22. โห่หลังฝน......ล่าอีเก้ง


ผู้อ่อนแอย่อมพ่ายแพ้ผู้เข้มแข็ง

        หลังอาหารเย็นคืนนั้น เป็นเหมือนคืนก่อนๆ ที่ผมไม่อยากลงไปเดินเล่น ผมอยากนอนที่ชานบ้านฟังเสียงแคนของเจ้าเถิงประสานกับเสียงพิณของบุญมามากกว่า เสียงแคนที่นุ่มนวลสอดรับกับเสียงพิณที่แหลมใสกังวาน ท่วงทำนองกระชั้นถี่ บางคราวออดอ้อนบางคราวฮึกเหิม ทำให้เกิดจินตนาการอย่างไม่มีขอบเขต

        ผมนึกย้อนไปถึงวันเลือกโรงเรียนหลังจากการสอบบรรจุ ผมไม่ได้เลือกโรงเรียนบ้านคำบาก ผมเลือกโรงเรียนที่อยู่ห่างจากอำเภอบุณฑริกเพียงไม่ถึงสิบกิโลเมตร แต่...มีครูสตรีท่านหนึ่งเป็นผู้มีสิทธิเลือกโรงเรียนเป็นคนสุดท้าย และมีเหลือเพียงโรงเรียนบ้านคำบาก เธอจำเป็นต้องเลือก หลังจากนั้นเธอมาขอแลกโรงเรียนกับผม ผมเต็มใจให้แลกโดยไม่มีข้อแม้หรือไม่มีการเรียกร้องสิ่งของตอบแทนใดๆ แม้ว่าเธอจะขอผูกแขนให้ผมเป็นน้องชายของเธอ ผมไม่ยอมให้ผูกแขน แต่ผมยอมเรียกเธอว่าพี่ เพราะหากมีการผูกแขนตามประเพณีอีสานแล้วจะสิ้นเปลืองเงิน ซึ่งผมไม่ต้องการเช่นนั้น เมื่อผมยอมแลกมาอยู่บ้านคำบากแล้ว ผมต้องสู้แม้ว่าจะมีผมเป็นครูเพียงคนเดียว

       ผมปล่อยความคิดให้ล่องลอยไป มารู้สึกตัวต่อเมื่อมีลมเย็นพัดกระโชก ไต้ที่จุดไว้กลางบ้านดับพรึบ และทันใดฝนก็เทลงมา ผมรีบลุกขึ้นคว้าหมอนเข้านอนในห้องก่อนที่จะถูกฝนสาด 

       มันเป็นฝนแรกที่ผมมาอยู่บ้านคำบาก ฝนที่ไม่มีเสียงฟ้าร้อง ฟ้าผ่า หรือแม้แต่ฟ้าแลบ มีเพียงเสียงสายฝนหล่นกระทบหลังคา ไหลลงตามชายคากระทบพื้นดังซู่ๆ ผมนอนฟังเสียงฝน และคิดว่ารุ่งเช้าอากาศคงจะดีมาก วิถีชีวิตของชาวบ้านหลังฝนตกจะเป็นอย่างไรหนอ แล้วผมก็หลับไป

       "ครู....ไปโห่....เร็ว" เสียงเจ้าเถิงตะโกนมาแต่ไกล ผมวางมือจากการเช็ดปืนแก๊ป หันไปดู เห็นเถิงใส่หมวกมีห่อผ้าขาวม้ามัดที่เอว ในมือถือมีดเดินป่าเล่มใหญ่

       "เออ...รอเดี๋ยว" ผมรับคำ มือขวาคว้าห่อผ้าที่วางอยู่ข้างๆ ขึ้นสะพาย มือซ้ายถือปืนแก๊ป เดินลงบันไดไปสมทบกับเถิง แล้วเราก็เดินไปทางหลังโรงเรียน ซึ่งที่นั่นมีชาวบ้านคำบากยืนรออยู่แล้วหลายคน พอผมกับเถิงเดินไปถึง พวกเขาก็พาผมเดินมุ่งหน้าไปทางภูเขา

