เขาให้เป็นข่าว. ก็ดีใจที่ได้เผยแพร่แลกเปลี่ยนความรู้


ไข้หวัดใหญ่

นักวิชาการมหิดลออกโรงเตือน ระวังไข้หวัดใหญ่

 

                การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ คือไข้หวัดใหญ่2009 ที่กำลังเป็นที่หวั่นวิตกของพี่น้องประชาชนทั่วโลกรวมถึงพี่น้องประชาชนไทยอยู่ในขณะนี้ ก็ถือเป็นอีกสายพันธุ์หนึ่งที่มีการพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นในโลกนี้ของไวรัสไข้หวัดใหญ่  นับเป็นเรื่องที่ทำให้มีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตอย่างปกติสุขของประชาชน และการสูญเสียทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาลทั่วโลก แต่ก็โชคดีที่ความรุนแรงที่จะมีผลถึงขั้นเสียชีวิตนั้นยังต่ำกว่าไข้หวัดนกที่ระบาดมาก่อนหน้านี้ แต่การสูญเสียของมนุษย์โลกจากไวรัสไข้หวัดใหญ่เมื่อ 90 ปีที่แล้วคือประมาณปี พุทธศักราช 2461-2462 ที่เรียกว่า Spanish Flu ที่คนเสียชีวิตไปในคราวนั้นเป็น 40-50 ล้านคนยังตามมาหลอกหลอนชาวโลกอยู่ตลอดเวลา แม้จะสามารถคิดค้นการรักษาและการป้องกันที่ดีขึ้น รวมถึงการศึกษาค้นคว้าวิจัยในเรื่องดังกล่าวกันมาเป็นเวลานาน แต่เพราะการเปลี่ยนสายพันธุ์ไปของไข้หวัดใหญ่ก็ยังเป็นที่หวั่นวิตกกันอยู่ตลอดเวลา 

ดร.แสงเทียน อยู่เถา อาจารย์ประจำสาขาวิชาเวชระเบียน มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ทำการศึกษาในเรื่องผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ในประเทศไทยมาเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 5 ปี ได้ให้ความเห็นถึงการที่ประชาชนชาวไทยต้องตระหนักถึงมหันตภัยร้ายที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาจากไวรัสไข้หวัดใหญ่ อย่าหวั่นวิตกเพียงเพราะมีข่าวว่าเกิดการระบาดของสายพันธุ์ใหม่ แต่เราต้องใช้โอกาสนี้ให้ทุกภาคส่วนได้ตระหนักถึงมหันตภัยร้ายจากไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ที่แพร่และพบอยู่ทั่วไปในประเทศไทยในปัจจุบัน

จากการศึกษาจำนวนผู้ป่วยในประเทศไทยจำนวนเกือบ 30 ปีที่ผ่านมาก็พบว่า จำนวนไข้หวัดใหญ่ในภาคต่าง ๆ ของประเทศไทยมีลักษณะการเพิ่มปริมาณที่อยู่ในลักษณะใกล้เคียงกันในแต่ละปี โดยในภาคใต้มีคนเป็นไข้หวัดใหญ่มากที่สุด และในแต่ละช่วงเวลาของทุกปีก็จะพบว่า จะมีจำนวนเพิ่มขึ้นในช่วงเมษายนของทุกปี และจะมากสุดในเดือน กรกฎาคม ช่วงนี้จึงเป็นช่วงที่มีการเพิ่มของจำนวนผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ของทุกปี โดยภาคเหนือจะมีการเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วมากเนื่องจากได้รับผลโดยตรงจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งจะมีผลต่อภาคเหนือโดยตรงในช่วงนี้แต่ก็จะเป็นในช่วงสั้น ๆ กว่าภาคอื่น ๆ เพราะมีสภาพเป็นภูเขาสูงซึ่งถ้าลมไม่แรงจริง ๆ ก็ไม่อาจมีผลได้ง่าย ๆ ไม่เหมือนอย่างภาคกลาง ภาคใต้ จะได้รับลมแม้จะไม่โดยตรงแต่ก็ได้รับตลอดปี

                จากการศึกษาปัจจัยต่าง ๆ ทางสภาพภูมิอากาศ ไม่ว่าจะเป็น ความเร็วลม อุณหภูมิ ความชื้นสัมพัทธ์ ปริมาณน้ำฝน จำนวนแสงแดดส่องต่อวัน และปัจจัยทางสภาพอากาศทั้งหมดที่เก็บข้อมูลไว้โดยกรมอุตุนิยมวิทยาจำนวน 16 รายการ พบว่า มีเพียงปัจจัยเดียวที่เป็นปัจจัยหลักในการทำให้ปริมาณของจำนวนผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ในประเทศไทยมีผลโดยตรงคือ ความเร็วลม เพราะฉะนั้นในช่วงนี้มีลมพัดกรรโชกแรง ด้วยความเร็วลมที่ค่อนข้างแรงก็ให้ประชาชนให้ความระมัดระวังในการต้องสัมผัสกับลมโดยตรง อาจทำให้เป็นไข้หวัดใหญ่ได้ และลมที่พัดผ่านจากการศึกษาก็พบว่า มีผลในลักษณะที่กินพื้นที่กว้างขวางไปหลาย ๆ ประเทศ เพราะฉะนั้นการแพร่กระจายของไข้หวัดใหญ่นั้นสามารถไปได้ไกลกว่าที่คิดไว้มาก แม้ในขณะนี้จะมีการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกในแถบอเมริกาและยุโรป แต่การเดินทางของผู้คนในปัจจุบันก็ไปได้เร็วมาก เมื่อไหร่ก็ตามที่มาถึงเอเชียการติดต่อด้วยลมในระดับทวีปอย่างมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือก็อาจมีผลทำให้การแพร่กระจายของไข้หวัดใหญ่น่ากลัวขึ้นอย่างมาก กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่ไม่เหมือนเดิม การเกิดขึ้นของพายุที่มีอยู่อย่างต่อเนื่องในทุกภูมิภาค ก็ต้องให้ความสำคัญเหมือนกัน

                 นอกจากนี้อาจารย์แสงเทียน ยังได้ให้ความเห็นว่า การเกิดขึ้นของสายพันธุ์ใหม่จะน่ากลัวมากถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่มีการระบาดเข้าไปสู่พื้นที่หรือในขณะที่มีการป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เดิม ๆ ที่เป็นอยู่ เพราะเป็นการเสี่ยงมากที่จะทำให้มีการเกิดสายพันธุ์ใหม่ที่อาจจะรุนแรงขึ้นมาอีกโดยไม่สามารถจะทราบได้ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ประเทศไทยจะต้องทำนอกเหนือจากการป้องกันไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกเข้ามายังประเทศไทย คือการควบคุมไข้หวัดใหญ่ที่กำลังจะเพิ่มจำนวนขึ้นในช่วงนี้พอดี  และทุกภาคส่วนควรหันมาให้ความสนใจกับการป่วยจากไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่ประเทศไทยต้องประสบอยู่ทุกปี ในการเพิ่มปริมาณขึ้นในช่วงเมษายน ถึง กรกฎาคม ของทุก ๆ ปี

 

 

 

สนั๊ฟ  สุขเกษม

นครปฐม 28 เมษายน 2552

 

หมายเลขบันทึก: 258406เขียนเมื่อ 30 เมษายน 2009 16:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 06:30 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท