trainerpatt เล่าเรื่อง


 

 

สวัสดีครับทุกๆ ท่าน  

ตอนนี้ก็ขอแนะนำตัวเป็นๆ ของผมบ้างนะครับ

ผมชื่อ พัฒนะ มรกตสินธุ์ 

ชื่อเล่น ชื่อ พัฒน์ (Patt)

ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาองค์กรและฝึกอบรม

โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ

 

ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ในระดับดุษฎีบัณฑิตสาขาวิชา

การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ Doctor of Philosophy  

Human Resources Development : Ph.D. HRD)

มหาวิทยาลัยรามคำแหง

ผมมองเห็นว่า ในอนาคตอีกไม่กี่ปี ต่อจากนี้ หลายๆ องค์การ

จะเริ่มหันมาให้ความสนใจกับคนมากขึ้นกว่าเดิม

เพราะต่อให้แต่ละองค์การจะมีกลยุทธ์หรือวิสัยทัศน์ที่สุดยอดแค่ไหน

ก็ไม่พ้นการดำเนินงานด้วยคน ดังนั้น การเรียนรู้ศาสตร์ด้านการพัฒนามนุษย์

จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจ และทำให้เราได้เปิดหูเปิดตามากขึ้น

แต่ที่สำคัญคือ...

ต้องรู้จักการรับฟังเสียงคนรอบข้างครับ

ไม่เช่นนั้นจะทำงานกับคนอย่างไม่มีความสุข

ประเด็นหลัก ที่ผมเห็นว่าควรเป็นสิ่งสำคัญนั่นคือ

มุมมองด้านความคิดและทัศนคติทางด้านบวก

(Positive Thinking และ Positive Attitude)

ที่จะผลักดันให้เราสามารถทำงานกับบุคคลต่างๆ ได้มีความสุขมากขึ้น

ซึ่งแน่นอนว่า ผมตั้งใจที่จะนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้

มาใช้ในการพัฒนาพลังความคิด

ของบุคลากรในองค์การ ให้เกิดความสุขในการทำงาน ได้ดีขึ้นเรื่อยๆ

 

ในระดับปริญญาโท จบจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

(ชื่อย่อของ มศว จะไม่มีจุดครับ ส่วนใหญ่จะเขียนผิดกัน

และคำอ่านก็คือ ศรี-นะ-คะ-ริน-วิ-โรฒ ครับ

ไม่มี ทะ-ระ เหมือนที่นักข่าวสมัยนี้อ่านกันจนผิดเป็นถูก)

รับปริญญาบัตรการศึกษามหาบัณฑิต

สาขาวิชาธุรกิจศึกษา (Business Education)

ซึ่งสาขาวิชานี้ เป็นการเรียนรู้แบบผสมผสาน

ระหว่างศาสตร์ของบริหารการศึกษา กับศาสตร์ด้านบริหารธุรกิจ

ซึ่งทำให้ผมได้เรียนรู้ว่า ศาสตร์ทั้งสองด้าน มีความสนุกสนานและท้าทายมาก

และได้นำมาปรับใช้ในการทำงานและการดำเนินชีวิตประจำวันอยู่ตลอดเวลา

แม้กระทั่ง ผมเรียนต่อ ก็ยังนำความรู้มาใช้อย่างต่อเนื่อง

 

ส่วนในระดับปริญญาตรี จบที่ มศว เช่นกันครับ

ได้รับปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิต

สาขาวิชาสันทนาการ (Recreation)

ปัจจุบันก็เปลี่ยนกลับมาใช้คำว่า นันทนาการ กันอีกแล้วครับ

สันทนาการก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับการใช้ชีวิตให้มีความหมาย มีความสุข

เป็นเรื่องของกิจกรรมต่างๆ การส่งเสริมความสดชื่น และชีวิตประจำวัน

สอนให้เราได้รับรู้ว่า ชีวิตของเรานี้

จะขาดสิ่งบันเทิงเริงรมย์เหล่านี้มิได้เลย...