       "โห่" คำนี้ผมรู้ในตอนเช้า พอตื่นขึ้นมาพ่อเหรียญก็เล่าให้ฟังว่า ฝนที่ตกเมื่อคืนทำให้เห็นรอยเท้าสัตว์ นายพรานเขาจะตามรอยเท้ามันไป จนถึงซุ้มที่มันนอนในเวลากลางวัน ก่อนนี้ซุ้มไม่ค่อยทึบนายพรานพอที่จะมองเห็นตัวมัน แต่ตอนนี้มีไร่ที่ทิ้งร้างเป็นป่าทึบมาก มองไม่เห็นตัวมัน นายพรานจึงต้องใช้วิธีใหม่ โดยตามรอยสัตว์ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นอีเก้ง พอมันเข้าไปในไร่ทิ้งร้าง พวกนายพรานจะตีวงล้อมไร่นั้น พวกที่ไม่ใช่พราน หรือที่เรียกว่า "แหล่ง" แปลว่าลูกน้อง จะตามรอยเก้งเข้าไปในไร่ พร้อมกับร้องตะโกนเขย่าต้นไม้ ปรบมือเป่าปาก และดูรอยเท้าเก้งด้วยว่าออกไปทางไหน จะตะโกนบอกพรานด้วย เช่น "ออกเด้อ" "ตกเด้อ" "หัวนอน" ปลายเท้า" หัวนอนหมายถึงทิศใต้ ปลายเท้าหมายถึงทิศเหนือ

       บ่ายวันนั้น ฝนตกปรอยๆ ผมถือปืนแก๊ปกระบอกที่พ่อเหรียญซื้อให้ ยืนอยู่บนจอมปลวกท้ายไร่ ผมเลือกจอมปลวกเพราะทิดมีเคยบอกผมว่าปลอดภัยทั้งจากคนอื่นที่ยิงมา และจากที่เราจะยิงไปด้วย คนอื่นยิงมาเขายิงแนวราบแต่เราอยู่สูง เรายิงจากแนวสูงลงไปข้างล่างก็ไม่โดนเขา ผมยืนนิ่งถือปืนในท่าพร้อมที่จะประทับไหล่ ตาสอดส่ายไปทางไร่ เสียงแหล่งตะโกนบอกทิศดังมาแว่วๆ คล้ายจะเป้นทิศเดียวกับที่ผมยืนอยู่

       ทันใด ผมเห็นยอดไม้เล็กๆ สั่นไหว และแล้วอีเก้งตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องออกมาหันข้างให้ผม ห่างเพียงประมาณสิบเมตรเท่านั้น ผมยกปืนแก๊ปขึ้นประทับไหล่ เล็งไปที่รักแร้ กลั้นหายใจแล้วลั่นไก

       "แป๊ก" ปืนผมไม่ทำงาน เก้งตัวงามได้ทีกระโจนพรวดออกไปอย่างรวดเร็ว แต่...ยังช้ากว่าปืนของนายพรานอีกคนที่ยืนถัดผมไป

        "ปัง" สิ้นเสียงปืน ก็ได้ยินเสียงตะโกนขึ้น "เจ็บแล้วโว้ย....รีบตามไปเร็ว" นายพรานเจ้าของปืนที่แผดคำรามร้องบอกพรรคพวก 

        ปืนแก๊ปผมถูกฝนทำให้แก๊ปเปียก มันจึงไม่เกิดประกายไฟ ผมต้องเปลี่ยนแก๊ปใหม่และใส่ดินปืนในท่อส่งประกายไฟเพิ่มเข้าไป แต่มีบางคนเขาบอกว่าผมทำบาปไม่ขึ้น

        เก้งตัวนั้นถูกล่า จนใกล้ค่ำมันก็ถูกปืนอีกนัด คราวนี้ไม่รอด มันลูกแล่เนื้อ แบ่งออกเป็นส่วนๆ นายพรานผู้ที่ยิงถูกมันคนแรกได้สันนอก ผู้ที่ยิงซ้ำได้สันใน แหล่งหรือผู้โห่ก็ได้สันใน เนื้อที่เหลือแบ่งเท่าๆ กัน ผมก็ได้ส่วนแบ่งเนื้อกับเขาด้วย

