21. ครูคนเดียว


ครูจะต้องสร้างความฝันความหวังของเด็กให้เป็นความจริง

      เปิดเทอมวันแรกผมไปถึงโรงเรียนแปดโมงเล็กน้อย นั่นหมายถึงเช้าที่สุดของการไปโรงเรียนที่ผ่านมา แต่ก็ยังช้ากว่าผู้ปกครองหลายคนที่นำเด็กมาเข้าเรียนชั้น ป.1 ที่นั่งบ้างยืนบ้างตามระเบียงอาคาร โดยมีเด็กๆ อยู่ข้างๆ ทุกคนมองมาที่ผม

      "มาถึงแต่เช้าเลยนะครับ" ผมยิ้มและทักผู้ปกครองชายคนหนึ่งที่บันได เขาเพียงยิ้มตอบ มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งจับแขนชายคนนั้นแน่น มองผมตาแป๋ว พอผมหันไปยิ้มให้ก็หลบสายตาเอาหน้าซุกกับหลังผู้เป็นพ่อ ผมเอื้อมมือไปแตะผมเด็กหญิงคนนั้นเบาๆ แล้วเดินผ่านพวกเขาขึ้นไปบนอาคารเรียน

       ตอนนั้นประตูหน้าต่างโรงเรียนเปิดกว้างทุกบาน ซึ่งเป็นฝีมือของนักเรียนชั้น ป.4 พวกเขาจะมาตั้งแต่เช้าโดยไม่ต้องจัดเวรทำงาน นักเรียนชั้น ป.3 จะช่วยกันปัดกวาดพื้นห้อง ส่วนที่เหลือจะเก็บขยะรอบๆ บริเวณอาคารเรียน เสร็จแล้วถึงไปวิ่งเล่นหน้าอาคารเรียน เป็นอย่างนี้ทุกวันโดยผมไม่ได้บอก ผมตรงไปที่ตู้ไม้สองบานสูงเมตรครึ่งซึ่งมีเพียงหลังเดียวในโรงเรียน ตั้งอยู่ข้างโต๊ะครูธวัชหน้าชั้น ป.4 ตู้ไม้ถูกเปิดออกอย่างง่ายดาย ไม่มีการล็อคกุญแจ และไม่มีของหาย ผมค้นหาสมุดเบอร์สองและไม้บรรทัด พอได้ครบก็ปิดตู้ แล้วเดินไปที่โต๊ะตัวเองที่หน้าชั้น ป.1

      "พาเด็กมาที่ห้อง ป.1 ครับ" ผมร้องบอกผู้ปกครองค่อนข้างดัง ก่อนที่จะเดินถึงโต๊ะ พอสิ้นเสียงผม ผู้ปกครองก็นำเด็กเข้ามาในห้อง ผมให้เด็กเลือกที่นั่งตามชอบใจ โต๊ะนักเรียนสมัยนั้นชาวบ้านและผู้ปกครองเป็นคนทำ ส่วนใหญ่เป็นไม้กระดานแผ่นเดียวมีขาที่ปลายทั้งสองข้าง หากไม้กระดานยาวก็จะเสริมขาตรงกลาง ส่วนสูงของโต๊ะประมาณหนึ่งฟุต เด็กจะนั่งพื้นใช้ไม้กระดานเป็นที่รองกระดานชนวน

       หลังจากที่เด็กนั่งเรียบร้อยแล้ว ผมก็เรียกผู้ปกครองที่บ้างนั่งบ้างยืนบริเวณนั้นมาทีละคน ผมจดชื่อเด็กและชื่อผู้ปกครองทุกคนลงในสมุดเบอร์สอง หากรายใดมีทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้านมาด้วย ก็จะบันทึกอย่างละเอียด ผู้ที่ไม่ได้เอาทะเบียนบ้านมาด้วยให้นำมาในวันหลัง หลังจากบันทึกเสร็จก็ให้ผู้ปกครองกลับบ้านได้

