ถึงเหน็ดเหนื่อย แค่ไหน
หากจะรับเป็น อาจารย์ที่ปรึกษา IS
คง "ต้องอ่านอย่างละเอียด เพราะ จะได้เรียนรู้ อีกมากมาย" ครับ
ผมคิดว่า การนำข้อเสนองานวิจัยของอาจารย์แต่ละท่านมา อภิปรายข้อบกพร่อง กันในห้องเรียน โดยอาจารย์ท่านอื่นและนิสิต ถือว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและเปราะบางมากครับ
การเขียน proposal เพื่อให้ได้ทุนนั้น ประสบการณ์มีส่วนสำคัญมาก ตัวอย่างเช่น แสดงให้เห็นถึงประเด็นสำคัญ นัยสำคัญของโครงการ เป็นต้น
ส่วนการแก้ไขจากทางบัณฑิตวิทยาลัย ผมว่า ส่วนใหญ่คงเป็นเรื่องของ format รูปเล่ม มากกว่าแก้ไขที่ตัวเนื้อหาของงานวิจัยนะครับ
แต่โดยส่วนตัว ผมชอบครับที่มีการเรียนรู้แบบ learning by sharing
ผมเพิ่งอ่านบันทึก "มุมแห่งความประทับใจต่อ รศ.ดร.ไพฑูรย์ สุขศรีงาม"
ท่านเป็นแบบอย่างที่ดีเยี่ยม ที่ทุ่มเทและเอาใจใส่ต่องานวิทยานิพนธ์ของว่าที่ มหาบัณฑิต ของ มมส ถือเป็นโชคดีของนิสิต มมส จริงๆ ครับ
ถ้าลูกศิษย์ผมอยากทำหัวเรื่องแปลก ๆ ที่ผมไม่ถนัดผมก็บื้อเหมือนกันแหละ แต่ก็จะพยายาม
สู้ตายกั๊บ !