หลายคนคงอยากให้ “คนรัก” ของเรามีความรักและความซื่อสัตย์ให้กับเราเหมือนอย่างที่ “น้องหมา” มีให้กับเจ้าของ เพราะนั้นคือความรักที่บริสุทธิ์ และเมื่อเรามีความรักแล้ว เราก็อยากที่จะรักษาความรักนั้นให้อยู่กับเราไปนานๆ ใช่ไหมค่ะ
แต่สำหรับ “ความรัก” แล้วมีความจริงอยู่ข้อหนึ่ง ... ในบางครั้งความไม่พอใจในตัวตนของกันและกันก็เป็นจุดบั่นทอนทำลายความรักสองคนสองคนได้ ... ใครที่มีความรักคงเข้าใจความจริงในข้อนี้ดี และถ้าใครกำลังเผชิญความจริงแห่งความรักอย่างที่กำลังพูดถึงล่ะก็ ลองมาดู 6 ข้อคิดดีๆ จากนักฝึกสัตว์เลี้ยง เพื่อ “ปรับ” พฤติกรรมบางอย่างของคนรักให้เข้าใจกันมากขึ้นดีกว่าค่ะ
สัตว์มีสัญชาตญาณหลายอย่างไม่ต่างจากคนเรา นักฝึกสัตว์เลี้ยงได้เรียนรู้และอธิบายถึงความลับที่บรรดาสัตว์สอนเค้า ซึ่งสิ่งเหล่านั้นสามารถนำเอาบางอย่างมาใช้กับ “ความรัก” ได้อย่างน่าอัศจรรย์
1. ยอมรับว่าบางอย่างไม่มีวันเปลี่ยน นักฝึกสัตว์จะไม่สอนอะไรที่ขัดกับสัญชาตญาณของสัตว์ เพราะนอกจากมันจะไม่ได้ผลแล้ว ยังอาจทำให้เกิดปัญหาตามมาได้ กับความรักก็เช่นเดียวกัน มีบางเรื่องที่เราไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ เพราะนั่นเป็นตัวตนและความเป็นเค้า ลองคิดให้ดีว่าเมื่อเริ่มแรกที่คบกับเค้าก็เป็นอย่างนี้อยู่แล้ว และนั้นก็คือสิ่งที่ทำให้เรารักเค้าไม่ใช่หรือ แล้วมีเหตุผลอะไรที่เราจะต้องเปลี่ยนเค้า
2. เพิกเฉยต่อพฤติกรรมที่ไม่ต้องการ ถ้านักฝึกสัตว์สั่งให้สัตว์พลิกตัว แต่มันกลับกระโดด เขาจะตอบสนองด้วยท่าทีและสีหน้าอันเรียบเฉยไม่ใส่ใจ เพราะการมีปฏิกิริยาใดๆ ก็ตามจะยิ่งผลักดันให้เกิดพฤติกรรมเช่นนั้นต่อไปอีก เช่นเดียวกัน ถ้าคนรักของเรากำลังอารมณ์เสีย แล้วเราก็ไปใส่ใจกับอารมณ์นั้น นั่นจะยิ่งเป็นการทำให้ความรู้สึกและอารมณ์ของเค้าแย่ลงไปกว่าเดิม เราต้องฝึกควบคุมตัวเองในสถานการณ์เช่นนี้ และเค้าจะมองหาวิธีใหม่ (ซึ่งหวังว่าจะเป็นวิธีในแง่บวก) เพื่อเรียกร้องความสนใจจากเราแทน
3. ชมเชยหรือแสดงความพอใจต่อพฤติกรรมที่ต้องการเห็น น้องๆ ต้องจำไว้เลยว่า ยิ่งเค้าพยายามมากเท่าไหร่ที่จะทำให้เราพอใจ เราก็ควรแสดงออกถึงความรู้สึกดีๆ และทำสิ่งดีๆ ให้กับเค้ามากยิ่งขึ้น