       "ครูธวัช ไม่มาเหรอวันนี้" ผู้ปกครองคนหนึ่งถามผมก่อนที่จะกลับ "ถ้าไม่มาครูอยู่คนเดียว คงเหนื่อยแย่"

       "ไ่ม่เป็นไรครับ" ผมรีบตอบ ก่อนที่เขาจะเดินออกไปจากห้อง ขณะนั้นเก้าโมงแล้ว เด็กชั้นอื่นๆ แทบทุกคนเข้ามาในห้องแล้ว ส่งเสียงพูดคุยกันดังลั่น มีเพียงเด็กชั้น ป.1 เข้าใหม่เท่านั้นที่นั่งเงียบ

        เป็นอันว่าเช้านี้ไม่มีเสียงแผ่นเหล็กถูกตีเป็นระฆัง ไม่มีเสียงเพลงชาติและสวดมนต์ เพราะสายแล้วแดดจัด ได้เวลาที่ผมจะต้องสอนนักเรียนแล้ว

        ผมเรียกชื่อนักเรียน โดยเริ่มจากชั้น ป.4 ชั้น ป.3 และชั้น ป.2 ปรากฏว่าเด็กอยู่ครบ ส่วนเด็กชั้น ป.1 ที่เข้าใหม่วันนี้ 8 คน รวมกับที่สอบตกไม่ได้ขึ้นชั้น ป.2 อีก 6 คน รวม 14 คน ผมไม่ได้เรียกชื่อเพียงแต่บอกว่า จะไปคุยด้วยทีหลัง เพื่อไม่ให้เป็นพิธีการเกินไป

        ผมเริ่มสอนโดยให้เด็กชั้นป.1 - ป.3 วาดรูปอะไรก็ได้ แต่ให้เงียบห้ามพูดคุยกัน แล้วผมไปสอนเลขชั้น ป.4 โดยเขียนโจทย์ระดับชั้น ป.3 บนกระดานดำเป็นการทบทวน แล้วให้เด็กทำแบบฝึกหัด หลังจากนั้นเข้าสอนเลขชั้น ป.3 และชั้น ป.2 ตามลำดับ ผมได้มาพูดคุยกับเด็กชั้น ป.1 เมื่อเกือบจะเที่ยงแล้ว แต่นั่นผมคิดว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะเด็กได้คุ้นเคยกับเพื่อนๆ และสิ่งที่สำคัญคือคุ้นเคยกับเสียงผมที่เขาได้ยินตลอดเช้า ทำให้เด็กๆ ไม่กลัวผม ทุกคนกล้าที่จะพูดคุยกับผมด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม

         ช่วงบ่ายผมใช้วิธีสอนแบบเดิม เพียงแต่เป็นวิชาภาษาไทย จนเกือบบ่ายสามโมงขณะที่ผมกำลังเล่านิทานให้เด็ก ป.1 และ ป.2 ฟัง ก็ได้ยินเสียงเด็กที่ขออนุญาตไปปัสสาวะ วิ่งขึ้นบันไดกลับมาพร้อมทั้งพูดว่า "ครูธวัช มาแล้ว" 

         ผมแปลกใจมาก ทำไมแกมาตอนนี้ แต่..เมื่อครูธวัชขึ้นมาบนอาคาร เดินมาหาผม ผมก็เข้าใจ

         "ไปอำเภอมา" ครูธวัชบอก "ผมได้รับคำสั่งย้ายไปอยู่โรงเรียนบ้านห้วยข่า....นี่คำสั่ง" แกยื่นซองหนังสือราชการให้ผม แล้วสั่งต่อว่า "อย่าลืมลงทะเบียนรับหนังสือนะ"

          ผมรับซองหนังสือราชการจากครูธวัช ซองถูกแกะแล้ว ผมดึงกระดาษในซองออกมาอ่าน

         "ผมจะมอบงานวันนี้เลยนะ" ครูธวัชพูดต่อ ในขณะที่ผมยังงงกับความเปลี่ยนแปลงที่ฉับพลัน "มอบงานก็ไม่มีอะไรมากหรอก เพียงลงชื่อมอบงานในสมุดหมายเหตุรายวันเท่านั้นเอง"

