สรุปจากความเป็นไปได้
คราวก่อนผมได้พูดถึงเรื่องของการเบี่ยงประเด็นเพื่อปฏิเสธการอ้างเหตุผลของผู้พูด คราวนี้ผมอยากจะพูดถึงตัวอย่างอีกอย่างที่เป็นลักษณะเฉพาะของ "เหตุผลวิบัติ" ที่ปรากฏให้เห็นในชีวิตประจำวันบ่อยๆ วิธีนี้มักจะได้ผลเมื่อมี "ความวิตก" ของคนเข้ามาเกี่ยวข้อง (พูดในสิ่งที่ทำให้วิตก) แท้จริงแล้วอาจจะพูดสิ่งที่ไม่สมเหตุสมผลอยู่
ลักษณะเฉพาะของการให้เหตุผลแบบนี้ก็คือ
เนื่องจาก E เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ ดังนั้น E จะเกิด
แน่นอน นี่เป็นการสรุปที่ไม่สมเหตุสมผลที่สุดในจักรวาล การที่เหตุการณ์เกิดขึ้นได้จริงๆแล้ว อาจจะมีความเป็นไปได้ในการเกิดที่ต่ำมาก แต่ผู้พูดกลับสรุปทันทีว่าสิ่งนั้นจะเกิด
ตัวอย่างที่ผมพบบ่อย
- "เนื่องจากหลายเดือนก่อนเครื่องบินเพิ่งตกไป ดังนั้นเครื่องบินจึงเป็นสิ่งที่อันตราย เราจึงไม่ควรขึ้นเครื่องบิน"
ความไม่สมเหตุสมผลอยู่ตรงที่ว่า การที่จะสรุปได้ว่าอะไรบางอย่างอันตราย ต้องดูจากเปอร์เซ็นต์ความผิดพลาด ก่อนที่จะสรุป อีกอย่างการที่สายการบินบางสายทำงานไม่ดี ไม่ได้หมายความว่าเครื่องบินทั้งหมดอันตราย
- "เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่ทักษิณจะล้มสถาบัน ดังนั้น ถ้าทักษิณกลับมา เขาจะทำลายสถาบัน"
คำพูดนี้ผมเคยได้ิยินหลายครั้ง ฟังอย่างไรก็ทะแม่งๆ ความเป็นไปได้ตรงนั้นแทบเป็นศูนย์ ถึงแม้เขาอาจจะคอรัปต์ แต่ผมไม่เห็นหลักฐานเกี่ยวกับเรื่องสถาบันแม้แต่อย่างเดียว
สังเกตุว่าตัวอย่างทั้งสองด้านบน เป็นการใช้ "ความกลัว" ในผลลัพธ์ที่จะเกิดของผู้ฟังทำให้สิ่งที่พูดฟังแล้วดูสมเหตุสมผลมากขึ้น
ใครเคยได้ยินตัวอย่างอะไรทำนองนี้อีกบ้าง ลองเอามาแชร์กันบ้างนะครับ
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
เบี่ยงประเด็น: http://gotoknow.org/blog/notitle/255981
Fallacies: http://gotoknow.org/blog/neutral/206114
ความเห็น (10)
แล้วที่เค้าบอกว่า คุณทักษิณ
ไปนั่งที่พระเจ้าอยู่หัวนั่ง
ในวัดพระแก้ว เป็นเรื่องจริงมั้ยค่ะ
อ๋อ ลืมบอกอาจารย์ไป
ว่ากอได้ยินเค้าพูดกันแบบนี้เยอะมากเลย
ปากต่อปากว่า
คุณทักษิณ ทำหลายอย่างที่เหมือนกับอยากจะเป็นประธานาธิบดีเมืองไทย
โดยไม่ให้มีพระมหากษัติย์
คุณทักษิณก็เลยทำตัวยิ่งใหญ่โดยไม่สนใจพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องจากคุณทักษิณมีเงินมาก
กอจะบอกว่า อยากให้พระเอกของเรื่องกลับมาเสียที
เออ เรื่องแบบนี้อย่าพูดต่อความยาวแถวๆนี้เลยครับ ต้องขออภัยด้วยครับ ผมไม่ค่อยสันทัดกฏหมายเท่าไหร่นัก