        การล่าของวันนั้นจบลง โดยชัยชนะเป็นของผู้ล่า ตรงกับคำว่า "ผู้อ่อนแอย่อมพ่ายแพ้ผู้เข้มแข็ง"

อ่านต่อ ตอน 23. ควายจากภูเขา.....คืนสู่ผืนนา

หมายเลขบันทึก: 247169เขียนเมื่อ 8 มีนาคม 2009 22:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2018 14:36 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (32)

น่าสนุกจังค่ะ  การออกโห่สัตว์หลังฝนตก  คราวที่แล้วเห็นอาจารย์ล่าสัตว์ตอนกลางคืน   วันนี้ล่ากลางวันคงสนุกอีกแบบนะคะ  

ทำบาปไม่ขึ้นก็ดีแล้วค่ะ  แต่คนอื่นทำขึ้น  กฎธรรมชาติค่ะผู้อ่อนแอย่อมเป็นเหยื่อของผู้แข็งแรงกว่า

อยากไปโห่สัตว์บ้างจัง  เค้าให้ผู้หญิงไปด้วยไหมคะอาจารย์  (ล่าสัตว์ใหญ่คงอันตรายคงไม่ให้ไปด้วยแน่เลย) 

แล้วหลังฝนตกผู้หญิงไปทำอะไรคะอาจารย์  แล้วเด็กละคะ  

 หลังฝนตกน่าจะมีกิจกรรมที่สนุกเหมือนๆกันอยากทราบค่ะ  เล่นหน่อยนะคะอาจารย์  ขอบคุณนะคะสำหรับเรื่องที่น่าอ่าน

"ผู้อ่อนแอย่อมพ่ายแพ้ผู้เข้มแข็ง" แต่ยังมีอีกความคิดเห็นหนึ่งค่ะ

มีจุดหมายปลายทางที่แน่นอน (Philosopher)


"ผู้อ่อนแอย่อมพ่ายแพ้ผู้เข้มแข็ง" แต่ยังมีอีกความคิดเห็นหนึ่งค่ะ

มีจุดหมายปลายทางที่แน่นอน (Philosopher)

สวัสดีคุณดุจดาว

ตอนกลางวันตื่นเต้นกว่ามากครับ เพราะเราเห็นสัตว์ เขาจะย่องๆ ออกมา มองซ้ายขวาด้วยความระแวดระวัง ตอนนั้นผมตื่นเต้นมาก หากปืนลั่นก็คงไม่โดน เพราะตัวสั่นไปหมดเลย

ตอนนั้นทำบาปไม่ขึ้น แต่ตอนหลังทำบาปไปเยอะ คงจะเขียนในบทต่อๆ ไปครับ

ผู้หญิงไม่ไปโห่ครับ ผมไม่ทราบเพราะอะไร คงไม่เกี่ยวกับอันตรายเพราะคนเยอะ

หลังฝนตกผู้หญิงจะไปเก็บผัก กลางฤดูฝนก็จะมีเห็ดเยอะมาก หน่อไม้ป่าก็เยอะ เด็กๆ ก็จะไปกับผู้หญิง แต่หน้าฝนเด็กไม่ชอบหรอก เพราะกลางคืนไม่ได้ออกไปวิ่งเล่น ไม่ได้เล่นซ่อนหา เพราะแฉะและอีกอย่างงูเงี้ยวเขี้ยวขอเยอะ

แต่ถ้าหากฝนตกกลางวัน เด็กจะชอบวิ่งเล่นอาบน้ำฝน ผมเองก็ชอบครับ ฮิฮิ

สวัสดีครับ คุณภัทรานิษฐ์

ไปเที่ยวอ่านมาแล้วครับ "จุดหมายปลายทาง"

อ่านแล้วต้องคิด กินใจครับ

ขอบคุณครับ

อิจฉาจัง อาจารย์ได้ไปล่าสัตว์ คงสนุกและตื่นเต้นสุดๆเลย ชอบๆบรรยากาศหลังฝนตก

อาจารย์คะดิฉันขอก๊อปปี้เรื่องของอาจารย์ที่เขียนเก็บไว้อ่านได้ไหมคะ ก๊อปไว้ทุกบทเลย ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ(ไม่เอาไปขายแน่นอนค่ะ)