         หลังจากนั้นเราก็ปล่อยเด็กกลับบ้าน ครูธวัชบันทึกมอบงานให้ผมในสมุดหมายเหตุรายวัน เป็นการมอบงานที่ง่ายมาก เขียนหนังสือไม่กี่ตัว ไม่มีรายการเกี่ยวกับการเงินแม้แต่บาทเดียว ตะวันยังไม่ถึงปลายไม้การมอบงานก็เสร็จสิ้น ครูธวัชยิ้ม บอกลาผมด้วยใบหน้าที่เปี่ยมสุข แล้วเดินออกจากหมู่บ้านคำบาก ไม่กลับมาอีกเลย

        ผมเดินกลับบ้านพักด้วยความรู้สึกที่ยากจะบอก มันอ้างว้าง เดียวดาย เจือปนกับความไม่มั่นใจ ความหนักใจ เด็กเกือบร้อยคนฝากอนาคตไว้ที่ผมเพียงคนเดียว ผมจะทำให้เขาอ่านออกเขียนได้ คิดเลขเป็น ได้เพียงใด มันคงเกินกำลังผมเป็นแน่แท้

        "ครู...ครูธวัชจะมาอีกไหม" เสียงเล็กๆ ดังขึ้นข้างทาง ทำให้ผมตื่นจากความคิดวิตกกังวล หยุดเดินและหันไปดู ผู้พูดเป็นเด็กผู้ชายชั้น ป.4 เขายืนอยู่กับเด็กผู้หญิงอีกหนึ่งคนและเด็กผู้ชายอีกสองคน

         "ไม่มาอีกแล้วล่ะ" ผมตอบ

        "ครู..จะไปเหมือนครูธวัชไหม"  เด็กคนเดิมถามด้วยใบหน้าที่ดูเศร้าหมอง ผมถอนใจ มองดูเด็กอีกสามคน เห็นแววตาเศร้า ที่กำลังมองผมด้วยความหวัง

         "ครูธวัชไปคนเดียว ครูยังอยู่" พอผมพูดจบเด็กๆ ต่างโห่ร้อง แล้ววิ่งจากไปพร้อมกับตะโกนว่า "ครูเทียน ยังไม่ย้าย ครูเทียนยังไม่ไป"

         ผมยิ้มให้ตัวเอง ความท้อแท้ที่มีก่อนหน้านี้หายไปสิ้น ความมุ่งมั่นที่จะสอนเด็กไม่ทราบว่ามาจากไหน ทะลักทะลวงใจผมจนแน่นคับอก ผมเป็นครูหน้าที่คือสอนเด็กให้เป็นคนดี มีความรู้ สามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ผมจะต้องสร้างความฝันความหวังของเด็กให้เป็นความจริง

อ่านต่อ ตอน 22. โห่หลังฝน......ล่าอีเก้ง

หมายเลขบันทึก: 246941เขียนเมื่อ 7 มีนาคม 2009 15:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2018 11:16 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (30)

เป้นกำลังใจให้คุณครู แสงเทียนสำหรับเด็กๆค่ะ

เป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่ต้องเข้ามาแก้ไข ระดับนโยบาย ถ้าไม่อยากให้คนไทยเหมือน 50 ปีก่อน ขอบคุณคุณครูมากค่ะ ที่เสียสละและทำเพื่อนักเรียน ขอให้ความดีนี้จงดลบันดาลให้มีสุขภาพแข็งแรงนะคะ ทุ่มเทกำลังใจให้ค่ะ

สวัสดีครับคุณครูเปลวเทียน

นี้ก็อีกเรื่องแล้วครับที่ผมอ่านแล้วตื้นตันใจมากๆ

เป็นบันทึกที่ดีมาก กระทบความรู้สึกสุดบรรยาย

จะมีอาชีพไหนอีกหนอที่จะได้รับความรู้สึกจุกอกได้แนบแน่นเท่าการเป็นครูดีๆสักคนหนอ

ครูคนเดียวก็เปลี่ยนโลกได้ครับ ครูเป็นครูมหัศจรรย์เพียงคนเดียวที่เด็กมี อย่าไปไหนเลยนะครับ ถือว่าผมขอร้องอีกคน