ซึ่งก็เห็นจะเป็นเรื่องจริง

ซึ่งการที่ผมเลือกเรียนสาขาวิชานี้

เพราะทราบว่าตัวเองถนัดด้านไหนบ้าง?

เชื่อไหมครับ? ว่าการสอบเอ็นทรานช์ในสมัยของผมนั้น

กำหนดให้เลือกคณะและมหาวิทยาลัยที่ชอบได้ 4 อันดับ

และผมเลือก คณะพลศึกษา ภาควิชาสันทนาการ

มศว เป็นอันดับที่ 1 (รักมากแค่ไหน)

ส่วนช่องที่เหลืออีก 3 ช่อง

ใส่เครื่องหมาย 0000 ทั้งหมด!!!

(เวลาเลือกคณะ เขากำหนดให้ลงเป็นรหัสครับ)

พอที่บ้านและญาติๆ ทราบว่าผมเลือกแบบนี้

โดนด่ายับครับ...แหะแหะแหะ!!!

บอกว่า เลือกแบบนี้มันเสี่ยงมาก

หากเอ็นไม่ติดล่ะ? จะเรียนที่ไหน?

 

ต้องยกความกล้าตัดสินใจแบบนี้

ให้แก่คุณแม่และคุณพ่อของผม

ท่านให้อิสระในการดำเนินชีวิต โดยเฉพาะเรื่องการเรียน

ท่านจะปล่อยให้ผมได้ค้นหาสิ่งที่ตัวเองชอบ และสนับสนุนตลอดเวลา

จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ชีวิตของผมมีความสุข

เพราะไม่เคยถูกบังคับ แต่ท่านทั้งสอง จะใช้เหตุผลในการคุยกับผม

สิ่งไหนที่ไม่ชอบ ก็จะไม่บังคับให้ทำ

และท่านก็จะยินดีกับสิ่งที่ผมทำทุกครั้ง

ไม่ว่าสิ่งนั้นมีมีผลอย่างไรบ้าง

 

คุณแม่ก็เตรียมการณ์ให้พร้อมครับ

เพราะผมก็ได้ไปสมัครสอบที่ราชภัฏพระนครด้วย

(ปัจจุบันเป็นมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครแล้ว)

โดยเลือกคณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ

เพราะมีการกำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะสอบเข้า

คือ ต้องได้เกรดเฉลี่ยตั้งแต่ 2.50 ขึ้นไป

ซึ่งตรงนี้แหละครับ

ที่จะเป็นเกณฑ์การคัดจำนวนผู้สมัครสอบลงได้เกือบเท่าตัว

ซึ่งผมก็สอบติดเช่นเดียวกัน...

(ใช้การตลาด โดยที่ยังไม่ได้เรียน)

แต่เลือกเรียนที่ มศว เพราะชอบด้านสันทนาการมากกว่า!!!

 

 

จริงๆ แล้วการเข้าเรียนในระดับปริญญาตรี

ผมวางแผนไว้แล้วครับว่าจะต้องเรียนที่ภาควิชานี้ให้ได้

ตั้งแต่ผมยังเรียนไม่จบม.6 แต่ได้แรงบันดาลใจ

จากรุ่นพี่ที่เพิ่งจบออกไป

(ตอนมัธยม ผมอยู่ที่ร.ร.ดอนเมืองจาตุรจินดา ได้เป็นรองประธานนักเรียน

ตอนม.5 และ ประธานนักเรียนตอน ม.6 พร้อมทั้งรางวัล

นักกิจกรรมดีเด่นของร.ร.) 

รุ่นพี่ได้กลับเข้ามาแนะนำถึงคณะที่ตนเองเรียนอยู่

(ก็คณะพลศึกษา มศว นั่นล่ะครับ)

ซึ่งขณะนั้น มีอยู่ด้วยกัน 3 ภาควิชาคือ

พลศึกษา...สุขศึกษา...และ...สันทนาการ

เขาจะเรียกติดปากกันว่า

พละสุขสันต์

ก็เหมือนๆ กับว่า พวกนี้วันๆ ไม่ทำอะไร

เอาแต่สนุกสุขสันต์กันท่าเดียว

แต่ก็เห็นจะจริงครับ เพราะการเรียนการสอนนั้น

เป็นเรื่องที่เราต้องสนุกสนานกับสิ่งนี้ก่อน ก่อนที่จะไปแนะนำ

ให้ใครๆ ได้สนุกเหมือนกับเรา

กีฬาทุกชนิดต้องรู้ ต้องทราบ...

แต่จะเก่งหรือเปล่า?...ก็อีกเรื่องหนึ่ง!!!

ผมได้ฟังแล้ว ก็รู้สึกว่า

นี่ล่ะเป็นตัวเรา...

จึงตัดสินใจฟันธง...และคอนเฟิร์มว่า

ชัวร์ ไม่มั่วนิ่ม...

และผมก็ได้เรียนที่ มศว ดังใจปรารถนา...

ตามต่อด้วยปริญาโท และปริญญาเอก

 

ซึ่งก็เหมือนไม่เกี่ยวข้องกันเลย

แต่ผมขอยืนยันว่า ที่เลือกเรียนนั้น

ปัจจุบันนี้ผมได้นำความรู้ที่ได้ทั้งหมด

ตั้งแต่ระดับปริญญาตรี จนถึงระดับปริญญาเอก

ที่กำลังศึกษาในปัจจุบัน นำมาใช้เกี่ยวเนื่อง

และต่อยอดอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

 

ดีใจกับตัวเองครับ ที่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร

อยากเรียนอะไร? ไม่ได้เฮตามเพื่อนๆ

ซึ่งผมก็เชื่อว่าทุกๆ รุ่น ทุกๆ ยุค เป็นเช่นนี้กันมาก

ติดเพื่อน...จนลืมไปว่า เวลาที่เราล้มหรือผิดหวัง

คนที่จะช้ำใจที่สุดคือ

ครอบครัวของเราเองครับ!!!

และคงไม่มีใครที่จะเข้าใจเราได้ดีกว่าตัวเองหรือครอบครัวของเรา

 

ผมเดินทางมาจนถึงวันนี้ได้

เป็นเพราะการตัดสินใจ มีเป้าหมายกับชีวิต

ซึ่งสิ่งนี้แหละครับที่จะพลิกเปลี่ยนให้เราก้าวหน้าได้ตลอดเวลา

ปัจจุบันนี้ผมจะใช้วลีเด็ด...ที่อ่านแล้วโดนเต็มๆ

คงไม่ใช่ คติยอดฮิต...

ความพยายามอยู่ที่ไหน...ความสำเร็จอยู่ที่นั่น

เพราะแท้จริงแล้ว

ความพยายามอยู่ที่ไหน...ความพยายามก็อยู่ที่นั่น

ถ้าเรายังพยายามต่อไป...

แต่ที่ที่จริงเราต้องเปลี่ยน

เราต้องทำได้

 

ผมจึงเชื่อว่า

“Great change always…Start from within”

การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่...เริ่มต้นจากข้างใน

ถ้าเรายังลังเลอยู่...

ความสำเร็จในชีวิตก็จะลังเลตามเราต่อไปครับ

คุณพ่อ คุณแม่ เป็นกำลังใจสำคัญ ที่จะทำให้เรา

ก้าวขึ้นสู่แถวหน้าได้...เป็นห่วง ดูแล และรักท่านทั้งสองให้มากๆ ครับ

และที่อยากฝากไว้อีกหนึ่งคติ จากพุทธศาสนสุภาษิต คือ

นิมิตตํ สาธุ รูปานํ กตญฺญู กตเวทิตา

ความกตัญญู กตเวที เป็นเครื่องหมายของคนดี

 

ขอความดีและความสำเร็จ จงอยู่กับทุกคนครับ!!!

ยังมีความสนุกอีกมากมาย ที่น่าจะเป็นบทเรียนและประสบการณ์ที่นำไปปรับใช้ได้ครับ 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 246827เขียนเมื่อ 7 มีนาคม 2009 02:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:24 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท