ซากไดโนเสาร์ที่ภูกุ้มข้าว ต.โนนบุรี อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ถูกค้นพบเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๗ โดยพระครูวิจิตรสหัสคุณ (พระญาณวิศาลเถร รองเจ้าคณะจังหวัดในปัจจุบัน) ต่อมาคณะสำรวจจากฝ่ายชีววิทยา กองธรณีวิทยา (ส่วนวิจัยซากดึกดำบรรพ์และพิพิธภัณฑ์ธรณีวิทยา ซึ่งเป็นสำนักธรณีวิทยาในปัจจุบัน) ได้มาขุดสำรวจจนถึงเดือนตุลาคม ๒๕๓๘
พบกระดูกไดโนเสาร์กินพืชมากกว่า ๖ ตัว มีกระดูกมากกว่า ๖๓๐ ชิ้น ภายในเวลาเพียง ๓ เดือน ซึ่งซากไดโนเสาร์นั้นมีขนาดใหญ่มีน้ำหนักและมีจำนวนมาก ทางฝ่ายโบราณชีววิทยา จึงได้จัดตั้งโครงการพัฒนาพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติภูกุ้มข้าวขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๓๘
ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๔๔ – ๒๕๔๘ กรมทรัพยากรธรณีได้จัดสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์ขึ้น เป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการถาวร เพื่อบริการและเผยแพร่ความรู้ให้กับประชาชน และเป็นสถานที่ใช้ศึกษา ค้นคว้าของนักวิชาการจากทั่วโลก ที่มาแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน
ต่อมาสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระราชทานพระราชานุญาตให้ใช้ชื่อพิพิธภัณฑ์นี้ว่า “พิพิธภัณฑ์สิรินธร” เมื่อวันที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๔๙ ปัจจุบันกรมทรัพยากรธรณีได้ขุดค้นซากไดโนเสาร์พบกระดูกมากกว่า ๗๐๐ ชิ้น
เป็นกลุ่มของกระดูกส่วนขา สะโพก ซี่โครง คอ และหางของไดโนเสาร์กินพืชและกินเนื้ออีกอย่างละ ๒ ชนิด จากลักษณะของกระดูกพบว่า เป็นไดโนเสาร์กินพืชสกุลภูเวียง (Phuwiangosaurus Sirindhonae) ๑ ชนิด และเป็นไดโนเสาร์กินพืชชนิดใหม่อีก ๑ ชนิด คาดว่าอาจเป็นไดโนเสาร์สกุลและชนิดใหม่ของโลก
พิพิธภัณฑ์สิรินธรมีทั้งหมด ๘ โซนดังต่อไปนี้
โซนที่ ๑ จักวาลและโลก จักวาล โลก สิ่งมีชีวิตรวมทั้งไดโนเสาร์ถือกำเนิดขึ้นมานานแล้ว นักวิทยาศาสตร์พยายามค้นหาเรื่องราวที่ลี้ลับนี้ นับจากการระเบิดครั้งยิ่งใหญ่หรือ “บิ๊กแบง” ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของจักรวาล การกำเนิดของดาวฤกษ์และพัฒนาการของระบบสุริยะและโลก สัณฐานธรณีต่าง ๆ บนโลกรวมทั้งหินต่าง ๆ บันทึกหลักฐานเกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญทางธรณีวิทยา ตลอดช่วงเวลา ๔,๖๐๐ ล้านปีที่ผ่านมาของโลก ซึ่งเราจะได้เรียนรู้ไปตามลำดับอายุทางธรณีวิทยา