อยู่เพื่อให้เด็กๆรัก ดีกว่าไปอยู่ที่อื่นที่เด็กๆจะทำให้ครูท้อจากการไม่สนใจเรียน เป็นความทรงจำให้เค้าเป็นแบบอย่างเมื่อเติบใหญ่นะครับ

ชื่นชมจากใจจริงนะครับ อย่างที่สายอาชีพผมไม่มีโอกาสได้รับเลย :)

ขอร้องอีกครั้งนะครับ ผมไม่อยากได้ยินข่าวร้ายของเด็กที่นี่อีก

ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ

อาทิตย์หน้านี้แล้ว ที่จะย้ายไปอยู่โรงเรียนที่มีครู 1 คน ภารโรง 1 คน ที่ สพท.อย.1 ตั้งใจว่าจะบันทึกประจำวันไว้เป็นกำลังใจให้ตนเอง

แล้วจะแวะมาคุยด้วยนะคะ

สวัสดีครับ คุณพยาบาลชนบท

ขอบคุณที่ให้กำลังใจครับ

งานพยาบาลกับงานครู ผู้ใหญ่ท่่านบอกว่าคล้ายกัน พยาบาลช่วยให้หายจากความเจ็บป่วย ครูช่วยให้หายจากความไม่รู้

ขอเป็นกำลังใจให้พยาบาลชนบทด้วยครับ

สวัสดีค่ะ

ยินดีที่ได้รู้จักคุณครูค่ะ

หนูชื่อวัณย์ค่ะ ชื่อในบล็อกคือ bergerค่ะ

เห็นบล็อกเป็นเปลวไฟ ดูมีพลังดีค่ะ

สวัสดีครับ คุณ adayday

อาชีพทุกอาชีพล้วนมีประโยชน์ต่อสังคมครับ ยกเว้นมิจฉาชีพ

คุณเดย์มีจิตใจที่ดีงามมาก ขอบคุณที่ให้กำลังอย่างดียิ่งและเป็นห่วงเด็กๆ ครับ

สวัสดีครับคุณน้อยหน่า

ขอบคุณที่ให้พรครับ ขอพรนั้นจงเกิดแก่คุณน้อยหน่ายิ่งๆ ขึ้นไป ครับ

ขอทุ่มเทกำลังใจให้คุณน้อยหน่าเช่นกันครับ

สวัสดีครับคุณศิริวรรณ

ยังดีที่มีภารโรงนะครับ ฮ่าฮ่า

ดีครับ บันทึกไว้ให้ละเอียด แล้วเอาลงบล็อกให้อ่านด้วยนะครับ

ขอบคุณที่เป็นกำลังใจ แวะมาอีกจริงๆ นะครับ

ขอเป็นกำลังใจให้เช่นกันครับ

สวัสดีจ้า berger

ยินดีที่รู้จักเช่นกัน

เปลวไฟนี้ พี่สาวแสนดีคนหนึ่งส่งมาให้ครับ

แล้วจะไปเยี่ยมในบล็อกนะครับ

  • อรุณสวัสดิ์ยามเช้าค่ะ
  • เป็นครูน้อย ๆ  ในโรงเรียนชนบท  ค่ะ
  • แวะมาฝากตัวค่ะ
  • มีความสุขกับการทำงานนะคะ

 

 

แวะไปดูแลสุขภาพที่นี่...นะคะ

×÷•.•´¯`•)» บ้านรักษ์สุขภาพ «(•´¯`•.•÷×

 

สวัสดีครับ ปลายฟ้า

ยินดีที่ได้รู้จักกับครูชนบท แต่อาหารเช้าหรูเลยนะครับ ฮิฮิ

ว่าแต่....ไข่ดาวรับรองความปลอดภัยว่าไม่มีเชื้อไข้หวัดนกนะ.......กลัวจัง

ยินดีรับฝากครับ (น้ำหนักเท่าไหร่ล่ะ....หากเป็นรุ่นเฮฟวี่ รับฝากได้ไม่นานนะ)

ขอบคุณครับ

ส่งข้อความนี้ให้เพื่อนอ่านเพื่อนบอกว่าซึ้งใจคุณครูมาก เล่าให้คุณแม่ซึ่งเป็นครูบ้านนอกมาก่อน  (ปัจจุบันท่านเกษียณแล้ว) ทั้งโรงเรียนมี ครู 2 คน คือครูใหญ่ กับครูน้อย คุณแม่บอกว่า ปัจจุบันยังมีแบบนี้อีกเหรอ ทำให้นึกถึงตอนคุณแม่เป็นครูบรรจุใหม่ คุณแม่ไม่ขอย้ายนานกว่า 15 ปี จึงขอย้ายมาใกล้บ้าน เนื่องจากมีครูเพิ่มเป็น 4 คน ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะ สงสารเด็กมากค่ะ ขอให้คุณครูเป็นเปลวเทียนสำหรับเด็กตลอดไปนะคะ

คุณน้อยหน่าครับ

ขอบคุณที่แวะมาอีกและนำเรื่องที่สร้างความปลื้มปิติให้แก่ครูชนบทมาเล่าครับ

ครูชนบททุกคน มีสิ่งหนึ่งที่คล้ายกัน คือ วิญญาณของความเป็นครู ไม่ว่าจะเป็นอดีตเมื่อสามสิบสี่สิบปีมาแล้ว หรือว่าจะเป็นปัจจุบัน ครูชนบทยังคงมีชีวิตอยู่เพื่อเด็กที่ขาดโอกาส

บอกคุณแม่ของเพื่อนคุณน้อยหน่าด้วยนะครับว่า ปัจจุบันยังมีครูที่อุทิศชีวิตให้แก่เด็กชาวป่าชาวเขาอยู่มากมาย

ขอบคุณที่ให้กำลังใจครับ

อ่านบทนี้แล้ว  รู้สึกว่าฝีมือการเขียนของอาจารย์เปลวเทียนดีมากๆ  เขียนได้ดีจริงๆ    เปรียบดั่งนักเขียนเลยค่ะอาจารย์  นึกภาพออกเลยค่ะการบรรยายความต่อเนื่องของเหตุการณ์แสดงว่าเป็นเรื่องที่อาจารย์จดจำอย่างมากๆ  คงอยู่ในความทรงจำเลยนะคะ

คงรู้สึกดีมากๆเลยนะคะที่อาจารย์สามารถทำให้เด็กน้อยดวงตาใสๆมีความหวังมีความสุข 

ช่วงนี้ยุ่งๆค่ะอาจารย์  พึ่งมีโอกาสได้เข้าเนต  อาจารย์คงสบายดีนะคะ

สบายดีครับ และยินดีที่ได้พบกันอีก

ผมนึกแล้วว่า คุณดุจดาวคงไม่ค่อยว่าง ผมเข้าไปในบล็อก "ท้องฟ้า สายลม แสงแดด" และ "เรื่องเล่าวันพิเศษ" ก็ไม่มีการเคลื่อนไหว

จำได้ดีเลยทีเดียวครับ แม้ว่าจะผ่านมานาน

อีกอย่าง โรงเรียนที่อยู่ห่างไกลในปัจจุบัน ยังคงมีเด็กที่ขาดโอกาสอยู่มากเหมือนกัน

ขอบคุณที่เจียดเวลามาทักทายครับ

ช่วงนี้ยุ่งค่ะอาจารย์  กำลังทำผลงานเพื่อเลื่อนระดับ  วันนี้โล่งขึ้นอีกเปาะค่ะ  ส่งงานเรียบร้อยเหลือโดนส่งกลับมาแก้ไขค่ะ  ถ้าเสร็จงานนี้คงโล่งและไม่เครียดค่ะ   แต่คงใช้เวลานานค่ะสงสัยจะสิ้นตุลาโน้นม้างคะ

