คนเรามีเรื่องต่าง ๆ มาผ่านชีวิตเรามากมาย หลายคนไม่มีแม้แต่เวลารับประทานอาหารให้ตรงเวลา หรือการให้เวลาพักผ่อนกับตัวเอง เลยมีความเครียดมาก ลองติดตามอ่านต่อซิครับผมมีสาระเกี่ยวกับโรคกระเพาะอาหารให้พอสังเขปดังนี้
สาเหตุของคนเป็นโรคกระเพาะอาหารใหญ่ ๆ
1.ความเครียด ถามว่าคนเรามีความเครียดได้อย่างไร คำตอบก็คือ ความเครียดอาจจะมาจากการทำมาหากินของเรา การหารายได้ ความยุ่งยากจากการหารายได้ หรือความยุ่งยากของคนในครอบครัว มีปัญหาต่าง ๆ มากมายที่เราแก้ไม่ตก หรือยังแก้ไขไม่ได้ ก็ทำให้เราเครียด เมื่อเราเครียดมาก ๆ ร่างกายเราก็จะหลั่งกรดออกมาในกระเพาะอาหาร และถ้าเราไม่รับประทานอาหารเข้าไป กรดในกระเพาะอาหารนั้นจะกัดผนังของกระเพาะ ถ้าเป็นเช่นนี้นาน ๆ เราจะเป็นโรคกระเพาะอาหารและ อาจถึงขั้นมีเลือดออกในกระเพาะ ตอนนี้ละยุ่งยากมากทีเดียว ดังนั้นเราจึงไม่ควรเครียด
2. การรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา ร่างกายเราทำงานเป็นอโตเมติก คือถึงเวลาระบบในร่างกายจะบอกเราเอง ว่า เราหิว เรางวงนอน เราร้อน เป็นต้น เมื่อเป็นเช่นนี้กรดที่ร่างกายหลั่งออกมาในกระเพาะอาหารและถ้า เราไม่รับประทานอาหารเข้าไป กรดนี้จะกัดผนังของกระเพาะอาหารของเรา ทำให้เราปวดท้อง และปล่อยไว้นาน ๆ เราจะเป็นแผลในกระเพาะอาหาร สุดท้ายอาจมีเลือดไหลออกมา
3. การกินยาเพื่อแก้โรคต่าง ๆ ในร่างกาย ตัวยาบางชนิดจะมีฤทธิ์เป็นกรด เมื่อเป็นกรดกรดนั้นก็จะสามารถกัดผนังกระเพาะอาหารเราได้เช่นเดียวกัน
ดังนั้นในการรักษาโรคกระเพาะอาหาร เราจึงต้องมีวินัยในตัวเอง ประการแรกคือ ไม่เครียด และวิธีที่จะไม่ทำให้เราไม่เครียดก็คือ การนั่งสมาธิ การพักผ่อน การร้องเพลง นันทนาการ เป็นต้น เมื่อเราไม่เครียดร่างกายก็จะยังไม่หลั่งกรดออกมาในกระเพาะอาหาร ประการต่อไปคือ การรับประทานอาหารให้ตรงเวลาเพื่อป้องกันไม่ให้กรดที่หลั่งมาในกระเพาะกัดผนังกระเพาะ ประการที่สามนี้ ถ้าเราจะรับประทานยาที่มีฤทธิ์เป็นกรด จำเป็นที่ต้องมีอาหารไว้ในกระเพาะอาหารของเราบ้างเพื่อให้กรดนั้นเบาบาง ไม่กัดผนังกระเพาะ และสุดท้ายถ้าเรายังไม่สามารถรับประทานอาหารได้ตามเวลาที่เราเคยรับประทานอาหารก็ควรดื่มน้ำเปล่าที่สะอาดไว้ก่อนเพื่อลดกรดในกระเพาะอาหารให้เบาบางลงไม่กัดผนังกระเพาะอาหาร แล้วรีบรับประทานอาหารให้ตรงเวลาโดยเร็ว แต่ถ้าเป็นโรคกระเพาะแล้ว ก็มีสมุนไพรที่จะช่วยรักษาได้ดังนี