 

ครับ สนุกและตื่นเต้นมาก

ยินดีให้ก๊อปปี้ครับ (ถ้าขายได้ก็ยินดีครับ....แต่ต้องเอาเงินมาแบ่งผมด้วยนะครับ....ฮิฮิ งก)

อิอิ เดี๋ยวทำป็นรูปเล่มขายให้อาจารย์ชื้อนะคะ ได้ตังค์มาแล้วจะแบ่งไม่เท่ากัน ดิฉัน 70% อาจารย์30% (อิอิอิไม่งกน้อย)

ตอนนี้ก๊อปปี้เก็บไว้แล้วค่ะ 26 หน้าแน่ะ

ขอบคุณอาจารย์นะคะที่อนุญาต

โอ...26 หน้า เชียวหรือ คงจะขายได้ไม่เกินเล่มละ 10 บาท (เอาไว้ห่อกล้วยแขก...ฮิฮิ) ถ้าอย่างนั้นผมก็ได้ 3 บาท ซื้ออะไรได้หว่า ถ้าตอนเด็กๆ ก็จะซื้อเม็ดมะขามคั่ว เคี้ยวกินตอนดูหนังกลางแปลง 3 บาท กินตั้งแต่หนังเริ่มฉาย จนหนังเลิกก็ยังไม่หมด

โห สิบบาทเองหรอคะ ได้น้อยจังค่ะอาจารย์ เปลี่ยนใจแล้วเก็บไว้อ่าน

เองดีกว่าค่ะ พูดถึงเม็ดมะขามคั่ว หน้าหนาวมีกินเยอะค่ะ แต่ว่าชอบแซ่น้ำมากกว่าค่ะ นุ่มเคี้ยวง่ายดีค่ะ เพื่อนๆที่ทำงานชอบกินกันค่ะ ดิฉันก็ชอบ ราคาถูกดีกินได้นานดี เค้าเรียกกินฟ้าลั่นกันสงสัยมาจากการเคี้ยวเสียงดัง แต่ว่าดิฉันชอบเอาเปลือกใส่กระเป๋าเสื้อ เวลาซักชอบลืมเก็บออกทำให้เสื้อสีเหลืองค่ะ เสียเลยค่ะ

โอ....อิจฉาจัง...มีกินที่ทำงานด้วย ที่นี่หากินไม่ได้เลย....สงสัยคนแถวนี้กินไม่เป็น

ส่งไปทางนู้นบ้างซิครับ

อิอิอิ กินได้ค่ะอาจารย์เพื่อนๆที่ทำงานส่วนมากมีแต่ผู้หญิงผู้ชายมีสองคนเองค่ะ   และกินต้องแอบกิน หรือไม่งั้นก็กินนอกเวลาราชการด้วยค่ะ  รอให้มีเมล็ดเยอะๆถ้าอาจารย์อยากกินก็บอกนะคะจะส่งไปให้เลยค่ะ  แต่ว่าอาจารญเป็นผู้ชายชอบกินเม็ดมะขามคั่วหรอค่ะนึกว่ามีแต่ผู้หญิงเค้ากินกันค่ะ  แปลกดีเหมือนกันนะคะ

 

วันนี้พึ่งเลิกงานค่ะ

ชื่นชมที่ท่านเป็นครู ผู้เสียสละ เพราะตอนจับฉลากครั้งแรกก็เคยโดนเพื่อนแลกที่ทำงาน แต่ก็พร้อมใจกันทั้งสองฝ่าย ขอให้คุณครูทำงานเพื่อเด็กโรงเรียนคำบากนานๆค่ะ

ขอบคุณครับ คุณน้อยหน่า

ผมก็ชื่นชมงานของคุณนะครับ เคยไปน่านครั้งเดียวในชีวิต รู้สึกว่าไกลมาก ชอบตลาดเที่ยงคืนไม่เหมือนที่อื่น ไม่ทราบว่าตอนนี้ยังคงมีเหมือนเดิมหรือเปล่า