เรื่องบทนี้อ่านแล้วรู้สึกดีจริงๆค่ะ  รับรู้ได้ถึงความรู้สึกของอาจารย์ที่เด็กๆดีใจกระโดดแล้วร้องกันเป็นโรงเรียนที่มีครู  ดิฉันคงเป็นแรงบันดาลใจในการทำงานครูที่หมู่บ้านคำบากของอาจารย์ค่ะ  

ขอแสดงความยินดีด้วยครับ คงไม่แก้ไขอีกแล้วล่ะ ตอนนี้คงรออนุมัติแน่เลย

ยินดีอย่างยิ่งที่จะรับความมีไมตรีจิตครับ

ขอบคุณครับ

"ฝันมากทุกข์มาก  พูดมากผิดมาก" นะค่ะ กินผัดไทยดีกว่า

 

โอ...กำลังหิวพอดีเชียว (ไปงานเลี้ยงไม่ค่อยได้กินอะไร เพราะมัวแต่วางท่า พอกลับมา กำลังหิวเลย )

อร่อยจริงๆ ขอบคุณครับ

สมพรปากอาจารย์นะคะ ขอบคุณค่ะ ตอนนี้รอให้พี่ๆเค้าอ่านให้ค่ะ คงอีกนานค่ะแต่ไม่เกินตุลานี้แน่ๆค่ะ  ตอนนี้ไม่ค่อยเครียดแล้วค่ะ  ดีขึ้นเยอะค่ะ

  • ที่บ้านฝนตกค่ะ หนาวมาก พอมาถึงที่แห่งนี้อบอุ่นขึ้นมาทันที และมีพลังสู้ชีวิตต่อไปค่ะ
  • ขอบคุณบทความดีๆ เพราะเรามีเหตุผลต้องหนีจากเด็กๆแต่ละที่ๆไปเรื่อยๆ มันเจ็บปวดนะคะ ไม่อยากจากทั้งที่ยังรักมาก เพราะรักกันมากไปทั้งครูและเด็ก จึงเกิดความผูกพัน ครูต้องกลับบ้านเพื่อไปอยู่กับพ่อแม่ที่แก่เฒ่า เขาต้องการครูอยู่ดูแล..นี่คือ เหตุผลของครูที่จำใจต้องจากเธอ..นะคะ

Garten

    

ดีใจที่บทความนี้มีค่า

ทุกคนมีเหตุผลของตัวเองครับ ขอเพียงสร้างความทุกข์ใจให้ตัวเองและคนอื่นน้อยที่สุดก็พอแล้ว (นั่นหมายถึง..มีคนที่เรารักและรักเราอีกจำนวนไม่น้อยที่ได้รับความสุข)

ที่เหนือฝนไม่ตกครับ ร้อนมาก เฮ้อ..แม้แต่ฟ้าเดียวกันยังไม่เหมือนกัน

ขอให้มีความสุขมากๆ ครับ

 ยินดีแบ่งปันนางฟ้าสององค์ประทานให้ท่านที่อยู่ภาคเหนือได้รับความเย็นชุ่มฉ่ำจากฝนตกนะคะ

 ขอให้ท่านมีความสุขมากๆเช่นกันค่ะ

โอ...ช่างแปลกจริง วันนี้ถึงฝนจะไม่ตก อากาศก็ไม่ร้อนครับ เนื่องจากว่า ผมอยู่ในห้องแอร์ตลอดวันเลย...ฮิฮิ ล้อเล่น

ความจริงเราประหยัดเปิดแอร์ตอนบ่ายโมง ยกเว้นมีการประชุม และวันนี้ไปประชุมสิบโมงเลยได้อยู่ในห้องแอร์ตั้งแต่เช้า

คืนนี้จะฝันเห็นนางฟ้านะครับ น่ารักมาก

                         

                                นางฟ้าตกสวรรค์

                                      

                                         แปลว่าอะไรนะ

 

 

             

