ในช่วงสายของวันนี้ระหว่างที่เดินตามถวายงานท่านพระอาจารย์นั้น เป็นวัน เป็นเวลา เป็นโอกาสที่มีคุณค่า เพราะเราเองได้ “เข้าโรงเรียน” เรียนและรู้เกี่ยวกับการล้อมต้นไม้
ระหว่างการตรวจงานการขุดล้อมตอนไม้ที่ปลูกไว้เพื่อย้ายไปบริเวณที่ต้องการนั้น
คนงานที่จ้างมาเพื่อขุดล้อมนั้นทำงานไม่ได้มาตรฐาน “ไม่ผ่าน” ท่านพระอาจารย์จึงได้เมตตาสอนวิธีการย้ายต้นไม้อยู่นานร่วมชั่วโมง
ถือว่าเป็นช่วงชีวิตอันแสนวิเศษของเรามากที่วันนี้ได้มีโอกาสเรียนและรู้เรื่องการล้อมต้นไม้ที่มีเทคนิค วิธีการ อันสั่งสมมาจากประสบการณ์ที่ทรงคุณค่า ดังนั้นเราเองจึงไม่รอช้าที่จะรีบเดินไปหยิบสมุดและดินสอมาเพื่อบันทึก เพื่อรักษา “ปัญญา” อันทรงคุณค่า น่าจด ควรจำ
คืนวันอันแสนวิเศษที่ไม่สามารถหาซื้อได้ หาเรียนได้จากโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยใด
“มหาวิชชาลัย” อันมีองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ เป็น "ครูใหญ่" นั้นเป็นปัญญาที่สุดประเสริฐ
นอกจากความรู้เรื่องการล้อมต้นไม้ที่ท่านมีเมตตามอบให้กับทุก ๆ คนแล้ว
เทคนิคการพูด การสอนอันล้ำค่า ที่ไม่อาจหาได้จากตำราการบริหารระดับโลกเล่มไหน
เทคนิคการบริหาร “การจัดการจิตแบบไทย” ที่สามารถนำไปใช้แบบบัวไม่ช้ำ น้ำไม่ขุ่น
การสอนที่ล้ำค่า การจัดการจิตอันลึกล้ำ ค่อย ๆ หยอด ค่อย ๆ หยด ค่อย ๆ หลั่ง ค่อย ๆ ริน
ให้เมื่อพร้อม อบให้กรอบ ดัดให้อ่อนก่อนที่จะให้
อ่อนแล้ว กรอบแล้ว จึงค่อยดัด ค่อยให้
ทุก ๆ ย่างก้าวที่ดัด ทุก ๆ ย่างก้าวที่ให้ล้วนทรงคุณค่า
ชีวิตอันน้อยนิดนี้จึงคุ้มค่า ที่เวลานี้ได้ “เข้าโรงเรียน...”
แวะมาอ่านวิธีการล้อมต้นไม้ เพิ่งเห็นครับ
แต่ก็ต้องนำไปพักฟื้นด้วยใช่ไหมครับ
ขอบคุณภาพที่ได้เห็นครับ
เห็นภาพการทำงาน นี้ก็น่าสนใจ
แต่อีกมุม
ก็นึกไปถึง
ตนเองในชีวิตประจำวัน
หากมีการงานเยอะมากมายต้องทำ
เราจะภาวนาจากการงาน ได้อย่างไร
เคยได้ยินเรื่องเล่าพระสาวกที่พระองค์สอนให้ภาวนาจางานเพราะต้องทำงานรับใช้ใกล้ชิด
ทุกอย่างก้าวคือการภาวนา...
ถ้าหายใจได้ ก็ต้องภาวนาได้...
คนเรามักลดค่าของตนเองให้ไปเป็นดั่งเครื่องจักร นั่งเฉย ๆ นิ่ง ๆ ไม่ทำอะไร...
คนที่ติดอยู่ในสมาธินี่ชอบหลงด้วยนะ...
เป็นคน เป็นมนุษย์ มีเรี่ยว มีแรงอยู่ ก็ให้รู้จักเอาเรี่ยว เอาแรงนั้นมาทำความดี มาเสียสละ...