ส่วนผมออกจากบ้านคำบากมานานแล้วครับ แต่ยังคงทำงานเพื่อเด็กๆ และคงอีกนานครับ

คุณดุจดาวครับ

กินไม่ได้หรอกครับ ตอนนี้ฟันแท้เหลือไม่กี่ซี่แล้ว ฮิฮิ

เมื่อก่อนนานมาแล้ว........นานมาก.......ก็กินแบบแช่น้ำ บางทีก็แช่น้ำลาย อมไงครับ อมจนเมล็ดมะขามอ่อนแล้วค่อยเคี้ยว อร่อย

ตอนนี้อยากกิน ก็คงต้องใช้วิธีแช่นานๆ แล้วล่ะ ฮิฮิ

อิอิอิ ถึงมีฟันเเท้ก็ไม่ควรเคี้ยวค่ะ เดี๋ยวฟันแท้บิ่นหรือหลุดได้นะคะ

พออายุเยอะจรู้ว่าฟันแท้นะมีชุดเดียว และสำคัญมากด้วยค่ะ

ตอนนี้ดิฉันถึงแซ่น้ำก็อร่อยอีกแบบค่ะ  ถึงจะไม่ค่อยหอมแต่ก็กินค่ะ

และที่สำคัญ ก็คือ ค่าหมอทำฟันแพงมากมากกกก จะไปโรงพยาบาลรัฐก็คนเยอะมากกกก

เราพอมีจ่าย ก็เลยต้องไปคลินิกหมอฟัน ถูกฟันกระเป๋าแบนกลับบ้าน หุหุ

อ้อ...เข้าไปเยี่ยมในบล็อกเขียนไปเรื่อยเฉื่อยด้วยนะครับ หากพอมีเวลา

ขอบคุณหลายเด้อ

  • สวัสดีค่ะ
  • ช่วงนี้  ..ปลายฟ้า
  • ยุ่ง ๆ เพราะเร่งทำงานส่งก่อนปิดเทอม
  • งานเยอะ มาก ๆ ๆ ๆ
  • เตรียมประเมิน สมศ. เปิดเทอมด้วยค่ะ
  • อาจไม่ได้แวะมาเยี่ยมทุกวัน
  • ถ้าว่างจะพยายามแวะมาเยี่ยมค่ะ
  • เมื่อวานนี้ยุ่งทำบันทึกความดีค่ะ
  • เครื่องพิมพ์ไม่เป็นใจ ... เสียทุกเครื่อง
  • สงสัย.... ทำบุญมาน้อย
  • หาความดีไม่ค่อยจะเจอ...
  • แล้วอาจหาความชอบ...ไม่ค่อยจะได้ด้วย...
  • อิ  อิ
  • มีความสุขทุกวันนะคะ
  • ฝนตกบ่อยรักษาสุขภาพด้วยค่ะ
  •  

    (¯`°.•°•.★* ตลาดนัดอาหาร *★ .•°•.°´¯)

    ขอให้รับทราบว่า ผมคนหนึ่งที่เห็นใจคุณครู

    ยังไงก็หาเวลาพักผ่อนบ้างนะครับ

    คืนนี้....ที่มาเข้า GTK ค่อนข้างดึก เพราะไปปลดปล่อยมาครับ (ไปงานเลี้ยง ดื่ม ร้องเพลงและเต้น ปล่อยให้ความแก่มันหลุดไปกับเสียงเพลงแหบๆ ครับ ฮ่า ฮ่า....)

    คนทำดี...ก็ต้องได้ดีตอบครับ.....ปีนี้ไม่ได้สองขั้น ก็ปีหน้า ปีโน้น ปีนู้น...ปีโน้นนนนน...ฮิฮิ

    ขอบคุณที่ห่วงใยในสุขภาพ

    ขอให้มีสุขภาพแข็งแรง เช่นกันครับ

    ตั้งใจว่าจะไปเที่ยวตลาดนัดอาหารบ่อยๆ ครับ

    สวัสดีค่ะอาจารย์เปลวเทียน

    ไปมาแล้วค่ะอาจารย์ บล็อกนั้นก็มีเรื่องดีๆให้อ่านเหมือนกันนะคะ ต่อไปจะแวะไปควบคู่กันเลยค่ะ