                           นางฟ้านี้  ดึงมาจากข้างบนคะ

        ผมยิ้มให้ตัวเอง ความท้อแท้ที่มีก่อนหน้านี้หายไปสิ้น ความมุ่งมั่นที่จะสอนเด็กไม่ทราบว่ามาจากไหน ทะลักทะลวงใจผมจนแน่นคับอก ผมเป็นครูหน้าที่คือสอนเด็กให้เป็นคนดี มีความรู้ สามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ผมจะต้องสร้างความฝันความหวังของเด็กให้เป็นความจริง  (ข้อความนี้ เป็นของท่านนะคะ ไม่ใช่ของดิฉัน)

ทุกวันนี้ ความคิดเหล่านี้ยังเหลืออยู่หรือเปล่าคะ เอ เหมือนหนังเรื่องครูบ้านนอกจริง ๆ  ดูจนจบมาแล้ว สุดท้ายพระเอกตายทั้งที่ยังหนุ่ม

ไม่เหมือนกันตรงนี้เอง เพราะตอนนี้พระเอกตัวจริงยังอยู่

สงสารครูสมัยก่อนจังเลยนะคะ แต่รู้สึกว่าจะมีความผูกพันมาก กับเด็กๆ  เด็กสมัยก่อนจำนวนก็น้อยที่มาเรียนหนังสือ  ครูจนได้สอนทีเดียว 4 ชั้นเลย  ประถม 1 -  ประถม 4 กลายเป็นตำนานที่ไม่วันลืมเลยนะคะ

                 เป็นอย่างไรคะ ไปเที่ยวไหนปิดหลายวัน

ดีใจมากนะครับ ที่คุณสุเข้ามาอ่านตอนนี้

เมื่อคืนนี้เอง.... ผมแก้ไขบทนี้ให้ตัวใหญ่อ่านง่ายขึ้น แล้วก็คิดว่า คุณสุน่าจะเข้ามาอ่าน พยายามติดต่อ.....

และแล้ว คุณสุ ก็เข้ามา ดีใจจริงๆ ครับ

ฮิฮิ.... นางฟ้าตกสวรรค์ หามาได้ดีจริง คลายเครียดได้ดีครับ

I love you ไม่แปลครับ เพราะแปลแล้วจะไม่ศักดิ์สิทธิ์

นางฟ้าคู่นี้ ผมอยากฝันถึง แต่จนบัดนี้ไม่ได้ฝันเห็นเลย

 ความคิดที่จะให้ฝันของเด็กเป็นจริงยังมีอยู่เต็มเปี่ยมครับ แม้ว่าจะไม่ได้สอน แต่.. ก็ล้างสมองครู ผู้บริหารอยู่ประจำ เวลาไปเยี่ยมโรงเรียนก็เข้าไปคุยกับเด็กทุกครั้งครับ

ไม่ได้ไปครับ อยู่บ้าน พักผ่อนและมีงานประชุมในวันที่ 5 ก.ค. ด้วย

ประชุมเครือข่ายพัฒนาคุณภาพชีวิตครูครับ

ขอให้คุณสุมีความสุขในวันหยุดยาวนะครับ

แต่.. ก็ล้างสมองครู ผู้บริหารอยู่ (ของท่าน)

วันเวลาก็ทำให้คนเปลี่ยนเนาะ  แต่ก่อนล้างสมองเด็ก  ตอนนี้มาล้างสมองผู้ใหญ๋  (ระดับผูบริหารเสียด้วย  ดีใจนะ ถ้าล้างสมองเขาสำเร็จ)

สนุกกับงานนะคะ  วันนี้ ถึงวันล้างสมองผู้ใหญ่อีกแล้วซิ

ล้างสมองไม่สำเร็จครับ เพียงชี้ให้พวกเขาเกิดความตระหนักในบทบาทของพวกเขา ก็ได้ผลดี

วันนี้งานประสบความสำเร็จครับ ผู้บริหารและครูมาตามเป้าหมาย แม้ว่าจะเป็นวันหยุด บรรยากาศการประชุมชื่นมื่น

ขอบคุณครับที่ให้กำลังใจ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท