า เวลาไม่เคยช่วยอะไรได้จริง ดั่งเพลงของคุณคริสตินาร์ ซึ่งถ้าใครยังอยู่ในยุคผมคงรู้จักดี
ประโยคเด็ดคือ "เวลาไม่เคยลบความทรงจำ"
แต่เมื่อได้เริ่มเดินทางตามรอยพระบรมศาสดาแล้ว เมื่อผมเกิดความทุกข์ขึ้น แล้วมองดูลงไปตามความเป็นจริง ดูความบีบคั้น ไล่ไปเรื่อยๆ ถึงต้นเหตุ ซึ่งโดยมาก คือความอยาก หรือไม่อยาก ที่เกิดโดยอาศัยสัญญา ร่วม กับสังขาร
แต่ผมมาติดอยู่ตรงผมเกิดไปชอบความรู้สึกนี้เข้า เข้าไปสังเกตุแบบใจไม่เป็นกลาง คอยลุ้นทุกระยะว่าเมื่อไหร่มันจะเปลี่ยนแปลง
จนกลายเป็นทุกข์จริงๆ แล้วผมกลับไปติดใจในรสชาติของมันเสียอีก (เหมือนคนที่ชอบกินเหล้าแรงๆ หรือกาแฟ Triple shot)
จนเข้าใจความหมาย
"ทุกข์มีไว้ให้ดู ไม่ใช่มีไว้ให้เป็น"
สวัสดีค่ะ
*** "ทุกข์มีไว้ให้ดู ไม่ใช่มีไว้ให้เป็น" แต่เวลาไม่เคยลบความทรงจำบางอย่างได้เหมือนที่ใครๆคิด การนั่งดูทุกข์อย่างทรมานก็ยิ่งเป็นทุกข์ คงทำได้แค่คิดว่าถูกกรรมกำหนดให้เป็นก็ชดใช้กันไปเท่านั้น
*** แผลที่ลึกมาก ยาทั่วไปคงรักษายาก ใช้ธรรมโอสถเข้าช่วยบ้างน่าจะพอมีหนทางนะคะ ขอให้โชคดี