เรื่องนี้อยู่ในซีรี่ส์ของ เหตุผลวิบัติ
วันนี้เราจะได้เห็นรูปแบบเฉพาะอีกแบบของการให้เหตุผลที่ไม่สมเหตุสมผลในทางตรรกศาสตร์ (หรือที่ผมเรียกว่า เหตุผลวิบัติ) รูปแบบนี้ก็คือการปฏิเสธประโยคอ้างเหตุผลด้วยการโจมตีแหล่งข้อมูล หรือที่เรียกว่า Argumentum ad hominem (เป็นภาษาลาติน แปลว่า argument against the man (การโจมตีผู้พูด) ) ตัวอย่างเช่น
วิธีนี้มักจะถูกนำมาใช้เมื่อผู้พูดไม่สามารถปฏิเสธประโยคอ้างเหตุผลด้วยเหตุผลได้ จึงใช้วิธีการโจมตีตัวบุคคลที่พูด เพื่อลดความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่กล่าวอ้าง ซึ่งในเชิงของการให้เหตุผลแล้ว วิธีการปฏิเสธเช่นนี้ไม่สามารถใช้ได้ เพราะ
แต่แน่นอน ว่าวิธีนี้ถูกนำมาใช้บ่อยครั้งในทางการเมืองเพื่อปฏิเสธข้อมูลของฝ่ายตรงข้าม ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดทีผมโดนกับตัวเองคือ ในหลายครั้งที่ผมพยายามเขียนบันทึกเล่าเรื่องราวทางการเมือง (โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงที่่ผมเขียนต่อต้านการรับรัฐธรรมนูญ 50) ผมมักจะถูกโจมตีว่า "พวกรับเงินเหลี่ยม" ซึ่งการโจมตีเช่นนี้มีผลทางจิตวิทยากับผู้อ่านที่มีจิตใจเอนเอียงอยู่แล้ว ก็จะถูกสร้างภาพลวงว่าผมพยายามอ้างเหตุผลดังกล่าวเพื่อทักษิณ ทำให้ความน่าเชื่อถือของสิ่งที่ผมอ้างลดลง
วิธีนี้มักจะใช้ได้ผลโดยที่ไม่ต้องเถียงให้เหนื่อยแรง
เป็นกำลังใจให้เสมอ
สวัสดีครับครูอ้อย
ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมครับ ผมก็เชื่อเช่นกันครับ ว่าใครทำอย่างไรก็ได้อย่างนั้น และ ก็เชื่อว่า คนที่ดีจริง ไม่จำเป็นต้องป่าวประกาศว่าตัวเองดีครับ
เห็นจนเบื่อเลยนะ การโจมตีวิธีนี้
จนทำให้เดาเกือบออกเลย ถ้ามีฝ่ายหนึ่งออกมาพูดอะไรสักอย่าง
อีกฝ่ายหนึ่งจะตอบโต้อย่างไร
เห็นแล้ว ..เบื่อ ..จนนึกไม่ออกว่าความจริงคืออะไร ..
ขอบคุณที่ เอามาให้ดูว่าวิธีนี้มีแหล่งอ้างอิงค่ะ
สวัสดีครับคุณ coffee mania,
การเมืองบ้านเราน่าสนุกอย่างนะครับ "เหตุผลวิบัติ" ถูกนำมาใช้อ้างเหตุผลเต็มไปหมด ผมจะพูดถึงอีกหลายอย่างเลยครับ
ปล. ชอบกินกาแฟเหมือนกันครับ :-) แต่ตอนนี้กินไม่ได้แล้วเพราะกะเพาะไม่ดี (เมื่อก่อนกินวันละ 6-7 แก้ว)
สวัสดีครับ คุณต้อยติ่ง :-)
วันนี้ดูอภิปรายสองสภาคิดว่าได้อะไรเยอะอยู่เหมือนกันครับ
ไม่ได้ดูเลยครับ คงต้องหาอ่านสรุปเอา อยู่ต่างประเทศตามข่าวลำบากอยู่ครับ :(
ได้ดูช่วงจตุพร พรมพันธ์ บอกเล่าเกี่ยวกับเหตุการณ์สลายการชุมนุม ผนวกกับที่สุเทพ บอกเล่า จะเห็นได้ว่านำเสนอกันคนละมุม มุมจตุพรจะบอกเล่าเหตุการณ์ในแง่มุมที่ตนอยู่ในเหตุการณ์(ซึ่งก็ไม่รู้ชัดว่าจริงเท็จ ใส่ชูรสมั่งปล่าว) แต่ที่น่าสังเกตุคือมุมสุเทพจะเน้นย้ำการใช้ความรุนแรงของเสื้อแดงตลอดเวลา เพื่อตอกย้ำความจำเป็นต้องใช้ พรก.มีการฉายภาพตอนรถนายกถูกรุมยำ ภาพรถเมล์ถูกเผา ภาพรถแก้ส และสรุปว่าไม่มีการใช้ความรุนแรง ในการสลายการชุมนุม
ปวดหัวกับการเมือง กลับมาเป็นตัวของเรา ทำดีที่สุดของเรานะคะท่าน
ไปๆมาๆผมก็ว่างั้นแหละครับ
วิธีการดิสเครดิตก็มีใช้มาแต่โบราณนะคะ สามก๊กเองก็มี การทำให้ผู้หนึ่งมีค่าความน่าเชื่อถือลดลง ย่อมทำให้สิ่งที่พูดออกมา (แม้เป็นจริง) ก็พลอยไม่น่าเชื่อถือไปด้วย แต่การตัดสินจากเกณฑ์ว่าคนเลวต้องทำเลวเสมอ หรือคนดีต้องทำดีเสมอคิดว่าเป็นการด่วนสรุปค่ะ บ่อยครั้งไปที่คนดีก็ทำเลวได้เนียนโดยไม่มีใครรู้หรือสงสัยเพราะเครดิตเดิมสั่งสมมาดี เพราะฉะนั้นต้องพึ่งวิจารณญาณและข้อมูลรอบด้านมาช่วยวิเคราะห์ค่ะ ดูคนนี่อาศัยการดูเปลือกนอกยากเหลือเกิน
มีเคสขำๆ ไม่ซีเรียสเล่าให้ฟัง พอดีหุ้นส่วนเป็น CEO บริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง เขาไม่ชอบใส่เครื่องประดับแบบแพงๆ ชอบใส่นาฬิกาดิจิตัลที่มีฟังก์ชั่นร้อยแปดมากกว่าเพราะไฮเทค แต่เวลาไปงานหรูๆ คนก็คาดหวังที่จะเห็นอะไรหรูๆ คู่กับสังคมระดับไฮซ้อ พี่แกก็เลยสนองด้วยปาเต๊ะฟิลลิปเสินเจิ้นเรือนละร้อยห้าสิบบาท คนก็ฮือฮาว่าจริงเพราะคนใส่เครดิตดี สรรเสริญเยินยอชมรสนิยมว่าเข้าขั้น เขาขำแทบตายที่คนดูไม่ออก อย่างตัวเองก็เจอเวลาขับรถไปโรงแรม ถ้าขับเบนซ์ก็จอดที่อภิสิทธิ์ได้ แถมคนรับรถก็โค้งให้รถไม่ใช่เรา แต่พอขับรถญี่ปุ่นก็ไล่ไปจอดในอาคารแทน หางตาก็ไม่แล นี่แหล่ะค่ะสังคมที่นับถือเปลือกนอกของคน : P
"คุณปริญญา" หายไปนาน ได้ข่าวเรื่องไข้หวัดใหญ่ระบาดมาก อยู่ใกล้ - ห่างกันแค่ไหน รักษาสุขภาพด้วยและขอให้แข็งแรง ปลอดภัย