4. อย่าตำหนิตัวเองเวลาที่เค้าประพฤติตัวไม่ดี เวลาที่สัตว์ไม่ทำตามที่สอน นักฝึกสัตว์ที่ดีจะไม่เอามาเป็นเวลาอารมณ์ มันก็เป็นแค่เรื่องของพฤติกรรมเท่านั้นเอง สำหรับคนรัก น้องๆ ควรหยุดถามตัวเองเสียทีว่าทำไมเค้าถึงทำเช่นนั้นกับเรา แต่ถามว่าเค้าทำแบบนั้นเพราะอะไร นั่นน่าจะเป็นการหาคำตอบที่ดีมากกว่า
5. เลือกช่วงเวลาอย่างเฉลียวฉลาด ที่โรงเรียนฝึกสัตว์ จะไม่มีการฝึกงูเวลาที่มันลอกคราบ เพราะมันมีแนวโน้มที่จะกัดได้มากกว่า เช่นเดียวกับคนอย่าพยายามหาเหตุผลกับใครก็ตามเวลาที่กำลังเจ็บป่วย ไม่สบาย หงุดหงิด เหนื่อย หรือหิว ถ้าทำแบบนั้นก็เตรียมรับการฉกกัดฟาดง่วงฟาดงาจากอีกฝ่ายได้เลย
6. ทำให้คนรักของเรามีความสุข ครั้งหนึ่งการงดให้อาหารเป็นเทคนิคที่นิยมกันมากในการฝึกปลาโลมา แต่ทุกวันนี้คนฝึกสัตว์รู้ดีว่าการปฏิเสธสัตว์ไม่ได้ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีแต่อย่างใด เพราะฉะนั้น ใช้การตอบสนองในทางบวกแทน มันจะได้ผลดีกว่าการลงโทษหรือแสดงออกในทางไม่ดีนะคะ
แต่ก่อนที่จะจากกันไป... ต้องสังเกตให้ดีนะว่าควรใช้คำว่า “ปรับ” ไม่ใช่ “เปลี่ยน” เราไม่ควรเปลี่ยนตัวตนของใคร รวมถึงไม่ควรเปลี่ยนตัวตนของตัวเองเพื่อให้เค้ามารักเราด้วย เพราะการเปลี่ยนตัวตนคงทำไม่ได้นาน เมื่อถึงวันหนึ่งเราก็จะกลับเป็นตัวตนที่แท้จริงของเราอยู่ดี แต่การปรับเข้าหากัน เพื่อให้เกิดความรู้สึกดีๆ เมื่ออยู่ร่วมกันมากขึ้นนั้น เป็นสิ่งที่ควรทำค่ะ ^
นำไปใช้คงดีมาก...
แต่ติดที่ว่าจะใช้กับใคร
อืมก็แปลกดีนะ
เอาพฤติกรรมที่เราใช้กับสัตว์เลี้ยง
มาประยุกต์ใช้กับคนได้มั้ยอ่ะ
แต่ดูๆแล้วน่าจะนำไปใช้ได้นะ
ปล.รักสัตว์ค่ะ
ชอบเลี้ยงหมามากเลย..
จานำไปใช้กะเจ้ามูมมาม..หมาเรานะ..
ขอบคุณค่ะ..
บทความนี้ดีจัง
สามารถนำมาใช้กับเราได้
ขอบคุณคะ
ดีจัง เปรียบคนรักก้อเหมือนน้องหมา น้องหมาน่ารักที่สุด ดีมากเลย เอาไปฝึกเพื่อน ๆ บ้าง
อืม ๆ ดีจัง
เราก็ชอบเลี้ยงหมานะ
เราจะนำข้อคิดดี ๆ นี้ไปใช้นะจ๊ะ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลใหม่ๆ นะค่ะ
^_____^
ดีๆคะนู๋เมท
อยากมีน้องหมาไว้ซักตัวคะ
ได้ความรู้มาก จะนำไปใช้กับลูกหมาตัวใหม่ที่กำลังจะหามาเลี้ยง
เพราะตัวเก่าโดนรถชนเสีย