1 กล้วยน้ำว้าดิบหั่นตากแดด 2. ขมิ้นชันหั่นตากแดด 3. น้ำผึ้งแท้ ๆ
วิธีทำ นำกล้วยน้ำว้าดิบและขมิ้นที่แห้งเรา น้ำหนักเสมอภาค ( น้ำหนักเท่ากัน) ไปบดให้ละเอียดแล้วนำน้ำผึ้งมาผสมปั้นเป็นลูกกลอน รับประทานครั้งละ 2-3 เม็ดก่อนอาหาร การนำน้ำผึ้งมาผสมนั้นเคยเขียนไปแล้วครั้งหนึ่งคือ เราต้องไล่น้ำในน้ำผึ้งเสียก่อน โดยนำน้ำผึ้งไปตั้งไฟอ่อน ๆ ให้น้ำละเหยโดยสังเกตจากฟองน้ำผึ้งถ้าฟองที่ผุดขึ้นมานั้นเสมอกัน เท่าๆ กันให้ยกน้ำผึ้งลงปล่อยทิ้งไว้ให้เย็นเสียก่อนจึงค่อยนำมาผสมกับตัวยาปั้นยาเป็นเส้นยาว ๆ แล้วตัดให้ขนาดเท่า ๆ กันขนาดไม่ใหญ่มากจะได้กลืนยาได้ง่ายไม่ติดคอ คนที่เป็นโรคกระเพาะอาหารลองทำดูซิครับหายมาหลายคนแล้ว และอย่าลืมถ้าหายแล้วส่งข้อมูล ข่าวสารมาบอกกันบ้าง การผสมยาแต่ละครั้งอย่าผสมมากเดี๋ยวจะมีเชื้อรา ผสมแต่พอรับประทานครั้งละไม่มาก หมดแล้วจึงผสมใหม่นะจ๊ะ
หมอพงษ์/พิมพ์/เผยแพร่
ขอบคุณมากครับ สำหรับวิทยาทาน
แล้วผมจะต้องทานไปนานเท่าไหร่ครับ ยาสมุนไพรตัวนี้อ่ะครับ
ปล.ขอบคุณครับ
ถ้าทานน้ำผึ้งล้วน ๆ เลย จะหายไหม
ตอบคำถามสมุนไพรโรคกระเพาะอาหารครับ
ตามที่ถามมาขอบอกให้ทราบเลยว่า การรับประทานสมุนไพรนี้ไม่ควรรับประทานติดต่อกันนาน ๆ เราควรหยุดเว้น หรือพักบ้าง เช่น รับประทานติดต่อไปประมาณ 1-2 สัปดาห์ ควรหยุดพักบ้าง แล้วจึงรับประทานต่อ แต่ต้องสังเกตอาการของตัวเองว่า ขณะที่รับประทานนั้นมีอาการอย่างไร ถ้ารู้สึกว่าอาการของโรคเบาบางลงไม่มีอาการแทรกซ้อนอย่างอื่น ก็รับประทานต่อไปได้ แต่ถ้ารับประทานเข้าไปแล้วมีอาการผิดปกติมาก ๆ เช่น มีผื่นคัน บวมแดง บวมตามหน้า ตามเนื้อตัว เป็นต้น ควรหยุดรับประทานยานั้น ๆ ทันที และการรับประทานน้ำผึ้งล้วน ๆ ก็เป็นยาบำรุงขนานหนึ่ง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะช่วยรักษาโรคได้ทั้งหมด จึงควรมีสมุนไพรตัวอื่น ๆ ที่มีสรรพคุณแก้โรคนั้น ๆ ได้ เช่น ขมิ้น มีสรรพคุณในการรักษาโรคกระเพาะอาหาร แต่อย่าลืมว่า ขมิ้นก็มีสารที่มีอันตรายต่อร่างกายเราด้วย คือยางที่เปลือกขมิ้น ซึ่งถ้าจะใช้ต้องปอกเปลือกออกเสียก่อน