    วันนี้เป็นวันหยุดทำงานแล้วค่ะ   ดีใจจังได้นอนตื่นเช้าๆแบบอิสระ ไปเดินเล่นตลาดเช้าๆในมอขอ ได้ของกินเพียบเลยค่ะ รู้สึกเป็นอิสระไม่ต้องเร่งรีบ  ไม่ต้องตั้งนาฬิกาปลุก 

    และที่ดีใจคือได้มาอ่านเรื่องๆดีค่ะ(ช่วงนี้เนตเริ่มรวนค่ะ)

    จั่งซี้มันต้องถอน...โอ๊ะ....ไม่ใช่ เป็นอิสระก็ต้อง ไชโย.....

    แต่ผม...วันนี้เป็นอีกวันที่ไม่มีอิสระเลย....อบรมเด็กหลักสูตรการเสริมสร้างความเข้มแข็งและเห็นคุณค่าในตนเอง เป็นวิทยากรเอง และสร้างทีมงานวิทยากรด้วย ไม่ถึงกับเหนื่อย..แต่ต้องกำกับบทตลอด.....คงอีกสักรุ่นก็ปล่อยทีมวิทยากรได้แล้ว ตอนนี้สบาย...ฮิฮิ

    อ้อ....เป็นอิสระ...ก็ต้องมีบทความดีๆ จะไปเยี่ยมนะครับ

    บทความดีๆ อิอิอิ เหมือนโดนทวงเลยค่ะ

    จริงๆดิฉันอยากอ่านบทความของอาจารย์มากกว่าค่ะ

    อาจารย์เขียนได้แบบมือาชีพค่ะ ดีกว่ามือสมัครเล่นอย่างดิฉันค่ะ

    แต่ว่าไปดูดวงมานะคะอาจารย์ (ดวงในเนตค่ะ) เค้าบอกว่าปีนี้ให้ดิฉันเขียนหนังสือ แล้วจะประสบความสำเร็จ มานึกดูจะเขียนอะไรดีที่จะประสบผลสำเร็จดี อิอิอิ 

     

     

    • แวะมาส่งกำลังใจรอบดึกค่ะ
    • ช่วงนี้งานยุ่ง  เอกสารยังไม่เรียบร้อยค่ะ
    • โรงเรียนยังไม่ปิดเทอม
    • งานเยอะๆ ๆ  มาก ๆๆ

         นำภาพ  หิ่งห้อย  มาฝากนะคะ

         หาดูได้ยากค่ะ...

     

    แวะไปฟังเพลง ที่นี่  นะคะ   ..หิ่งห้อยกับตะวัน...

    คุณดุจดาวครับ

    จริงๆ ก็ใช่ ทวงจริงๆ เขียนไปเถอะครับ อ่านได้สนุกดีเหมือนกัน

    หมอดู...หลายคนไม่เชื่อ แต่ผมเชื่อครับ ก็...ดูว่าเราจะประสบผลสำเร็จ เราต้องเชื่อ..และทำให้การทำนายเป็นความจริง (หมอดูแม่น หรือเราทำให้แม่นกันแน่....ฮิฮิ...)

    ขอบคุณมากครับ คุณปลายฟ้า (ชื่อนี้ทำให้เกิดจินตนาการได้ดีมากเลยครับ)

    เดี๋ยวนี้หาดูหิ่งห้อยได้ยากจริงๆ

    ไปฟังมาแล้วครับ ยอมรับว่าคนแต่งเพลงนี้..สุดยอดมาก

                                     

                  ภาพนี้ไปลอกเขามา ไม่รู้จะอยู่ได้กี่วัน  ภาพคนขี้ดื้อ

     

    บทความนี้สาวเยอะนะ  ชื่อก็เพราะ รูปก็น่ารัก  คนอะไร เล่าได้เล่าดี เหมือนนิทานหลอกเด็ก  แต่น่าสนอดีตนะคะ เพราะคิดว่า ชีวิตครูสมัยแต่ก่อนคงจะสงบ แต่จะต้องผจญป่าแบบนี้หละ  เพราะสมัยก่อนยังไม่เจริญ ไม่มีสิ่งยั่วยวนใจ เช่นทุกวันนี้