โซนที่ ๒ เมื่อสิ่งมีชีวิตแรกปรากฏ ความอิ่มตัวในน้ำภายในชั้นบรรยากาศกลายเป็นฝน โดยน้ำฝนจะชะล้างเอาแร่ธาตุต่าง ๆ มารวมกันเป็นซุบข้นทางเคมี เมื่อราว ๓,๔๐๐ ล้านปีก่อน ได้มีการเกิดฟ้าผ่าลงไปยังซุบข้น ทำให้เกิดสิ่งมีชีวิตพวกสาหร่ายสีน้ำเงินแกมเขียว โดยพวกมันได้เปลี่ยนแปลงบรรยากาศของโลก จากที่เคยไม่มีออกซิเจนมาเป็นอุดมด้วยออกซิเจนคล้ายกับพืชในปัจจุบัน
โซนที่ ๓ มหายุคพาลีโอโซอิก แบ่งออกเป็นทั้งหมด ๖ สมัย คือ
- ยุคแคมเบรียน
- ยุคออร์โดวิเชียน
- ยุคไซลูเรียน
- ยุคดีโวเนียน
- ยุคคาร์บอนิเฟอรัส
- ยุคเพอร์เมียน
โซนที่ ๔ มหายุคมีโซโซอิค
๔.๑ มหายุคแห่งสัตว์เลื้อยคลานและไดโนเสาร์ หลังการสูญพันธุ์ครั้งยิ่งใหญ่ตอนสิ้นสุด มหายุคพาลีโอโซอิก สัตว์เลื้อยคลานก็ก้าวขึ้นมาครองโลก ไดโนเสาร์ครองความยิ่งใหญ่บนแผ่นดินเป็นครั้งแรก และสภาพแวดล้อมบนโลกก็ทวีความหลากหลายกว่าครั้งใด ๆ
๔.๒ ไดโนเสาร์ไทย ไดโนเสาร์ที่พบในประเทศไทยมีอยู่ ๑๖ สายพันธุ์ โดยมีอยู่ ๕ สายพันธุ์ที่ไม่ซ้ำใครในโลก เรียงตามอายุได้ดังนี้
๑. ยุคไทรแอสสิก ได้แก่ อิสานโนซอรัส, อรรถวิภัชชิ
๒. ยุคจูแรสสิก ได้แก่ สเตโกซอร์, ฮิบซิโลโฟดอน
๓. ยุคครีเทเชียส ได้แก่ ภูเวียงโกซอรัส สิรินทรเน, กินรีมิมัส, สยามโมซอรัส สุธีธรนิ, สยามโมไทรันนัส อิสานเอนซิส, ชิตตะโกซอรัส สัตยารักษ์กิ
โซนที่ ๕ วิถีชีวิตของไดโนเสาร์ การจำแนกประเภทของไดโนเสาร์แบ่งออกเป็น ๒ ชนิด คือ “ซอริสเซียน” ไดโนเสาร์สะโพกแบบสัตว์เลื้อยคลาน แบ่งออกเป็น ๒ กลุ่ม คือ เทอโรพอด ไดโนเสาร์กินเนื้อ และเซอโรพอด ไดโนเสาร์กินพืช “ออร์นิธิเชียน” ไดโนเสาร์สะโพกแบบนก แบ่งเป็น ๓ กลุ่ม คือ ไทรีโอโพแรน ไดโนเสาร์หุ้มเกราะ ออร์นิโธพอด ไดโนเสาร์ปากจะงอย และมาร์จิโนเซฟาเลียน ไดโนเสาร์หัวเกราะ
โซนที่ ๖ คืนชีวิตให้ไดโนเสาร์ สิ้นมหายุคมีโซโซอิก เกิดการสูญพันธุ์ของไดโนเสาร์ครั้งใหญ่ นักวิทยาศาสตร์ต่างพากันสันนิษฐานสาเหตุเอาไว้ได้หลายสาเหตุ เช่น อุกกาบาตพุ่งชนโลก, ภูเขาไฟระเบิด, การคุกคามของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม, และสนามแม่เหล็กโลกเปลี่ยนทิศทาง
โซนที่ ๗ มหายุคชิโนโซอิก หรือมหายุคแห่งชีวิตยุคใหม่ ครอบคลุมระยะเวลาตั้งแต่ ๖๕ ล้านปี มาแล้วจนถึงปัจจุบัน แบ่งออกเป็น ๒ ยุคคือ ยุคพาลีโอจีน และยุคนีโอจีน
โซนที่ ๘ เรื่องของมนุษย์ จาก “ไพรเมต” หรือสัตว์ในตระกูลลิง ที่อาศัยอยู่บนต้นไม้ซึ่งถือว่าเป็นบรรพบุรุษของมนุษย์ ได้แยกตัวเองออกจากเผ่าพันธุ์ลิงใหญ่ เมื่อประมาณ ๗ – ๖ ล้านปีที่แล้ว และเริ่มวิวัฒนาการมาเป็นสัตว์ที่เดิน ๒ ขา และอาศัยบนพื้นดินแต่ความโดดเด่นของมนุษย์อยู่ที่พัฒนาการทางสมอง และภูมิปัญญาที่มีความฉลาดกว่าสัตว์ประเภทอื่น ซึ่งเปิดโอกาสให้เราสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ตั้งแต่ขวานหินไปจนถึงคอมพิวเตอร์
พิพิธภัณฑ์สิรินทรมีภารกิจหลัก ๓ ด้าน คือ
๑. งานจัดนิทรรศการ โดยจัดแสดงเป็นนิทรรศการถาวรเกี่ยวกับธรณีวิทยา ทรัพยากรธรณีและซากดึกดำบรรพ์ โดยเน้นที่ซากไดโนเสาร์ที่ค้นพบในประเทศไทย ซึ่งแบ่งการแสดงออกเป็น ๘ โซนด้วยกันดังที่ได้กล่าวมาในข้างต้น
๒. งานกิจกรรมและบริการ พิพิธภัณฑ์ได้มีการจัดค่ายอบรม สัมมนา และกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการเผยแพร่ความรู้ด้านซากดึกดำบรรพ์ และธรณีวิทยา รวมทั้งการให้บริการด้านอาคารสถานที่กับผู้ที่สนใจ ไม่ว่าจะเป็นห้องประชุม อบรม สัมมนา ห้องอาหาร บ้านพัก ฯลฯ ซึ่งดำเนินงานโดยวิทยากรที่มีความรู้ความสามารถ
๓. งานศึกษาวิจัย ทำการสำรวจศึกษาวิจัย และงานอนุรักษ์ซากดึกดำบรรพ์ที่พบในประเทศไทย เพื่อเผยแพร่ความรู้ให้กับประชาชน และเป็นสถานที่ใช้ศึกษา ค้นคว้าของนักวิชาการจากทั่วโลก ที่จะมาแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน
สถานที่แห่งนี้นับได้ว่าเป็นแหล่งเรียนรู้ธรณีวิทยา แหล่งเรียนรู้ทางวิชาการ และแหล่งเรียนรู้ซากดึกดำบรรพ์ ที่สมบูรณ์ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผมคิดว่าถ้าจะศึกษาให้ละเอียดแล้วจะต้องใช้เวลากันเป็นวัน ๆ เลยทีเดียวครับ สมควรเป็นอย่างยิ่งที่เด็กและเยาวชนของไทยทุกคน จะได้มาศึกษาเรียนรู้ ณ ที่นี้...
พิพิธภัณฑ์สิรินธร ตั้งอยู่ ณ ภูกุ้มข้าว อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๗.๐๐ น. สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ โทร. ๐๔๓-๘๗๑-๐๑๔, ๐๔๓-๘๗๑-๓๙๔ โทรสาร. ๐๔๓-๘๗๑-๐๑๔
ข้อมูลจาก : เอกสารแผ่นพับแนะนำพิพิธภัณฑ์สิรินทร (SIRINDHORN MUSEUM)
อยากไปเที่ยว...
ขอบคุณนะค่ะ...
สวัสดีครับ คุณ chipmunks
สวัสดีค่ะ..อาจารย์
ในภาพเป็นสถานที่น่าท่องเที่ยวมากเลยค่ะ..ถ้ามีเวลาว่างก็จะไปเที่ยว..
สวัสดีครับ คุณตัวเรา
สวัสดีค่ะอาจารย์..เมื่อวันที่18 มี.ค.นี้ได้เดินทางไปชมพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์แล้ว..ชอบมากค่ะ ได้ความรู้อย่างมาก..ถ้ามีเวลาว่างก็จะไปอีกค่ะ
สวัสดีครับ คุณตัวเรา
พานักเรียนไปศึกษา เมื่อ 23 ก.พ.52ค่ะ ครู นักเรียน ผู้ปกครอง ชอบมาก
ขอบคุณ ข้อมูลเพิ่มเติมนี้ นะคะ
สวัสดีครับ คณะบุคลากรโรงเรียนบ้านภูมิศาลา
สวัสดีค่ะ
สว้สดี เช่นกันคุณครูคิม
ไปเที่ยวมาแล้วค่ะ น่าเที่ยวมากๆ
อยากให้คนที่ไม่เคยไปลองไปดูนะคะ
พาเด็กๆไปเพื่อการเรียนรู้จะยิ่งดีค่ะ
ภาพสวยนะคะ
สวัสดีครับ คุณดุจดาว