อันนี้แค่เป็นตัวอย่างนะครับ เอาเป็นว่า "หลักฐาน" ของเรื่องคอขาดบาดตายแบบนี้น่ะ มันต้องมากกว่าแค่พวกข่าวลือครับ
แต่นี่ไม่ใช่ประเด็นหลักของโพสต์นี้หรอกนะครับ ผมแค่ต้องการชี้ถึงการสรุปจากสิ่งที่ความเป็นไปได้น้อยเท่านั้น บังเอิญว่าตัวอย่างนี้เป็นตัวอย่างที่ดีที่ผมได้ยินบ่อย เลยเอามาใส่
แต่ถ้าจะให้ผมพูดตรงๆอะนะครับ ผมไม่เชื่อเรื่องนี้นะครับ ผมรู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยเล่นกับจิตใจของคนมากกว่า คนที่สร้างเรื่องนี้ต้องการให้ผู้คนเกลียดทักษิณมากขึ้นอยู่แล้ว แล้วก็รู้ว่าคนไทยรักในหลวงแค่ไหน
ผมไม่ได้ฟังธงนะครับ ผู้ฟังโปรดใช้วิจารณญาณด้วย
กอจะไปดูละครดงน้องแจ๋วแล้ว
แต่มาดูอาจารย์ปริญญาก่อน
กอฟังโดยใช้วิจารณญาณ
ฟังกันจนหูจะยานอยู่แล้ว
แล้วคนที่เล่นกับจิตใจคน ให้เกลียดคุณทักษิณ
อาจารย์ไม่ได้ฟันธง แต่กอมาฟันทิ้งว่า
อือ อือ แล้วทำไมคุณทักษิณ ทั้งรวย ทั้งเก่ง
ทำอะไรได้มากมาย กับอีแค่พิสูจน์เรื่องนี้ ทำไมถึงไม่ทำ
ที่ไม่ทำ เป็นเพราะพิสูจน์ตัวเองไม่ได้
แล้วเป็นคนไม่ดีอย่างที่เค้าว่าไว้ ไม่พิสูจน์ตัวเองก็แสดงว่าเป็นคนไม่ดีจริง ๆ
มัวแต่วุ่นวาย หาทุกวิถีทางเพื่อการเอาชนะ
ทำไมคนรวยถึงไม่รู้จักยอมแพ้ส่ะบ้าง
หากผิดก็ยอมรับผิด หากไม่ผิด ศักดิ์ศรีมันกินไม่ได้
ทำไมคนรวยต้องแบกให้หนัก
ที่เม้นตั้งยาว คุณทักษิณก็ไม่ได้ยิน
มีแต่อาจารย์ปริญญาที่มานั่งอ่าน
เหมือนกับที่อาจารย์ปริญญาเขียนบันทึกแล้วชอบมีคำว่า ปล.ผมรับเงินหน้าเหลี่ยมครับ
คนอื่นอาจจะเอาคุณทักษิณมาเล่นกับจิตใจของคนได้
แต่ทำไมคุณทักษิณกำลังเล่นอะไรอยู่
เรื่องของประเทศชาติ ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ
เหมือนกับเรื่องผมรับเงินหน้าเหลี่ยมครับ
มันก็ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ
ก็แล้วทำไมอาจารย์ปริญญา โดนว่าแล้วยังมาเขียนบันทึกอยู่ได้
ส่วนคุณทักษิณโดนว่า แต่กลับมาไม่ได้
เมื่อคุณทักษิณกลับมาไม่ได้ และไม่ผิด ก็จะอยู่เฉย ๆ ค่ะ
แต่เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น คุณทักษิณไม่อยู่เฉย ๆ
วันก่อนเสื้อเหลืองเคลื่อนไหว อาจารย์ก็เขียนบันทึก
เสื้อแดงเคลื่อนไหว อาจารย์ก็เขียนบันทึก
เอาไว้คุณทักษิณกลับมา อาจารย์ก็ต้องมาเขียนบันทึกอีก
แล้วกอก็เม้นอีก เพื่ออะไร
ก็เพราะเพื่อตัวเอง อยู่ได้อย่างไรเมื่อคนไทยฆ่ากันเอง
แบบนี้ต้องไปดูดงน้องแจ๋วก่อน
ขอบคุณครับที่ตอบยาวมาก :-) แต่ไม่รู้ว่าจะตอบไรดี ขอตอบคำถามที่ว่า "ทำไมผมมาเขียนบันทึกแม้จะถูกด่า" แล้วกัน
