โครงการใสสะอาด พอเพียงเพื่อพ่อ สู่สถานศึกษาและชุมชน


เศรษฐกิจพอเพียง “เศรษฐกิจพอเพียง เป็นเสมือนรากฐานของชีวิต รากฐานความมั่นคงของแผ่นดิน เปรียบเสมือนเสาเข็มที่ถูกตอกรองรับบ้านเรือนตัวอาคารไว้นั่นเอง สิ่งก่อสร้างจะมั่นคงได้ก็อยู่ที่เสาเข็ม แต่คนส่วนมากมองไม่เห็นเสาเข็ม และลืมเสาเข็มเสียด้วยซ้ำ”

ทีมงาม  โครงการใสสะอาด พอเพียง เพื่อพ่อ สู่สถานศึกษาและชุมชน  ได้ริเริ่มการสร้างขบวนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียง  เพื่อสานต่อความคิดและเชื่อมโยงการขยายผลที่เกิดจากการนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้อย่างหลากหลายรวมทั้งเพื่อจุดประกายให้เกิดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง ซึ่งจะนำไปสู่การยอมรับ และการนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดผลในทางปฏิบัติในครอบครัว สถานศึกษา หน่วยงานราชการ และทุกภาคส่วนของสังคมอย่างจริงจัง

จากสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน  ทำให้คนไทยได้ตระหนักและให้ความสำคัญต่อการพัฒนาตนเองและครอบครัวตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมากยิ่งขึ้น  ทีมงาม โครงการใสสะอาด พอเพียง เพื่อพ่อ สู่สถานศึกษาและชุมชน  จึงได้เข้าพบผู้ทรงคุณวุฒิจากสาขาต่าง ๆ  ร่วมกันวิเคราะห์เพื่อหาแนวทางสร้างสรรค์ ในการน้อมนำพระราชดำรัสและปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และได้อัญเชิญมาเป็นปรัชญานำทางในการจัดทำแผนเพื่อพัฒนาชีวิตและสังคม สู่สถานศึกษาและหน่วยงานราชการตลอดจนทุกภาคส่วนของสังคม

เป้าหมายหลักของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียง คือ การมุ่งเน้นที่จะพัฒนาความคิดและจิตสำนึกของเด็ก และเยาวชนตลอดจนการสร้างกระแสสังคมให้มีแนวความคิดเพื่อนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้เป็นกรอบความคิดหรือส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตของคนไทยทุกคน ผ่านการสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับหลักเศรษฐกิจพอเพียงให้ประชาชนทุกคนสามารถนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ไปประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม และปลูกฝังปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ในการดำรงชีวิตให้อยู่บนพื้นฐานของเศรษฐกิจพอเพียง ตลอดจนนำไปสู่การปรับแนวทางการพัฒนา ให้อยู่บนพื้นฐานของเศรษฐกิจพอเพียงโดยมีขอบเขตการดำเนินงาน ๔ ด้านควบคู่กันไปกัน คือ เชื่อมโยงเครือข่ายสถานศึกษาพัฒนาความคิดและจิตใจ สร้างความเชื่อมั่นและกระบวนการ การเรียนรู้เผยแพร่ประชาสัมพันธ์
  

     จุดเริ่มต้น

     ตลอดเวลากว่าครึ่งศตวรรษ นับตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นเถลิงราชสมบัติบรมราชาภิเษก ภายใต้นพปฏลมหาเศวตฉัตร ซึ่งได้พระราชทานพระปฐมราชโองการ

เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม

พระองค์ได้ทรงทุ่มเทพระวรกายและพระสติปัญญาร่วมทุกข์ร่วมสุขกับพสกนิกรของพระองค์และบำเพ็ญพระราชกรณียกิจในด้านต่างๆทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม ทรัพยากร และสิ่งแวดล้อม โดยคำนึงถึงประโยชน์สุข ของพสกนิกรเป็นที่ตั้งโดยใช้หลักคุณธรรมและความรู้ความเข้าใจในทางหลักวิชาความชำนาญและประสบการณ์เกี่ยวกับวัฒนธรรม ภูมิปัญญาและเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับภูมิสังคมของแต่ละพื้นที่ เป็นแนวปฏิบัติในการพัฒนา

จากพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสของพระองค์นับตั้งแต่ปี ๒๕๑๗ เป็นต้นมา พระองค์ท่านได้ทรงเน้นย้ำแนวทางการพัฒนา บนหลักแนวคิดพึ่งตนเองเพื่อให้เกิดความพออยู่ พอกิน พอมี พอใช้ ของคนส่วนใหญ่ โดยใช้หลักความพอประมาณ การคำนึงถึงความมีเหตุ มีผล การสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว และทรงเตือนสติประชาชนคนไทยไม่ให้ประมาท ตระหนักถึงการพัฒนาอย่างเป็นขั้นเป็นตอนที่ถูกต้องตามหลักวิชา และการมีคุณธรรมเป็นกรอบในการปฏิบัติและการดำรงชีวิต ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นที่รู้จักกันดีภายใต้ชื่อว่า เศรษฐกิจพอเพียง

วิกฤตเศรษฐกิจ ที่ผ่านมาเป็นบทเรียนของการพัฒนาที่ไม่สมดุลและไม่มีเสถียรภาพ ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนในวงกว้าง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคม ที่ไม่คำนึงถึงระดับความเหมาะสมกับศักยภาพขององค์กร ภูมิสังคมของประเทศ หรือความพร้อมของคนและระบบการขาดการพัฒนาทางด้านความคิด จิตใจ ความรับผิดชอบต่อประเทศชาติ สังคม ชุมชน ครอบครัวและตนเอง นอกจากนี้แล้ว การหวังพึ่งพิงความรู้เงินลงทุนหรือตลาดจากภายนอกประเทศมากเกินไป โดยไม่เตรียมสร้างพื้นฐานภายในประเทศให้มั่นคงและเข้มแข็งหรือสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีเพื่อให้สามารถพร้อมรับความเสี่ยงจากความผันผวนของปัจจัยภายในและภายนอก

ในขณะเดียวกันปัญหาซึ่งทับถมมาอย่างต่อเนื่องเช่น การคอรัปชั่นทั้งส่วนราชการและการเมืองจนกลายเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างทางเศรษฐกิจและสังคมได้ก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำในการกระจายทุน กระจายความเจริญ และกระจายรายได้ระหว่างกลุ่มคนและในเชิงพื้นที่ เกิดปัญหาทางสังคมความย่อหย่อนทางศีลธรรม ความเสื่อมสลายของวัฒนธรรมที่ดีของสังคมไทย ตลอดจนความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

บทเรียนจากการพัฒนาดังกล่าวข้างต้น ได้ทำให้ประชาชนชาวไทยทุกระดับ ตลอดจนถึงสถานศึกษา และในทุกภาคส่วนของสังคม ทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาชนสังคม นักวิชาการย้อนกลับมาพิจารณาและทบทวนแนวทางการดำเนินชีวิต และการพัฒนาในช่วงที่ผ่านมา แล้วหันมาให้ความสำคัญกับการพัฒนาและดำเนินชีวิตตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงในพระราชดำริของพระองค์ท่านจนเกิดกลุ่มนักคิด และนักปฏิบัติจากหลายหน่วยงานและหลายสาขาอาชีพ ในระดับรากหญ้าและส่วนกลาง ที่หันมาให้ความสนใจศึกษาค้นคว้า พัฒนาความรู้ความเข้าใจพัฒนาความคิดและจิตใจเกี่ยวกับแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ทั้งในเชิงกรอบแนวคิดทางทฤษฏี และใช้เป็นแนวทางประกอบการนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันอย่างจริงจังมากยิ่งขึ้น

ทีมงาน โครงการใสสะอาด พอเพียง เพื่อพ่อ สู่สถานศึกษาและชุมชน ในฐานะหน่วยงานปากกกระบอกเสียงภาคเอกชน ได้ตระหนักถึงความสำคัญของพระราชดำริดังกล่าว จึงได้เข้าพบผู้ทรงคุณวุฒิจากสาขาต่างๆ ร่วมกันพิจารณากลั่นกรองพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้พระราชทานในโอกาสต่างๆ ที่เกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ได้อัญเชิญมาเป็นปรัชญานำทางในการจัดทำแผนพัฒนาเพื่อชีวิตและสังคม เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนทุกระดับรวมถึงสถานศึกษา และหน่วยราชการทุกภาคส่วนของสังคม มีความเข้าใจในหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอันจะนำไปสู่การพัฒนาความคิดและจิตใจและสามารถดำรงชีวิต อย่างร่มเย็นเป็นสุขสังคมมีความเข้มแข็งและประเทศชาติมั่นคงในที่สุด

เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาที่เป็นทั้งแนวคิดหลักการและแนวทางปฏิบัติตนของแต่ละบุคคล และองค์กร โดยคำนึงถึงความพอประมาณกับศักยภาพของสังคมและสภาวะสิ่งแวดล้อม ความมีเหตุมีผลและการมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัวเองโดยใช้ความรู้อย่างถูกหลักวิชาการ ด้วยความรอบคอบอย่างระมัดระวัง ควบคู่ไปกับการมีคุณธรรม ไม่เบียดเบียนกัน แบ่งปัน ช่วยเหลือ เสริมสร้างสายใยเชื่อมโยงคนในภาคส่วนต่างๆ ของสังคมเข้าด้วยกัน สร้างสรรค์พลังในทางบวก นำไปสู่ความสามัคคี การพัฒนาที่สมดุลและยั่งยืนพร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลงภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์ได้

ตัวอย่างภาคปฏิบัติที่รู้จักกันแพร่หลายตัวอย่างหนึ่งของหลักเศรษฐกิจพอเพียง ได้แก่ ทฤษฏีใหม่ ที่ส่วนต่างๆ ของภาครัฐที่เกี่ยวข้องได้ส่งเสริม การพัฒนาอย่างเป็นขั้นตอน โดยเริ่มต้นจากการสร้างความมั่นคงในระดับครัวเรือน ให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ในระดับหนึ่งก่อนแล้วก้าวเข้าสู่การรวมตัวกันทำกิจกรรมต่างๆ ในรูปกลุ่ม ชุมชน หรือกลุ่มธุรกิจต่อเนื่อง เพื่อร่วมมือกันสร้างสรรค์ และป้องกันแรงกระแทก ทางลบจากภายนอก สร้างความเข้มแข็งของชุมชน และท้ายสุดเป็นการสร้างความเชื่อมโยงกับธุรกิจขนาดใหญ่ ภาครัฐ หรือองค์กรต่างๆ นอกกลุ่ม เพื่อขยายขอบเขตความร่วมมือในรูปแบบต่างๆไปสู่ระดับประเทศ

อย่างไรก็ดี ปัจจุบันแม้ว่าประชาชนทั่วไปจะรู้จักและมีผลงานเกี่ยวกับแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ตลอดจนมีการนำไปประยุกต์ใช้ในรูปแบบต่างๆ บ้างแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีความหลากหลายในการตีความ เนื่องจากอาจจะยังไม่มีความเข้าใจที่ถูกต้องและชัดเจน และไม่มีตัวอย่างให้เห็นเป็นรูปธรรมมากนัก ทำให้ไม่มีการนำไปประยุกต์ใช้อย่างแพร่หลายเท่าที่ควรนอกจากนี้แล้วการดำเนินชีวิตหรือกิจกรรมต่างๆ อย่างไม่พอเพียงบนพื้นฐานของความประมาทในภาคส่วนต่างๆ ของสังคม อาจก่อให้เกิดปัญหาที่สะสม และสามารถนำไปสู่วิกฤตทางเศรษฐกิจและสังคมดังที่เกิดขึ้นแล้วในอดีตได้

ดังนั้นทีมงาน โครงการใสสะอาด พอเพียง เพื่อพ่อ สู่สถานศึกษาและชุมชน  จึงเล็งเห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องริเริ่มการสร้าง ขบวนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียง แม้จะเป็นการเริ่มต้นจากจุดเล็กๆ คือสถาบันการศึกษา แต่เพื่อสานต่อความคิดและเชื่อมโยงการขยายผลที่เกิดจากการนำหลักปรัชญาฯ ไปใช้อย่างหลากหลายในปัจจุบัน รวมทั้งจุดประกายให้เกิดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องซึ่งจะนำไปสู่การยอมรับ และการตระหนักถึงประโยชน์จากการนำเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ ให้เกิดผลในทางปฏิบัติในทุกระดับและทุกภาคส่วนอย่างจริงจัง การขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียงนี้จะเป็นการเสริมพลังให้ประเทศไทยสามารถพัฒนาไปได้อย่างมั่นคงยั่งยืน และมีศักดิ์ศรีในเวทีโลก ภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์เพราะแนวคิดของเศรษฐกิจพอเพียงสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศที่เน้นการพัฒนาที่ให้ความสำคัญกับการสร้างฐานรากทางเศรษฐกิจและสังคมให้เข้มแข็ง รักษาความสมดุลของทุนและทรัพยากรในมิติต่างๆในขณะที่ส่งเสริมให้มีเสถียรภาพในระดับระหว่างประเทศ สามารถปรับตัวเลือกรับสิ่งที่เป็นประโยชน์และพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรู้เท่าทัน และนำไปสู่ความอยู่เย็นเป็นสุขของประชาชนชาวไทยในที่สุด

 

หมายเลขบันทึก: 256247เขียนเมื่อ 19 เมษายน 2009 15:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 8 มิถุนายน 2012 19:14 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท