ผู้เขียนเป็นอาสาสมัครเอเอฟเอสที่ถูกต้องตามระบบมาตั้งแต่ปี 2538 เริ่มจากงาน Hosting ก่อน โดยรับเป็นครูที่ปรึกษาให้กับนักเรียนชาวต่างชาติ นักเรียนคนแรกคือคุณ Andrea จากประเทศGermany ได้กลับมาเยี่ยมเยียนน่าจะเป็นครั้งที่ 6 แล้ว คุณ Liebi จากประเทศ Belgium กลับมา 3 ครั้งพาคุณพ่อ-คุณแม่และน้องสาวมาด้วย 2 ครั้ง คุณ Chrisitne จากประเทศ Belgium กลับมา2 ครั้ง พาน้องสาวมาด้วย 1 ครั้งนอกนั้นยังไม่ได้มา และเริ่มช่วยงานด้าน Sending ตั้งแต่ปี 2539เรื่องการจัดสอบคัดเลือกนักเรียนไปแลกเปลี่ยนฯ และรับงานวิทยากรค่ายเตรียมความพร้อมโครงการเยาวชนเอเอฟเอสเพื่อการศึกษาแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมนานาชาติ ตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา หลังจากการเข้าร่วมโครงการเอเอฟเอสแลกเปลี่ยนวิชาชีพครูฝึกงานในโรงเรียน ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันก็ดำเนินงานอาสาสมัครเอเอฟเอสครบวงจร มีความรู้สึกรักและผูกพันกับเอเอฟเอสลึกซึ้งถึงขั้นเข้าสายเลือดทีเดียว
หากจะถามว่าการเป็นอาสาสมัครเอเอฟเอสได้รับประโยชน์อะไรบ้าง คำตอบค่อนข้างจะเป็นนามธรรมมากกว่ารูปธรรม ด้วยความที่ไม่เคยให้ความสำคัญในด้านผลประโยชน์มาอยู่เหนือความพึงพอใจ จึงไม่เคยคิดไล่เลียงสิ่งที่พึงได้ออกมาเป็นข้อๆ รู้แต่ว่ามันเป็นประสบการณ์ที่ให้ความรู้สึกดีๆ อิ่มเอมใจที่มีส่วนได้ทำประโยชน์ให้กับส่วนรวม หากคุณรักใครสักคนคุณย่อมทุ่มเทและเสียสละ ความรักของอาสาสมัครเป็นความรักที่สามารถมอบให้กับเพื่อนร่วมโลก ต่างชาติ ต่างภาษา ต่างวัฒนธรรมได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด หากรักที่จะเป็นอาสาสมัครย่อมไม่หวังผลตอบแทน ….แต่มีสิ่งที่ได้มาโดยไม่รู้ตัวคือความอดทน ความอดกลั้น ความเสียสละ ความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น การรู้จักปรับตัว การยอมรับความจริงด้วยเหตุด้วยผล การรู้จักให้อภัย และยินดีกับความสำเร็จของผู้อื่น ขอขอบคุณเอเอฟเอสประเทศไทยที่ช่วยให้เราดำรงชีพอยู่ในสังคมได้อย่างสงบสุขและให้คุณค่าต่อความรู้สึกดีๆ เสมอมา
ทุกครั้งที่พบพอลลี่ รู้สึกชื่นชมตลอดว่าทำงานด้วยใจจริงๆ ขอชมเชยนะจ๊ะ ให้สวยวันสวยคืน แล้วพบกันอีกเมื่อ AFS Reunion จ้า
หากรักที่จะเป็นอาสาสมัครย่อมไม่หวังผลตอบแทน
เพราะอาสาเข้ามาใช่ผลประโยชน์
เพราะปราโมทย์ยินดีที่อาสา
เพราะมีสุขที่อาสาตลอดมา
เพราะอาสาเป็นหน้าที่ ใจสั่งมา
***... ขอบคุณ " คุณ Primtim
" มากนะคะ
รู้สึกยินดีและดีใจมากเมื่อมีโอกาสได้พบกัน
แม้จะเป็นเพียงปีละครั้งก็ตาม สุขใจทุกครั้งที่ได้ทำงานอาสาฯ
น่ะค่ะ ! ... ***