มีภาระต้องนำแบตเตอรี่โทรศัพท์ไปเปลี่ยนที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งแถวสุขุมวิท เนื่องจากผู้ขายหยิบรุ่นผิดให้เมื่อสัปดาห์ก่อน ต้องขอบคุณตนเองที่ไม่ทิ้งใบเสร็จรับเงินไม่งั้นคงเปลี่ยนไม่ได้ พูดถึงเรื่องการเก็บใบเสร็จไว้มีธรรมเนียมปฏิบัติของชาวอเมริกันแถบมลรัฐ Maine ที่ทำให้ทึ่งจนนาทีนี้ สมมุติคุณซื้อเป้สะพายหลังราคา 100 ดอลล่าห์ เวลาผ่านไป 1 เดือน ทางร้านลดราคาเหลือ 80 ดอลล่าห์ คุณสามารถนำใบเสร็จรับเงินไปแสดงว่าคุณซื้อราคา 100 ดอลล่าห์และขอรับเงินคืนได้ 20ดอลล่าห์ หากเวลาผ่านไปอีก 2 สัปดาห์เขาลดราคาไปอีก 20 ดอลล่าห์ คุณก็สามารถขอเงินคืนได้อีก แปลกดีแท้…..กำไรมันคงตั้งไว้แบบ Over มากเหลือเกิน ยิ่งหากเป็นยี่ห้อ L.L.Bean เขารับประกันตลอดชีวิตการใช้งานทีเดียว มีชาวอเมริกันคนหนึ่งซื้อรองเท้าไปใช้ เป็นเวลา 15 ปีนำมาเปลี่ยนเป็นคู่ใหม่ได้อีกด้วย ของไทยเรา….บางร้านแค่คุณรับใบเสร็จปุ๊ปเขาก็ไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น
ขณะที่กำลังจะหันหลังกลับเหลือบไปเห็นข้อความโฆษณา จริงๆมันก็เขียนแปะติดไว้แบบเตะตาไว้ทั้งห้างทั้งป้ายเล็กป้ายใหญ่ ว่า ช้อป….เพื่อชาติ ลดราคา 20-50% อะไรกัน การช้อปนี่ช่วยชาติได้จริงหรือ หากคุณจ่ายด้วยบัตรเครดิตมีโปรโมชั่นลดลงไปอีก เช่น บัตรเครดิตของธนาคารนี้ลดอีก 10 % ธนาคารนั้น 15 % ฯลฯ นึกไปถึงเหตุการณ์ที่รัฐบาลนำเงินไปแจกให้กับผู้รับบำนาญและผู้ที่ทำประกันสังคมที่มีรายได้ไม่ถึง 15,000 บาท เพื่อให้มีการใช้จ่ายเงินหมุนเวียนในประเทศเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นนโยบายที่ทางรัฐบาลพยายามแก้ปัญหาเรื่องวิกฤตเศรษฐกิจของไทย แต่กลับเป็นช่องทางทำมาหากินของกลุ่มนายทุน ชาย- หญิง ที่ปล่อยเงินกู้ให้กับผู้มีสิทธิ์ได้รับเช็คช่วยชาติ 2,000 บาท โดยปล่อยกู้ไปรายละ 1,800 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 20 บาท ซึ่งมีการกู้จ่ายเงินกันไปแล้วก่อนหน้านี้ โดยมานั่งรอเก็บเงินกู้ พร้อมดอกเบี้ยกับผู้ที่มารับเช็ค และเบิกเงินกับเจ้าหน้าที่ธนาคาร ที่มาตั้งโต๊ะให้บริการรับแลกเงินสด ตามสถานที่ต่างๆ ที่หน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานกำหนดไว้ เฮ้ออออออ….ประเทศไทย
อ่านโฆษณาชวนเชื่ออีกครั้ง …. ช้อป….เพื่อชาติ… ลดราคา 20-50% ส่งผลให้ผู้เขียนรู้สึกลิงโลด แหม…..ก็เป็นคนรักชาติสักขนาดนั้น……สิ่งไหนที่พอจะช่วยชาติได้ก็ต้อง
ช่วยๆกัน เอาละ…ช้อป….เพื่อชาติ…ช้อปกระจาย….เลยยยยยยยยยย
ไม่มีความเห็น