ผมเองก็ไม่รู้ว่าทักษิณคิดจะทำอะไรหรอกนะครับ จริงๆแล้วคือผมไม่แคร์มากกว่า สิ่งที่ผมสนใจมากกว่านั้นคือความขัดแย้งของคนไทยในปัจจุบัน ที่จริงๆแล้วไม่ได้เกิดจากทักษิณเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากความรู้สึกแบ่งแยกชนชั้นทีี่่่ฝัังรากลึกอยู่ในสังคมของเราด้วย คนที่เกลียดทักษิณจนหน้ามืด มักจะมองข้ามปัญหานี้ไป (หรืออาจจะไม่แคร์เพราะตัวเองเป็นชนชั้นกลางอยู่แล้ว ไม่เดือดร้อน)
Series เกี่ยวกับ เหตุผลวิบัติ ที่ผมกับเพื่อนเขียนอยู่นี้ ส่วนหนึ่งผมตั้งใจจะให้เตือนสติคนที่กำลังถูกความเกลียด เข้าครอบงำจนฟังอะไรก็เชื่อไปหมด หากสิ่งที่ฟังมามันตรงกับความเชื่อตน (ไม่ว่าเกลียดทักษิณหรือเกลียดพันธมิตร เกลียดใครก็ตาม) ให้คิดก่อนเชื่อสิ่งที่ออกมา
สิ่งที่ผมเขียนอ่านแล้วอาจจะไม่สะใจวัยรุ่น ไม่เหมือนพวกนักวิชาการอินเทรนที่เขียนด่าทักษิณ ออกทีวีด่าทักษิณ เพื่อเอนเตอร์เทนคนดูซ้ำแล้วซ้ำอีก (ผมเิลิกด่าทักษิณเขาไปตั้งแต่สองปีที่แล้ว) กำลังงงอยู่เหมือนกันว่านักวิชาการที่ผมนับถือ คนที่คิดจะพูดอย่างอื่น (นอกจากการด่าทักษิณ) ทำไมจึงไม่เคยได้ออกทีวีบ่อยนัก สงสัยมันฟังแล้วไม่เอนเตอร์เทนคนฟังนัก
ผมอยากจะบอกว่า ผมไม่ได้อยากจะด่าใคร แล้วก็ไม่ได้อยากจะเอนเตอร์เทนใครเป็นพิเศษด้วยครับ
เล่นกับจิตใจคนเนี่ยผมว่าเป็นเรื่องถนัดของผู้มีอำนาจหลายๆคนในเมืองไทยนะครับ และเป็นเครื่องมือชิ้นเยี่ยมเชียวแหละในการใช้ทำอะไรซักอย่างเพื่อเอื้อประโยชน์บางอย่าง มันเริ่มจากการถูกฝังหัวในเรื่องหนึ่งให้เห็นว่าสำคัญมากๆ แล้วก็จะสร้างสถานการณ์เล่นกับจิตใจคนให้คนไทยได้ตกหลุมพรางนั้นๆ ตัวอย่างง่ายๆก็คุณกอเนี่ยแหละ(อย่าว่ากันนะครับ)ผมอ่านหัวข้อของคุณปริญญาแล้วมาอ่านของคุณกอที่โต้ตอบ รู้สึกในใจว่า คุณกอจะเบี่ยงประเด็นทันที จากนั้นก็จะโต้ตอบด้วยสิ่งที่ฝังจิตฝังใจในหัวเพราะถูกสิ่งที่เขาเล่นกับจิตใจมาเรียบร้อยแล้ว(บ้านผมเรียกถูกล้างสมอง)อย่าโกรธนะครับ แต่งอนได้
กอกลับมาอ่านค่ะอาจารย์
งง มาก เพราะวันนั้นเน็ตหลุด
คิดว่าเม้นไปตั้งยาว ตกลงไม่ได้ส่งเพราะเน็ตหลุดส่ะก่อน
แต่พอวันนี้มาดู อ้าว เม้นที่ 6 ติดอยู่ในบันทึกนี้แล้ว
แต่ที่งงมากกว่า
คุณต้อยติ่งเป็นใครเนี๊ยะ
มาว่ากอทำไม
กอไม่ได้โดนล้างสมอง
แต่สมองกอกลวงค่ะ ไม่ต้องล้างหรอก
คนโง่มักจะมีลักษณะแบบกอแบบนี้เลยค่ะ
คนที่ถูกล้างสมองได้ต้องเป็นคนมีอะไรในสมอง
สมองกอพี่แต่ขี้เลื่อย หุหุ
โอ้โห เซ็งชะมัด ไปทำงานดีกว่า
ขอโทษทีครับหากทำให้เข้าใจผิด กลัวว่าจะเคืองกันไปปล่าวๆปลี้ๆ อันที่จริงการล้างสมองก็ไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดีนะครับ หากเราทำเพื่อลบสิ่งที่เราคิดผิดๆเพื่อเข้าใจสิ่งใหม่ที่ถูกต้อง