    ปิดยาวหลายวัน  ไปเที่ยวไหนดี

    ถ้าไปยิงสัตว์ป่า ทุกวันชาวบ้านก็ออกไปยิงหนูอยู่นะ (หนูตัวเล็ก) บางทีไปกันหลายกลุ่ม เห็นต้นไม้กระดุกกระดิก ยิงไป ปรากฏว่ายิงใส่กันเอง ต้องเป็นเรื่องเป็นราวก็มี สมัยก่อนคงไม่มีเนาะ(พูดมาไม่ไปหรอก เจริญแล้ว)

    ง่วงนอนแล้วนะคะ ไม่รู้จะทำอะไร ก็เลยแวะมา  ถ้าเกิดเบื่อเขียนขึ้นมาหายไปหลายวัน จะทำอย่างไร หรือเกิดบ้าระห่ำเขียนวันละหลายเรื่อง  จะเป็นอย่างไร

    เฮ่อ! หรือว่า  ชีวิตมันอิสระเกินไป

    ที่เขียนมาทั้งหมด  หลายอารมณ์ คนชอบคิด

     

    ลืมบอกไปดูการ์ตูนครายเครียดนะ  แอแต่คอมคุณ สปีดช้าหรือเปล่า เพราะถ้าจะดูรูปต้องใจเย็นๆ ไปดูซิ จะได้ยิ้มๆ

    ง่วงแล้ว นอนก่อนนะ พรุ่งนี้จะนอนตื่นสาย ดีไหมหนอ

    ราตรีสวัสดิ์นะคะ 

    ขอตอบรวบยอดนะครับ

    น่ารักมาก  (มิใช่เพียงการ์ตูนนะครับ คนส่งให้ก็น่ารัก... น่ารักที่ให้คลายเครียดนะครับ  ฮ่า ฮ่า)

    โอ๊ะ ๆ มิใช่นิทานหลอกเด็กครับ เรื่องจริง จากชีวิตจริงของผมเลยหละ

    ครูคนอื่นเขาก็อยู่อย่างสงบครับ ผมบ้าของผมเอง ฮิฮิ

    ปิดยาว คงไม่ได้ไปไหนครับ ... พักผ่อนอยู่บ้าน ทำบุญที่วัดใกล้บ้าน ซื้อไอติมที่มาขายหน้าบ้าน เอาคอมฯ ไปเล่นเน็ทที่ศาลาเล็กๆ หน้าบ้าน เย็นๆ ก็ตกแต่งสวนหน้าบ้าน ค่ำเข้าบ้านเล่น GTK คุยกับคนไกลบ้าน (ขอคุยกับคุณสุคนแรกดีไหม ฮิฮิ)

    เดี๋ยวนี้ไม่ทำร้ายสัตว์แล้วครับ กลัวกรรมมากๆ กรรมที่เคยฆ่าเขา หลายชีวิตมาก ขอจงอโหสิกรรมให้ข้าฯ ด้วยเถิด.....

    ผมก็ง่วงมากแล้ว ฝันดีครับ

    วันนี้ในที่ประชุมเครือข่ายพัฒนาวิชาชีพครู ผมจำไม่ได้แล้วว่าท่านใดพูด ท่านบอกว่า "อย่าทะเลาะกับคนใกล้บ้าน หากจะทะเลาะให้ทะเลาะกับคนไกลบ้าน"

    ที่ประชุมหัวเราะครืน แต่ผมไม่หัวเราะ ผมคิดว่า

    "ผมจะไม่ทะเลาะทั้งคนใกล้บ้านและคนไกลบ้าน"

    คนไกลบ้าน ก็คือ คนที่ผมมีไมตรีด้วย รักและห่วงใยเสมอ

    'ver ไปไหมครับ ฮ่า ฮ่า

    'ver กับมากไป ไม่เหมือนกันเนาะ ฮ่า ฮ่า

    นอนดีกว่า ราตรีสวัสดิ์ครับ

    พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
    ClassStart
    ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
    ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
    ClassStart Books
    โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท