...เช้าวันนี้เพื่อนครูโทรศัพท์มาแต่เช้า...บ่นเสียงอิดออดว่าแผนการจ้ดการเรียนรู้เสร็จหรือยัง...เราก็ตอบไปว่า...ยัง...ด้วยน้ำเสียงชัดแจ๋ววววว.... เพื่อนที่โรงเรียนบางคนยังบอกว่าไม่เข้าใจเลย ทำไงดี....ก็เลยคิดว่า สิ่งที่เราทำอยู่ตามสไตล์ของเราเนี่ยมันพอใช้ได้มั๊ย...และอยากแลกเปลี่ยนเรียนรู้กอร์ปกับคำชี้แนะจากผู้รู้ทุกท่านด้วยนะคะ
ก็เลยหาทางคิด...คิด....คิด...ว่าจะช่วยเพื่อนให้เข้าใจ Backward Design ได้ง่ายๆอย่างไร นึกถึงที่เข้าไปอบรม พัฒนาต่อยอดกระบวนการเรียนรู้กับ สมศ. ครั้งโน้น นานแล้ว ขออนุญาตนำความรู้ที่ได้รับจากการอบรมและจากการศึกษามาด้วยตนเองมาสรุปเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันดังนี้ค่ะ การออกแบบการเรียนรู้แบบย้อนกลับ เป็นเรื่องที่ครูต้องคิดแล้วทำว่า ทำอย่างไรให้เด็กเกิดการเรียนรู้ที่ยั่งยืน มีชิ้นงานอะไรเพื่อยืนยันหรือแสดงว่าเด็กเกิดการเรียนรู้และรู้ได้อย่างไรว่าชิ้นงานมีคุณภาพ เราจึงออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
เมื่อก่อนก็กลัวกับคำว่าออกแบบการเรียนรู้แบบย้อนกลับ หรือ Backward Design ฟังดูเหมือนยากมากๆเลยนะ แต่เราก็ไม่ท้อแท้ สิ่งใดที่เราไม่รู้เรามักจะปรึกษาผู้รู้ เช่นท่านศึกษานิเทศก์ เพื่อนครูที่เชี่ยวชาญด้านการสอน เพราะทุกอย่างไม่ยากเกินสำหรับเราหากเราให้ความสนใจและพยายามจะเข้าใจในสิ่งที่ไม่รู้ เพราะจุดใหญ่ๆคือ ทำอย่างไรให้เด็กตาดำๆที่อยู่ในความดูแลของเราเกิดการเรียนรู้ที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นหัวใจสำหรับผู้ที่จะนำไปปฏิบัติ หลายๆคนคงจะเข้ารับการอบรม หลายครั้งหลายครา เมื่อกลับมาก็ได้แต่จับปากกาจดๆจ้องๆ ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร เรามาหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียวที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ง่ายๆสำหรับความรู้ที่จะแลกเปลี่ยนในครั้งนี้ตามสไตล์ครูบ้านนอกผู้ด้อยความรู้ความสามารถเพราะต้องเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา และคิดอยู่เสมอว่า การแลกเปลี่ยนเรียนรู้สร้างรอยยิ้มได้เสมอ แนวปฏิบัติของเราที่ทำได้จริงๆ ก็คือ (1) ครูต้องคิดชิ้นงานหรือภาระงานของเด็ก ว่าในหน่วยที่จะสอน มีชิ้นงานอะไรบ้างก็จดๆไว้ (2) เลือกดูความเหมาะสมและความเป็นไปได้ที่จะใช้สอนคำนึงถึงเวลาในหน่วยนั้นๆว่า น่าจะมีสักกี่ชิ้นงานดีนะ แล้วเราต้องทำได้ด้วย (3) เสร็จแล้วเพื่อความมั่นใจว่าชิ้นงานของเด็กจะมีคุณภาพหรือไม่ ต้องออกแบบเครื่องมือในการวัดผลประเมินผลคุณภาพของชิ้นงาน ตรงนี้ยากหน่อยค่ะ เพราะต้องนึกคุณภาพของชิ้นงานตามลำดับ (4) เมื่อวางแผนได้แล้ว ก็คิดกิจกรรมการเรียนการสอนว่า จะจัดกิจกรรมอย่างไรดีให้เด็กมีชิ้นงานที่ได้ออกแบบไว้ตั้งแต่แรกโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
....จากนั้นก็ลงมือเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบที่อบรมมา แต่ตัวบิ๊คบุ๊คเองจะเพิ่มเติมนิดหน่อยตรงกิจกรรมต่อเนื่อง เพราะเวลาของการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามที่เรากำหนดไว้ในแต่ละหน่วยมักจะไม่พอ ต้องใช้เวลานอกเวลาเรียน เช่น ชั่วโมงซ่อมเสริม หลังเลิกเรียนบ้างเป็นต้น อยากให้เด็กเกิดการเรียนรู้ที่มีคุณค่า เกิดการพัฒนาอย่างรอบด้านทั้ง KAP อยากเห็นเด็กๆมีชิ้นงานหรือผลงานของตัวเองอย่าหลากหลาย และบรรลุตามเป้าหมายหรือจุดประสงค์ที่ตั้งไว้จริงๆ ขออวยพรให้คุณครูมีพลังในการพัฒนาเด็กไทย ให้ก้าวไกล ตามแบบที่สังคมต้องการ..ยิ้มไว้นะคะ..และหวังว่าการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในครั้งนี้คงสร้างรอยยิ้มให้กับคุณครูหลายๆท่านได้บ้าง....และยินดีที่จะรับฟังข้อเสนอแนะเพิ่มเติม เพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปในทิศทางเดียวกัน...
ชยพร แอคะรัจน์
หากใจร้อน อ่านได้ที่ แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ Backward Design
หากใจเย็น รอก่อน กำลังเขียนค่ะ คนสวย
ชยพร แอคะรัจน์
สวัสดีค่ะ ครูอ้อยคนสวยที่สุด
ขอบคุณสำหรับกัลยาณมิตรค่ะ
ครูอ้อยน่ารักเสมอสำหรับมิตรใหม่
สวัสดีค่ะ อ.ชยพร
ขอบพระคุณอาจารย์มากเลยนะคะสำหรับคำชี้แนะ
จะพยายามพัฒนาตนเอง
เพื่อสร้างสรรค์การศึกษาไทยค่ะ
มาชม
เข้ามาอ่าน
ทักทาย แบบสบาย ๆ
คุณบิ๊กบุ้คครับ
backward design เป็นการวางแผนการสอนในเชิง "รูปธรรม"ครับ ว่าต้องการให้ "ผล" ออกมาอย่างไร โดยจะต้อง จะจัดกิจกรรมให้ผลออกมาตามที่คาดการณ์ไว้
ข้อดี คือ เป็นการจัดการเรียนการสอนที่มีเป้าหมายแน่นอนชัดเจนเป็นรูปธรรม ทั้งเด็กและครู มองภาพเดียวกัน ว่าจะให้ออกมาอย่างไร โดยไม่หลงทาง หรือ ออกนอกประเด็น
ข้อสำคัญ คือ ผลที่ต้องการ หรือ งานเด็กที่ต้องการที่กำหนดไว้ มีความเหมาะสมสอดคล้องกับความรู้ความสามารถของผู้เรียนหรือไม่ และ กิจกรรม สอดคล้องกับ ผล ที่กำหนดไว้หรือไม่
หัวใจอยู่ที่ต้อง design ออกมา ให้สอดคล้องกับผู้เรียนเป็นสำคัญ
ที่คุณบิ๊กบุ้คเขียนมาก็โอเคครับ
สวัสดีค่ะท่านรองฯnatadee
ต้องกราบขอบพระคุณในความอนุเคราะห์ค่ะ
ตอนนี้มีท่านรองฯที่บิ๊คบุ๊ครู้จักย้ายไปอยู่กับท่านด้วย
ถ้าไม่ติดธุระวันหน้าคงได้มาเที่ยวที่ตราดค่ะท่าน
สวัสดีค่ะอาจารย์อุทัย
ขอบคุณค่ะที่แวะเข้ามาทักทายกัน
ยินดีที่รู้จักค่ะ
อาจารย์ครับ
อาจารย์เขียนเล่าตามหลักการ ถูกต้องครับ ช่วยบอกครูด้วยว่าอย่าวิตกกังวล อย่าทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก ทุกอย่างของ B คุณครูเคยปฏิบัติมาแล้วอย่างโชกโชน เพียงแต่ในประสบการณ์เดิมของเรา มันเริ่มต้นไม่เหมือนกันเท่านั้นเอง อาจมีข้อสังเกต สำหรับอาจารย์บางท่านที่คิด คำนึงถึงแต่ชิ้นงานที่เป็นรูปธรรมเพียงอย่างเดียว จึงลืมภาระงานที่เป็นนามธรรม เช่นในเรื่องของคุณลักษณะที่ต้องการเน้น คุณธรรมจริยธรรม ที่สอดคล้องกับเนื้อหาและกิจกรรม ก็ต้องกำหนดให้สอดคล้องตามเป้าหมาย จงบอกครูว่า อย่ามุ่งผล เพียงแต่..วัตถุธรรมเพียงอย่างเดียว ไม่เช่นนั้นแผนการสอนของเราจะไม่สมบูรณ์และสอดคล้องตามเป้าหมายที่เราตั้งไว้ ......
เข้ามาสนทนาด้วยนะครับ อย่าลืมว่า... B เป็นวิธีการออกแบบการเรียนรู้วิธีหนึ่งเท่านั้น คุณครูที่เก่งๆ อาจมีอีกหลายวิธีที่ดีๆ ก็อย่าทิ้งเสียละ
อาจารย์เก
สวัสดีค่ะอาจารย์เก
ขอบพระคุณค่ะที่ให้คำแนะนำหากมีอะไรเพิ่มเติมก็กระซิบบอกกันบ้างนะคะ