หวังว่าคงแก้ข้อขัดข้อง หรือสงสัยกันได้นะครับ สวัสดี
หมอพงษ์ / พิมพ์ / เผยแพร่
อยากสอบถามเรื่องสมุนไพรกับการนำไปใช้ค่ะ
ดิฉันเป็นนักศึกษาอยากสอบเพื่อนำไปทำงานวิจัยค่ะ
ไม่ทราบจะสอบถามได้ที่ไหนค่ะ
ดิฉันอยู่ที่พิษณุโลก
สรุปมาให้อ่านครับเป็นประสบการณ์ของคนต่างชาติที่เข้ารับการรักษา สำหรับคนที่กำลังรักษาแพทย์ทางเลือกแบบหนึ่งนะครับ ผมว่าชีวโมเลกุลมันน่าจะเลิศกว่าพวกเสตมเซลล์ แต่ชีวโมเลกุลดูไม่ค่อยกว้างในไทยหรือว่าไม่ทำการตลาดเหมือนสเตมเซลล์รึเปล่าครับ แต่ก็ยังงงๆว่ามีแค่ในไทยเหรอครับเพราะเค้าต้องส่งมารักษาที่ไทย หรือเพราะที่เมืองนอกแพง เมืองไทยถูกและดีกว่า ใครอ่านเสร็จแล้วเข้ามาแชร์ไอเดียกันนะ
ข้อความประมาณนี้ครับ
ลูกผมเป็นโรคทางเดินอาหารเรื้อรังมาประมาณ 6 ปีหมอแนะนำให้ทำการผ่าตัดเนื่องจากปัญหาส่วนใหญ่เกิดในลำไส้และลำไส้เล็ก ผมจึงเริ่มหาทางเลือกใหม่ในการรักษา Crohn’s Disease และได้พบข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยี่ใหม่ในการรักษาด้วยวิธีของ Vitorgan จากเยอรมนีซึ่งได้แนะนำให้ผมนำลูกมารักษาที่ศูนย์ชีวะโมเลกุลที่ประเทศไทยตามเวปไซด์www.biotherapycenter.com
ตลอดเวลาที่ลูกผมทำการรักษาแบบเก่าด้วยการใช้ Corticosteroid เขาทรมานจากอาการของโรคนี้มาก ผมส่งผลการรักษาของลูกมาที่ศูนย์ชีวะโมเลกุลซึ่งทางศูนย์ก็ตอบรับที่จะรักษาลูกของผมและยืนยันว่าเคยมีการรักษาโรคแบบนี้ประสบผลสำเร็จมาแล้วผมจึงตัดสินใจเดินทางพร้อมลูกมารักษาที่ประเทศไทยผมพบอาจารย์ท่านหนึ่งและตัดสินใจให้ลูกทำการรักษาด้วยการฉีดวัคซีนและรักประทานยา
นับแต่อาทิตย์แรกลูกผมรู้สึกดีขึ้นหายไข้และอาการปวดท้องหายไปเราตัดสินใจทำการรักษาต่อตามโปรแกรม 2-3 เดือนทุกวันนี้สุขภาพลูกผมดีขึ้น 60% ไม่มีอาการไข้และอาการปวดที่ข้อหายไปอาการท้องเดินซึ่งเคยต้องเข้าห้องน้ำ 7 – 8 ครั้งเหลือเพียง 3-4 ครั้งต่อวันและเกือบหายเป็นปลิดทิ้งไม่มีอาการเลือดออกและมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นและมีชีวิตเหมือนคนปกติได้ตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไปเราหยุดการรักษาแบบเดิม
https://healthunlocked.com/foggys/posts/656624/crohns-disease